X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ผลทดสอบต่างแดน
23 Mar 2004
โตโยตา รัฟโฟร์ 2.4 ท้าดวล ซูบารุ เอาท์แบค 2.5
รถเอสยูวี ในดินแดนออสเตรเลีย นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้น ปัจจุบันมีหลายค่ายที่ให้ความสนใจผลิตรถเอสยูวี ออกมาหลากรุ่น สำหรับสองคันที่จะพูดถึงนี้ อยู่ในกลุ่มที่ชาวออสซี เรียกว่า ซอฟท์ โรเดอร์ซึ่งมี โตโยตา รัฟโฟร์ ที่วางตลาดมานานพอควร จนถึงเวลาปรับปรุงใหม่ ส่วนอีกคันคือ ซูบารุ เอาท์แบคที่วางตลาดได้ไม่นาน โตโยตา รัฟโฟร์ ที่เปิดตัวมานานพอสมควรจนถึงเวลาที่ต้องปรับปรุง มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมากขึ้น โดยเลือกเครื่องยนต์ 2AZ-FE ความจุ 2.4 ลิตร จาก โตโยตา แคมรี จากเครื่องยนต์เดิมที่มีความจุ 2.0 ลิตร DOHC ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิด19.5 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. ส่วนเครื่องยนต์ใหม่จาก แคมรี รหัส 2AZ-FE ความจุสูงสุด 2.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงกว่า โดยมีกำลังสูงสุดระดับ 163 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และมีแรงบิด 22.8 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน.เครื่องยนต์ 2AZ-FE ใช้เทคโนโลยี ดไรฟ บาย ไวร์ (DRIVE-BY-WIRE) ที่นอกจากจะให้กำลัง และแรงบิดสูงกว่าแล้ว ยังให้ค่าแรงบิดที่สม่ำเสมอมากกว่าเครื่องเดิม ซึ่งทำให้วิศวกรสามารถเซทอัตราทดระบบเกียร์ธรรมดา เพื่อรองรับเพาเวอร์แบนด์ ที่กว้างขึ้น สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้น แต่สำหรับระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้นยังมีรายการปรับเปลี่ยนในส่วนของระบบบังคับเลี้ยว โดยเปลี่ยนอัตราทดพวงมาลัย เปลี่ยนบุชและปรับแต่งปั๊มผ่อนแรงพวงมาลัย ซึ่งมีผลโดยรวมให้มีการถ่ายทอดความรู้สึกดีขึ้น และช่วยผ่อนแรงในระดับความเร็วต่ำมากขึ้น ระบบรองรับก็ถูกปรับแต่งให้มีการทรงตัว และควบคุมที่ดีขึ้น นอกจากนั้นยังได้ปรับปรุงในส่วนของแผงแดชบอร์ด ยางขอบประตู รวมถึงแผ่นเก็บเสียงเพื่อลดเสียง และการสั่นสะเทือน ที่เข้ามารบกวนในห้องโดยสารให้น้อยลง ภายนอกมีการปรับเปลี่ยนยกชุดไล่ตั้งแต่ชุดกันชน หน้ากระจัง และชุดโคมไฟหน้า รวมไปถึงชุดไฟสัญญาณหลัง พวงมาลัย และอีกหลายๆ ส่วน ขณะนี้ รัฟโฟร์ มีให้เลือกใช้ 2 รุ่นคือ รุ่นซีวี และครูเซอร์ ทั้งสองรุ่นได้ติดตั้งระบบครูสคอนโทรล และระบบปรับอากาศ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เมื่อได้ลองขับ รัฟโฟร์ ใหม่ สามารถสัมผัสถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะพละกำลัง และแรงบิดที่เพิ่มขึ้น สำหรับการปรับปรุงในส่วนของการเก็บเสียง และแรงสั่นสะเทือน ยังไม่ได้ผลมากนัก จากการทดสอบบนทางฝุ่น ยังมีเสียง และความสั่นสะเทือนผ่านเข้ามายังห้องโดยสารได้เหมือนเดิม สำหรับรุ่น 5 ประตู ที่ติดตั้งระบบทแรคชัน คอนโทรล (พร้อมสเตบิลิที คอนโทรล) ช่วยให้การขับขี่บนทางฝุ่นปลอดภัยมากขึ้นแต่ยังไม่สามารถเพิ่มสมรรถนะในการลุยจนถึงขีดสุด แม้จะมีการปรับปรุงหลายส่วน