เทคนิคตีนโต
โอเวอร์ฮีท
อาการเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท นั้นหลายๆ คนกว่าจะรู้ได้ก็คือ เครื่องยนต์เกิดการดับไปดื้อๆพอเหลือบไปมองเข็มเกจวัดความร้อนบนแผงหน้าปัด จึงค่อยรู้ว่าเข็มชี้ไปจนยันแถบแดงแต่ก่อนหน้านี้มีอาการเป็นอย่างไรบ้างหลายคนอาจไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน ยกเว้นแต่ผู้ที่ใช้รถมานาน มีประสบการณ์ อาจสังเกตว่า บางครั้งวิ่งทางไกลเกจวัดความร้อนก็ขึ้นสูง บางครั้งรถติดไฟแดงนิดเดียวก็ขึ้นสูง หรือบางครั้งอาจไม่มีอาการอะไรบอกให้รู้ล่วงหน้าเลย
ถ้าพูดถึงอาการโอเวอร์ฮีทของเครื่องยนต์ ต้องไล่ไปที่ระบบระบายความร้อน หรือคูแลนท์ทั้งระบบตั้งแต่รังผึ้งหม้อน้ำ ท่อยางทางเดินน้ำ เทอร์โมสตรัท ฝาหม้อน้ำ ปั๊มน้ำ ไปจนถึงน้ำในระบบ ทุกชิ้นส่วนล้วนแล้วแต่จะก่อให้เกิดปัญหาทั้งสิ้น
รังผึ้งหม้อน้ำหากมีจุดใดจุดหนึ่งที่รั่ว ในการใช้งานเริ่มแรกอาจไม่สามารถสังเกตเห็นจุดหรือรูที่รั่วได้แต่เมื่ออุณหภูมิในระบบระบายความร้อนสูงขึ้น จะทำให้มีแรงดันในระบบเพิ่มขึ้น อัดให้น้ำในระบบถูกฉีดออกมาทางรูรั่ว แม้จะเป็นรูแค่ตามด ก็อาจทำให้น้ำในระบบลดระดับลง และเมื่อในหม้อน้ำมีปริมาณของน้ำที่น้อยลง แรงดันในระบบก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้น้ำในระบบน้อยลงจนทำให้เกิดโอเวอร์ฮีท
ท่อยางทางเดินน้ำก็เช่นเดียวกับหม้อน้ำ หากมีจุดรั่วเพียงนิดเดียว แรงดันในระบบสามารถอัดให้น้ำถูกฉีดออกมาทางรูรั่วได้ ท่อยางทางเดินน้ำนอกจากจะมีรูรั่ว รอยปริแยกทางผิวของท่อแล้ว ที่ตำแหน่งรัดเข็มขัดปลายท่อก็เป็นอีกจุดที่มักจะเกิดการรั่วบ่อยๆ ควรหมั่นตรวจสอบให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
เทอร์โมสตรัท ทำหน้าที่เปรียบเสมือนวาล์วน้ำ ที่คอยเปิด/ปิดให้น้ำจากระบบเข้าหรือออกจากเครื่องยนต์ได้ในขณะที่ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ในตอนเช้าของแต่ละวัน เทอร์โมสตรัทจะทำหน้าที่ปิดกักน้ำไม่ให้น้ำไหลออกจากตัวเครื่องยนต์ได้ เพื่อให้น้ำหล่อเย็นที่ค้างตามท่อทางเดินในเครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงเร็วกว่าปกติ เมื่อน้ำร้อนได้ที่เทอร์โมสตรัทก็จะเปิดออก เพื่อให้น้ำในระบบไหลเวียนเข้าไประบายความร้อนในเครื่องยนต์ได้ ถ้าเทอร์โมสตรัทเสีย จะมีอาการเหมือนวาล์วค้าง อาจจะเปิดหรือปิดค้าง ซึ่งส่งผลให้เครื่องยนต์โอเวอร์ฮีทได้
ฝาหม้อน้ำ ก็เป็นอีกจุดที่ควรหมั่นตรวจสอบ ฝาหม้อน้ำที่เป็นปกติ จะมีขนาดแรงดันบอกอยู่ที่ฝาหม้อน้ำด้านบน แรงดันที่สูงเกินกว่าที่กำหนดไว้ จะถูกระบายออกทางฝาหม้อน้ำนี้เพื่อป้องกันแรงดันที่สูงเกินอันอาจจะทำให้ชิ้นส่วนของระบบเกิดการเสียหายได้ แต่ถ้าฝาหม้อน้ำเสียหรือหมดสภาพ แม้แรงดันจะไม่ถึงขนาดที่กำหนดไว้ แรงดันของไอน้ำในระบบก็จะถูกระบายออกทีละนิดๆ ตลอดเวลา มีอาการเหมือนกับคุณต้มน้ำไปเรื่อยๆ จนน้ำในกาแห้งหมดในที่สุด ฝาหม้อน้ำนี้มักเป็นอีกจุดที่หลายคนมองข้าม เมื่อรถเกิดอาการโอเวอร์ฮีท
