นานารถแนวคิด
ฟอร์ด เอกซ์พลอเรอร์ 2006
ฟอร์ด เอกซ์พลอเรอร์ (FORD EXPLORER) กับตำแหน่งรถเอสยูวี ที่ขายดีที่สุด ตลอดช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา จะทำการเปิดตัวเวอร์ชัน 2006 ในเร็วๆ นี้ ด้วยการเพิ่มพละกำลังให้มากขึ้น ประหยัดขึ้นมลพิษน้อยลง พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ก้าวหน้าที่สุด มีห้องโดยสารที่เงียบ สะดวกสบายขึ้นด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้น
ยอดขาย 5.5 ล้านคันเป็นข้อพิสูจน์ที่ดี สำหรับตำแหน่งรถเอสยูวีขายดี ด้วยแนวคิดง่ายๆ คือ การให้ความสำคัญกับผู้ใช้รถเป็นอันดับหนึ่ง นับจากการเปิดตัวในปี 1990 มันเป็นรถเอสยูวี ที่มีความเพียบพร้อมในการใช้งานทุกๆด้าน ไม่ว่าจะใช้ลากจูง หรือในเส้นทางวิบาก พร้อมกับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีให้
ฟอร์ด มอเตอร์ ฯ ทำการเก็บข้อมูลความต้องการจากลูกค้า 5 ล้านราย เพื่อนำมาใช้เป็นแนวคิดในการปรับปรุงเวอร์ชัน 2006 ตั้งแต่อุปกรณ์ลากจูง จนถึงความประณีตของการตกแต่งภายในห้องโดยสาร
การเติบโตอย่างรวดเร็วของเอสยูวี ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีการปรับเปลี่ยน โดย เอกซ์พลอเรอร์ได้นำลักษณะเด่นแบบดั้งเดิมรวมเข้ากับรูปแบบที่ทันสมัย และความอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว
จากแรกเริ่มที่มีรถเอสยูวีในตลาดไม่กี่สิบรุ่น ทำยอดขาย 929,000 คันในปี 1990 จนปี 2004 ที่เพิ่มขึ้นไปถึงสองร้อยกว่ารุ่น กับยอดขาย 4.8 ล้านคัน ทำให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของรถออกไปมีการแยกย่อยจากรถกระบะพื้นฐาน จนถึงการผลิตรถครอสโอเวอร์ ที่มีขนาดย่อมกว่า ทำให้ยอดขายของเอสยูวี ในครึ่งปี 2005 มียอดลดลง ขณะที่ยอดขายรถครอสส์โอเวอร์ เพิ่มสูงขึ้น
จากการที่รถเอสยูวี มีการเปลี่ยนแปลงออกไปเป็นสองทิศทางนั้น ค่าย ฟอร์ด จึงปรับสายพานการผลิตให้ครอบคลุมทั้งสองตลาด โดยมี ฟอร์ด ฟรีสไตล์ สำหรับกลุ่มครอสส์โอเวอร์ ด้วยขนาดที่กะทัดรัดแต่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพการใช้งาน ส่วนรถเอสยูวี มี เอกซ์พลอเรอร์ ครองตลาดอยู่
เครื่องยนต์ของ เอกซ์พลอเรอร์ ใหม่ ถูกปรับปรุงใหม่หมด ทั้งพละกำลัง การลดความสิ้นเปลือง และการควบคุมมลพิษ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ความจุ 4.6 ลิตร 3 วาล์ว/สูบ ถ่ายทอดกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เดิมแล้ว มีกำลังเพิ่มขึ้น 53 แรงม้าประหยัดน้ำมันขึ้น 10 %
ในรุ่น 2006 มีเครื่องยนต์ให้เลือก เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ความจุ 4.6 ลิตร SOHC ใช้ฝาสูบแบบ 3 วาล์ว/สูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ที่ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ ฟอร์ด มัสแตง จีที และเครื่องยนต์ความจุ 5.4 ลิตร ของ ฟอร์ด เอฟ-150 เครื่องยนต์ที่ใช้อยู่ในพิกัด 4.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 292 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 41.4 กก.-ม.