แต่ผลที่ได้รับยังไม่อยู่ในระดับที่เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนอาจจะถึงเวลาที่ รัฟโฟร์ ต้องทำโมเดลเชนจ์ อีกครั้งหนึ่ง ส่วน ซูบารุ เอาท์แบค 2.5 ซอฟท์ โรเดอร์ แวกอน ที่เปิดตัวเร็วๆ นี้ ด้วยออพชันพิเศษมากมาย ทั้งระบบผ่อนแรงพวงมาลัย กระจกไฟฟ้า และปรับกระจกส่องหลังไฟฟ้า รีโมทลอครถจากระยะไกล ล้ออัลลอย ระบบปรับอากาศ คไลเมท คอนโทรล (CLIMATE CONTROL) เครื่องเล่นซีดี ถุงลมนิรภัยด้านหน้า ระบบเบรคเอบีเอส ระบบครูสคอนโทรล พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ ทริพคอมพิวเตอร์ และไฟตัดหมอกคู่หน้าเอาท์แบค 2.5 ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 11.2 วินาที เครื่องยนต์ให้การส่งกำลังที่ต่อเนื่อง และนุ่มนวล รอบเครื่องขึ้นเร็ว แต่แรงบิดน้อยไปหน่อย การตอบสนองการขับขี่ในเส้นทางขึ้น/ลงเขา ระบบเกียร์ให้การตอบสนองที่ราบรื่นดี การใช้งานในรอบเครื่องเกิน 5,000 รตน. ขึ้นไป เสียงการทำงานของเครื่องยนต์ดังเข้ามาภายในห้องโดยสาร ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงประมาณ 11.0 ลิตร/ 100 กม. อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ การตอบสนองการควบคุมใช้ได้ ในโค้งจะออกอาการอันเดอร์สเตียร์ ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยการลดรอบเครื่องและการควบคุมพวงมาลัย ระบบเบรคให้การตอบสนองดี แต่ระบบเอบีเอส ทำงานเร็วเกินไปโดยเฉพาะบนทางฝุ่น ในความเร็วต่ำเครื่องยนต์ค่อนข้างกระฉับกระเฉงเกินไป แต่ในความเร็วสูงเครื่องยนต์ให้การตอบสนองได้อย่างนุ่นนวล เบาะนั่งคู่หน้านั่งสบาย มีซัพพอร์ทข้างที่โอบกระชับ แต่ฐานเบาะสั้นไปนิดโดยเฉพาะส่วนรองต้นขาเบาะของ เอาท์แบค สามารถปรับได้หลายระดับ สอดคล้องกับพวงมาลัยที่สามารถปรับได้เช่นกันเบาะนั่งหลังมีเลกรูม และเฮดรูมกว้างขวางดี แต่พนักพิงเอนไปข้างหลังมากเกินไปหน่อยห้องเก็บสัมภาระหลังมีเนื้อที่กว้างขวางดีพื้นห้องเก็บสัมภาระเรียบ ประตูหลังสามารถเปิดได้ถึงพื้น ทำให้การขนสัมภาระเข้า/ออกสะดวกมาก โดยสรุป เอาท์แบค จัดว่าเพียบพร้อมเพียงต้องการแรงบิดที่มากขึ้น และลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ให้น้อยลง น่าจะได้ตำแหน่งแวกอน ซอฟท์ โรเดอร์ ที่ดีที่สุดในรุ่นแล้ว
อ่านต่อ
เรื่องโดย : อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบต่างแดน
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/56387
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
ผลทดสอบต่างแดน
ผลทดสอบต่างแดน
18 Jun 2023
CHEVROLET TRAILBLAZER 2023 ครอสส์โอเวอร์พลังเทอร์โบ
ผลทดสอบต่างแดน
18 May 2023
FORD BRONCO RAPTOR เอสยูวีสสไตล์เรทโร...ตัวลุยของจริง !
ผลทดสอบต่างแดน
18 Mar 2023
TOYOTA RAV4 HYBRID ครอสส์โอเวอร์ ขับ 4 พร้อมลุย
ผลทดสอบต่างแดน
18 Dec 2022
NISSAN PATHFINDER ครอสส์โอเวอร์สายลุย 7 ที่นั่ง
ผลทดสอบต่างแดน
18 Oct 2022
HONDA CR-V 2023 เอสยูวีรุ่นยอดนิยม เพิ่มขุมพลังไฮบริด...หล่อดี พี่ชอบ !
ผลทดสอบต่างแดน
18 Sep 2022
BMW X1 XDRIVE 28I เล็กพริกขี้หนู
ผลทดสอบต่างแดน
18 May 2022
CHEVROLET SILVERADO ฟูลล์ไซซ์พิคอัพระดับหรู
ดูต่อในคอลัมน์ ผลทดสอบต่างแดน