ปั๊มน้ำตัวที่เป็นหัวใจของระบบเนื่องจากปั๊มน้ำจะเป็นตัวทำหน้าที่โบกพัดให้น้ำในระบบหล่อเย็นมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา ปั๊มน้ำอาศัยกลไกเฟืองขับจากเครื่องยนต์เป็นตัวขับเคลื่อนกังหันใบพัดเพื่อโบกพัดให้น้ำเคลื่อนที่ ปั๊มน้ำส่วนใหญ่มักจะเสียตามอายุการใช้งานของมัน หรือไม่ก็จะเสียเนื่องจากมีตะกรันเข้าไปจับชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนที่มากเกินไป จนเป็นเหตุให้ชิ้นส่วนนั้นๆ ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ หรืออาจจะเคลื่อนที่ได้ แต่เป็นลักษณะสะดุดเป็นบางจังหวะ หรืออาจเลวร้ายถึงขนาดกังหันไม่หมุนเลย ซึ่งอาการผิดปกติของปั๊มน้ำนี้ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์มีอาการผิดปกติ การแก้ไขต้องทำการเปลี่ยนปั๊มน้ำตัวใหม่ โดยส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยถอดออกมาซ่อม
ถังพักน้ำสำรองเป็นอีกจุดที่หลายคนมักมองข้ามความสำคัญ เพราะเห็นมันเป็นเพียงแค่ถังพลาสติคธรรมดาใบหนึ่งที่ใส่รองน้ำส่วนเกินจากหม้อน้ำ ซึ่งมันก็ทำหน้าที่รองรับน้ำส่วนเกินจริงๆ แต่เมื่อน้ำในหม้อน้ำมีการลดระดับต่ำลง สุญญากาศในหม้อน้ำจะดูดน้ำจากถังพักน้ำสำรองนี้กลับเข้าไปในหม้อน้ำ เพื่อเข้าไปหล่อเย็นในระบบ แต่เมื่อแรงดันในหม้อน้ำสูงเกินก็จะระบายน้ำส่วนเกินนี้ออกมาพักเก็บที่ถังพักสำรองนี้ ถ้ารถของคุณไม่มีถังพักน้ำสำรอง ก็จะไม่มีที่สำหรับรองรับน้ำส่วนเกิน และถ้าน้ำในหม้อน้ำลดต่ำลงมากๆ ก็จะไม่มีน้ำสำรองถูกดูดเข้าไปทดแทนน้ำที่ขาดในระบบ ส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดอาการโอเวอร์ฮีทได้เช่นเดียวกัน
ทันทีที่รถคุณเกิดเครื่องยนต์ดับไปดื้อๆ อย่าเพิ่งตกใจ ให้รีบนำรถเข้าข้างทาง และเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน จากนั้นเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้น เพื่อระบายความร้อนออก แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม. หลังจากนั้น ดูว่าเกจวัดความร้อนของรถลดลงจนถึงระดับล่างหรือยัง เมื่อเข็มของเกจวัดความร้อนลดต่ำลงมากแล้ว จึงค่อยๆ เปิดฝาหม้อน้ำออกอย่างช้าๆ เพื่อระบายแรงดันในระบบหล่อเย็นออกทีละนิด และก่อนที่จะเติมน้ำสะอาดใส่เข้าไปในหม้อน้ำ ควรตรวจสอบหารูรั่ว หรือร่องรอยที่พื้นถนนว่าในตำแหน่งใดที่มีน้ำรั่วออกมา แล้วจึงค่อยเติมน้ำใส่กลับเข้าไป ถ้าไม่แน่ใจว่ามีจุดใดของระบบหล่อเย็นผิดปกติจนทำให้เกิดอาการโอเวอร์ฮีท ควรรีบนำรถเข้าตรวจเชคที่ศูนย์บริการโดยเร็ว เพื่อป้องกันการเสียหายที่อาจเกิดตามมาได้
เรื่องโดย : วิโชค ควรรักษ์เจริญ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : เทคนิคตีนโต
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/56722