วิถีตลาดรถยนต์
โตโยตา "วีโก" ได้ทีขี่ อีซูซุ
สภาวะตลาดรถยนต์บ้านเราวันนี้กลับเข้ามาสู่ทิศทางปกติที่ไม่ค่อยจะธรรมดาอีกครั้งหนึ่งแล้วหลังจากที่เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิคในช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากกระแสการปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ จนนำมาซึ่งการปรับลดราคารถเก๋งระดับที่กำลังอยู่ในความนิยมของตลาดเป็นส่วนใหญ่ และตามมาด้วยการเปิดยุทธการชิงความเป็นเจ้าตลาดในกลุ่มรถพิคอัพที่เปิดฉากขึ้นโดย โตโยตา ส่ง "พิคอัพ วีโก" ออกมาถล่มพิคอัพ อีซูซุ ทั้งสองกระแสทำให้ยอดขายรถยนต์โดยรวมในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมถึงกับก้นเตี้ยจากระดับที่เคยทำได้เฉียด 50,000 คัน/เดือนหรือเกินเลยไปบ้างมาอยู่ที่ระดับ 40,000 กว่าคัน/เดือนเท่านั้น
มาถึงเดือนกันยายน ยอดจำหน่ารถยนต์กลับเข้าสู่ระดับที่ควรจะเป็นอีกครั้ง ด้วยยอดการขายที่ทำได้ทั้งหมด 51,118 คัน
แต่ก็ยังมีความไม่ธรรมดาที่ติดค้างคาใจอยู่อีก
ยอดขายรถเก๋งซึ่งน่าจะลิ่วโลดมากกว่านี้ จากการที่รถเก๋งยอดนิยมทั้งหลายปรับลดราคากันถ้วนหน้าแล้ว แต่กลับปรากฏว่า การปรับลดราคาแทบจะไม่มีส่วนช่วยให้เกิดการซื้อเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติเท่าไหร่นัก เคยขายกันได้เท่าไหร่ก็ขายกันได้เท่านั้น ทั้งนี้จะเป็นเพราะตลาดรถเก๋งชักจะเริ่มเกิดอาการ "อิ่มตัว" แล้วก็เป็นได้ อันนี้น่าจะเป็นปัญหาค้างคาใจเล็กๆ ที่ออกจะไม่ธรรมดาอยู่เหมือนกัน
ไฮไลท์ของตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายนมาอยู่ที่ตลาดรถยนต์พิคอัพ ซึ่ง โตโยตา ปลุกกระแสความร้อนแรงขึ้นมาเพื่อการโค่นล้มความเป็น "เจ้าตลาด" ของพิคอัพ อีซูซุ
ทั้งข่มทั้งขย่มตลาดด้วยการโชว์ตัวเลขเด็ดๆ หนุนพิคอัพ วีโก ตัวเก่งเป็นระลอกๆ
ระลอกแรก คุยว่า แค่การเปิดตัว "วีโก" ในช่วง 3 วันแรก ที่เปิดรับจองซื้อ มียอดจองเข้ามาแล้วถึง 22,000 คัน
ระลอกต่อมา ย้ำอีกทีว่า เพียงแค่ 1 เดือน ยอดจองของ "วีโก" โกยไปแล้วถึง 45,000 คัน
แล้วก็ส่งท้ายอีกครั้งด้วยสถิติยอดขายของพิคอัพ โตโยตา คอมมอนเรล ตั้งแต่นำเข้ามาสู่ตลาดกระทั่งถึงวันนี้ ทำยอดขายได้แล้วทั้งสิ้นถึง 250,000 คัน
ตัวเลขที่ยกขึ้นมาข่มขวัญกันแบบนี้ น่าจะทำให้ อีซูซุ เกิดอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวได้ไม่ใช่น้อย
แต่ดูเหมือนว่า อีซูซุ จะไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด แผนตอบโต้มีอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นต้นเดือนตุลาคมซึ่งจะถึงเวลาที่ อีซูซุ พร้อมที่จะเปิดตัวพิคอัพใหม่ออกมาประจัญหน้า วีโก ให้เห็นดำ เห็นแดงกัน
ใครจะเด็ดกว่ากัน คงต้องรอคอยเวลาพิสูจน์กันต่อไปก็ไม่นานแค่ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไปเท่านั้นเอง