ระบบถ่ายทอดกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ได้รับการพัฒนาใหม่ล่าสุด ให้มีการใช้งานกว้างกว่าสมบูรณ์แบบทั้งสมรรถนะ และมีความสิ้นเปลืองต่ำสุด
นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากค่าย ฟอร์ด คือ การใช้ระบบ 3 วาล์ว/สูบ และระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะที่นำมาใช้กับ ฟอร์ด เอกซ์พลอเรอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด เพียงพอสำหรับการบรรทุกสัมภาระได้กว่า 1,500 ปอนด์ และลากจูงทเรเลอร์ได้น้ำหนักสูงสุดถึง 7,300 ปอนด์
เครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ สามารถลดระดับมลพิษอยู่ในระดับ ULEV เครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ 4.0 ลิตร รุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงเพลาราวลิ้น และระบบจุดระเบิด ทำให้มีมลพิษน้อยลงถึง 74 % เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ทำให้สามารถเทียบได้กับมาตรฐาน ULEV II ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับรุ่น เอสเคพ ไฮบริด
ฟอร์ด เอกซ์พลอเรอร์ 2006 เป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีความปลอดภัย ด้วยการประมวลลักษณะการชนในด้านหน้าหลายรูปแบบ ทั้งตัวเปล่า และลากทเรเลอร์ วิศวกรได้ให้ความสำคัญกับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งขนาดของผู้โดยสาร ระดับความรุนแรงของการชน เพื่อให้อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ทำงานประสานกันเป็นอย่างดี
ส่วนการลดความรุนแรงจากการพลิกคว่ำ และการชนจากทางด้านข้าง มีการติดตั้งม่านถุงลมนิรภัยซึ่งจะทำงานเมื่อมีการชนจากด้านข้าง หรือพลิกคว่ำ ด้วยเทคโนโลยี "ROLL-FOLD" ม่านแอร์แบกจะกางออกมาปกป้องศีรษะของผู้โดยสารจากการกระแทกกับกระจกข้าง พร้อมกับ SIDE-IMPACT แอร์แบก เพื่อป้องกันการบาดเจ็บระดับหน้าอกของคนขับ และผู้โดยสารในด้านข้าง ในแผงประตูหน้าทั้งสองข้างได้ติดตั้งแท่งโฟมหนาสี่นิ้ว เพื่อการลดความบาดเจ็บของสะโพกในการชนด้านข้าง
ห้องโดยสาร จัดว่ามีการเก็บเสียงดีสูงสุด ไม่เพียงแต่ในที่นั่งแถวหน้าเท่านั้น แม้แต่ในแถวที่สามก็ยังมีการเก็บเสียงดีกว่าที่นั่งแถวที่สองของเอสยูวีในระดับเดียวกัน ทำให้การสนทนาระหว่างผู้โดยสารแถวที่หนึ่ง กับแถวที่สอง หรือสาม พูดคุยกันชัดเจน แม้ว่าคุณจะเดินทางด้วยความเร็วสูงก็ตาม
ในส่วนของระบบอากาศพลศาสตร์ ได้ปรับปรุงให้มีความลื่นไหลมากขึ้น ด้วยการขยายขนาดของกระจกข้างให้ใหญ่ขึ้น นอกจากจะเป็นการเพิ่มทัศนวิสัยแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความลื่นไหลให้กับกระแสลมด้านข้าง มีผลให้เสียงรบกวนจากกระแสลมน้อยลง ส่วนแผงหลังคาได้แก้ปัญหาการกระพือด้วยการอัดร่องเพิ่มความแข็งแรงให้มากขึ้น
ระบบเฟรม ได้รับการปรับปรุงใหม่หมด ด้วยการใช้เทคนิคการขึ้นเฟรม TUBE-THROUGH-TUBE จากเอฟ-150 ที่มีการเชื่อมไขว้กัน เฟรมของ เอกซ์พลอเรอร์ ถูกเพิ่มความหนา และความกว้างขึ้นทำให้มีความทนต่อแรงดัดเพิ่มขึ้น 63 % และทนแรงบิดเพิ่มขึ้น 55 % ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้นถ่ายทอดความรู้สึกดีขึ้น และคล่องตัวมากขึ้น
ระบบรองรับด้านหลัง เป็นระบบอิสระ ทเรลลิงอาร์ม เพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น สามารถรองรับการบรรทุกสัมภาระ และลากจูงมากขึ้น ชิ้นส่วนต่างๆ มีน้ำหนักเบากว่าเวอร์ชันเดิมเพลาขับในส่วนหลังจะสอดเข้าไปในชุดซับเฟรม ทำให้ไม่กินเนื้อที่ในส่วนเบาะนั่งแถวที่สามทั้งยังมีผลให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำกว่าด้วย
ระบบรองรับด้านหน้ายังคงรูปแบบของ โลเวอร์ & อัพเพอร์ อาร์ม พร้อมกับเหล็กกันโคลงแต่ปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่มีน้ำหนักน้อยลง จากเฟรมที่แข็งแกร่งขึ้นได้เปลี่ยนมาใช้ชอคอับแบบกระบอกเดี่ยว แทนที่กระบอกคู่ของเดิม ทำให้มีความนุ่มนวลขึ้น มีการดูดซับที่ดีขึ้น และตอบสนองการขับขี่ดีขึ้น
ภายในได้รับอิทธิพลมาจากรถทรัครุ่นใหญ่ อย่าง เอฟ-150 ที่เน้นความสะดวกสบาย และความทนทาน แต่ใน เอกซ์พลอเรอร์ ได้เพิ่มความประณีต ความสะดวกสบาย และความทนทานได้อย่างลงตัว ทั้งยังเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งลายไม้ พร้อมระบบนำทาง สั่งการด้วยเสียง
ในส่วนของประตู ได้รับการออกแบบให้มีรูปแบบที่สวยงามเตะตา แม้จุดเล็กๆ อย่างที่เปิดประตู และปุ่มควบคุมการเปิด/ปิดกระจกข้าง ถูกจัดวางให้ไปรวมกันอยู่ในที่วางแขน ใช้งานสะดวกเพียงแค่ขยับปลายนิ้วเท่านั้น
ภายนอกมีขนาดที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด คือ ส่วนหน้าของรถมีการออกแบบฝากระโปรงใหม่ โคมไฟหน้าแบบใหม่ รับกับกระจังหน้าโครเมียมขัดมันให้ความรู้สึกของความหรูหรา บึกบึน และเต็มเปี่ยมไปด้วยวิญญาณของนักผจญภัย
เรื่องโดย : อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : นานารถแนวคิด
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57110