นานารถแนวคิด
จีเอมซี แคนยอน
จีเอมซี แคนยอน (GMC CANYON) ได้เปิดตัวโมเดล 2005 เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีเป้าหมายให้เป็นรถพิคอัพขนาดกลางของค่ายจีเอม ที่เพียบพร้อมที่สุด โดยมีรุ่นให้เลือกมากถึง 6 รุ่น
ภายนอกเน้นทั้งความสวยงามของรูปทรง และประโยชน์ใช้สอยสูงสุด โคมไฟด้านหน้าเป็นหลอดฮาโลเจน ขนาดใหญ่ ที่ให้ลำแสงส่องสว่างครอบคลุมพื้นที่ได้ทั้งกว้าง และไกล ด้านข้างโดดเด่นด้วยชุดโป่งทรงสวยให้ความรู้สึกของความบึกบึนแข็งแรง และมีความเคลื่อนไหว โอเวอร์แฮงหน้า/หลังที่สั้น ไม่เป็นอุปสรรคต่อการลุย จะเห็นว่ารูปทรงของ แคนยอน มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมไม่มากนัก ซึ่งทางจีเอมซี ต้องการเน้นความร่วมสมัย คาดว่าจะได้รับความนิยมสูงในอนาคต
แคนยอน มีตัวถังให้เลือกถึง 3 แบบคือ กระบะ 4 ประตู กระบะมีแคบ และกระบะตอนเดียวที่เน้นการใช้งานเป็นหลัก ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนสองล้อ ทั้งความสูงปกติ และรุ่นไฮสแตนศ์ (HIGH STANCE) ซึ่งมีความสูงเท่ากับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ และยังมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถเลือกขับสอง หรือขับสี่ก็ได้
ด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่กว้างขวาง เน้นความสะดวกสบายสูงสุดของผู้โดยสาร และความสามารถในการจัดเก็บสัมภาระ เบาะนั่งจึงถูกออกแบบให้มีการตอบสนองการใช้งานสูงสุด สำหรับรุ่นแคบ มีเบาะนั่งหุ้มผ้าแบบแถวยาว และสามารถพับพนักพิงในสัดส่วน 60:40 หากต้องการเบาะแบบบักเกทซีท สามารถเลือกสั่งได้ แต่สำหรับรุ่นเอสแอลอี จะติดตั้งบักเกทซีท เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งระบบป้อนข้อมูลให้คนขับจากกระจกส่องหลัง ที่มีทั้งเข็มทิศ และอุณหภูมิภายนอกรถ และมีฮีเตอร์ สำหรับเบาะบักเกทซีท หุ้มหนังแท้นอกจากนั้น บนแผงคอนโซล ยังติดตั้งเครื่องเสียง พร้อมเครื่องเล่นซีดี และเอมพี 3 สำหรับรุ่นที่ขายในสหรัฐอเมริกา มีการติดตั้ง XM เครื่องรับวิทยุสัญญาณดาวเทียมที่สามารถรับได้ถึง 120 สถานี เป็นสัญญาณดิจิทอล และไม่มีโฆษณามารบกวนอารมณ์ ทั้งยังสามารถอัพเดทข่าวคราวความเคลื่อนไหวได้อย่างทันที รวมถึงสามารถติดตามข่าวการจราจร หรือรายงานสภาพอากาศซึ่งจะเลือกฟังได้ทุกพื้นที่ที่ต้องการได้ หากต้องการรับฟังสัญญาณวิทยุ สัญญาณดาวเทียม ต้องเป็นสมาชิก
เครื่องยนต์ที่เปี่ยมทั้งพลัง และแรงบิด มีให้เลือกสองพิกัด เครื่องแรกคือ วอร์เทค 2.8 ลิตร 4 สูบเรียง ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า แรงบิด 25.5 กก.-ม. และอีกเครื่องหนึ่งคือ วอร์เทค 3.5 ลิตร 5 สูบเรียง ให้กำลังสูงสุด 220 แรงม้า แรงบิด 31.1 กก.-ม. เครื่องยนต์ทั้งสองมีพื้นฐานเดียวกับเครื่องยนต์ วอร์เทค 4.2 ลิตร 6 สูบเรียง ที่วางใน เอนวอย รถเอสยูวีของค่าย และเคยได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมมาแล้ว
ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิง เป็นแบบหัวฉีด พร้อมระบบคันเร่งอีเลคทรอนิค วาล์วแปรผัน และไดเรคท์คอยล์ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ (HYDRA-MATIC 4L60-E) ที่เป็นระบบเกียร์ที่มีชื่อเสียงด้านความนุ่มนวลในการถ่ายทอดกำลัง
แชสซีส์ ถูกออกแบบให้มีสมรรถนะในการตอบสนองการขับขี่ และควบคุมแม้ว่าจะเป็นเฟรมแบบขั้นบันไดที่มีคุณสมบัติทั้งด้านความแข็งแกร่ง และทนทาน สำหรับระบบรองรับของรุ่นขับหลังใช้ระบบรองรับมาตรฐานของรุ่นคือ ระบบอิสระ คอยล์สปริง ในด้านหน้า และแหนบสองจังหวะ ส่วนรุ่นขับสี่ และไฮสแตนศ์ มีระบบรองรับมาตรฐาน อิสระ ทอร์ชันบาร์ สำหรับทุกรุ่นจะติดตั้งเหล็กกันโคลงด้านหน้าขนาด 28 มม. เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ระบบพวงมาลัย ใช้แบบฟันเฟือง และตัวหนอน ที่ให้การตอบสนองบังคับทิศทางด้วยความแม่นยำสูงระบบเบรคติดตั้งระบบเอบีเอส ทั้งสี่ล้อ ด้านหน้าแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อน ขนาด 280 มม. ทำงานด้วยลูกสูบเบรคคู่ พร้อมเซนเซอร์ วัดความหนาผ้าเบรค ส่วนด้านหลังแบบดุม ขนาด 295 มม. ล้อและยาง รุ่นมาตรฐานเป็นล้ออัลลอยพร้อมยางขนาด 15 นิ้ว
สำหรับเส้นทางวิบาก สามารถใช้ระบบชิฟท์ ออน เธอะ ฟลาย เพื่อเปลี่ยนการขับเคลื่อนจากขับสองมาเป็นขับสี่ได้ทุกระดับความเร็ว โดยสั่งการได้จากปุ่มควบคุมที่แผงหน้าปัด ทั้งยังมีระบบควบคุมแรงบิด ทแรคชัน คอนทโรล สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ นอกจากนั้นยังมีระบบลอคเฟืองขับ ทั้งรุ่นขับสอง และขับสี่ สำหรับเฟืองขับมีให้เลือกถึงสามระดับคือ 3.42:1, 3.73:1 และ 4.10:1
อีกระดับของความปลอดภัย สำหรับ แคนยอน รุ่นมีแคบ ที่ไม่ได้ติดตั้งเบาะหลัง ควรปิดสวิทช์ควบคุมการทำงานของถุงลมนิรภัยด้านหน้า หากผู้โดยสารด้านหน้าเป็นเด็กทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี เด็กอายุระหว่าง 1-12 ปี หรือผู้โดยสารที่มีปัญหาสุขภาพ ซึ่งการทำงานของถุงลมนิรภัย อาจทำให้บาดเจ็บรุนแรง ทางจีเอม แนะนำว่า สำหรับเด็กเล็กควรจัดให้นั่งในแถวที่สอง หรือสามแทนแถวหน้า นอกจากนั้นต้องไม่ติดตั้งเบาะเด็กเล็กชนิดหันพนักออกไปด้านหน้าบนเก้าอี้ที่ถุงลมนิรภัยพร้อมทำงาน การเพิ่มความปลอดภัยให้แก่เด็กอีกระดับหนึ่งคือ ระบบ LATCH (LOWER ANCHORS AND TETHERS FOR CHILDREN) ซึ่งจะเป็นระบบช่วยอำนวยความสะดวกในการยึดเบาะนิรภัยของเด็ก โดยมีจุดยึดด้านล่างสองจุด และด้านบนมีสายรัดอีกสองจุดทำหน้าที่ยึดเข้ากับโครงสร้างของเบาะนั่งอย่างแน่นหนา
เรื่องโดย : อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : นานารถแนวคิด
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/56699