แต่เมื่อยังไม่ถึงเวลานั้น ก็ต้องมาว่ากันที่เส้นฟินิชในเดือนกันยายนกันก่อน เป็นเดือนที่ โตโยตาเดินหน้าเต็มตัวกับ "วีโก" แล้ว ส่วน อีซูซุ ยังคงเตรียมพร้อมในที่ตั้งด้วย "ดี-แมกซ์" ตัวเดิม
ยอดขายรถพิคอัพในตลาดเดือนนี้ ทำให้ โตโยตา ยิ้มแปร้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่พิคอัพ โตโยตาสามารถสร้างยอดขายขึ้นขี่ยอดขายของพิคอัพ อีซูซุ ได้สำเร็จ
และก็ทำให้ โตโยตา สามารถที่จะคุยได้เต็มปากเต็มคำทีเดียวว่า โตโยตา เป็นเจ้าตลาดรถยนต์ในเมืองไทยได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว แม้ว่าจะเริ่มต้นในเดือนกันยายนก่อนเป็นเดือนแรก ส่วนเดือนต่อๆ ไปจะเป็นอย่างไรนั้นค่อยว่ากันอีกที
เอาเป็นว่า เดือนกันยายน โตโยตา เป็นเจ้าตลาดรถเก๋ง เจ้าตลาดรถพิคอัพ และรวมไปถึงเจ้าตลาดรถโดยรวมด้วย แคนี้ก็ยิ่งใหญ่ไม่ใช่เล่นแล้ว
ตลาดรถเก๋ง การปรับรถราคารถยนต์ในกลุ่มนี้ไม่ได้กลายเป็นปัจจัยเกื้อหนุนยอดการขายให้เพิ่มขึ้นมากมายแต่อย่างใด ซึ่งออกจะผิดคาดกันพอสมควรทีเดียว
ยอดขายรถเก๋งทั้งหมดในเดือนนี้อยู่ที่ 13,923 คัน มีอัตราการเพิ่มขึ้นของตลาดเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้วเพียงแค่ร้อยละ 5.2 เท่านั้นเอง
เก๋ง โตโยตา ครองความเป็นเจ้าตลาดด้วยยอดขายทั้งหมด 5,891 คัน โดยมีเก๋ง ฮอนดา ไล่จี้มาติดๆที่ 5,340 คัน ความร้อนแรงของ ฮอนดา แจซซ์ ทั้งตัวเก่าและใหม่ มีส่วนทำให้ ฮอนดา ไล่ตามติดโตโยตา เข้ามาถึงขั้นหายใจรดต้นคอแล้ว
ตลาดรถพิคอัพ 4x2 นี่คือไฮไลท์ของตลาดประจำเดือนนี้ เมื่อพิคอัพ วีโก ของ โตโยตา เริ่มออกฤทธิ์ในขณะที่พิคอัพ อีซูซุ ชะลอตัวลงเล็กน้อยจะด้วยเหตุถูก วีโก เบียด หรือจะเป็นเพราะแฟนๆ อีซูซุ กำลังรอดูท่า อีซูซุ ก็ไม่รู้ได้
ยอดขายพิคอัพ 4x2 ในเดือนนี้อยู่ที่ 27,444 คัน ขายมากกว่าเดือนเดียวกันนี้เมื่อปีก่อนอยู่ร้อยละ 16.7
พิคอัพ โตโยตา ทำยอดขายได้ 11,155 คัน เฆี่ยนยอดขายของพิคอัพ อีซูซุ ลงได้เป็นครั้งแรกโดยที่พิคอัพ อีซูซุ มียอดขายอยู่ที่ 7,629 คัน
พิคอัพยี่ห้ออื่นๆ ถูกยักษ์ โตโยตา กับอีซูซุ เบียดจนกระเจิดกระเจิง
ตลาดรถพิคอัพ 4x4 ไม่ค่อยจะมีการเปลี่ยนแปลงมากนักเนื่องจากตกอยู่ในช่วง "ขาลง" ยอดจำหน่ายได้อยู่ที่ 3,477 คัน โตเพียง ร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปีก่อน
พิคอัพ โตโยตา ยังเหนือกว่า อีซูซุ ในกลุ่มนี้ค่อนข้างห่าง โดย โตโยตา มียอดขาย 2,749 คัน ในขณะที่ อีซูซุ มียอดขายที่ 416 คัน
ตลาดรถเอสยูวี เจอเข้ากับข้อหาเป็นรถที่สิ้นเปลืองน้ำมันจนต้องถูกปรับราคาสูงขึ้นไปอีกคันละเป็นหมื่นเป็นแสน ยอดขายเลยทรุดเหลือแค่ 1,269 คันในเดือนนี้ ลดลงถึง ร้อยละ 42.1
ตลาดรถยนต์โดยรวมเดือนนี้ทำได้อีก 51,118 คัน มากกว่าปีก่อน ร้อยละ 14 และก็ทำให้ยอดขายรวม 9 เดือน ของปีนี้อยู่ที่ 438,911 คันแล้ว อีก 3 เดือนที่เหลือของปีนี้คงทำให้เป้าหมาย 600,000 คันไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
เรื่องโดย : หลวงเลียบเมือง
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/56734