"ASIA CROSS COUNTRY RALLY 2003" เส้นทางไทย-มาเลเซีย

ASIA CROSS COUNTRY RALLY 2003 การแข่งขันแรลลีทางยาวของรถขับเคลื่อนสี่ล้อในรูปแบบครอสส์คันทรี ระยะทางกว่า 2,700 กม. เริ่มต้นจากประเทศไทยไปจบลงที่ประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 8-14 สิงหาคม 2546 ที่ผ่านมา จัดโดย บริษัท ออร์เทฟ ประเทศญี่ปุ่น (ORTEV INC. JAPAN) ในปีนี้มีผู้นำรถลงแข่งขัน 31 คัน เป็นนักแข่งจากประเทศไทย 13 คัน นำโดยแชมพ์เก่า วรพจน์ บุญช่วยเหลือ/สมชาย ศรีโมรา และ "สิงห์ทะเลทราย" พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล/พรเทพ สุขะหุต นักแข่งจากประเทศญี่ปุ่น 12 คัน เกาหลี 3 คัน ไต้หวัน 2 คัน และมาเลเซีย 1 คัน 8 สิงหาคม เวลา 20.00 น. นายสรรเสริญ เงารังษี ผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานและร่วมตีธงปล่อยรถในพิธีเปิดการแข่งขัน ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน จากนั้นรถแข่งเดินทางแบบฟรีรัน ระยะทาง 166 กม. เพื่อเข้าพักที่โรงแรมพาวิลเลียน ริมแคว รีสอร์ท จังหวัดกาญจนบุรี 9 สิงหาคม ช่วงทดสอบพิเศษที่ 1 ระยะทาง 109 กม. เส้นทางบ้านผาลาดถึงอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงนี้ผู้ที่ทำเวลาดีที่สุด คือ ธวัชชัย ผสมทรัพย์/ศักดา นาคเลื่อน ขับรถ มิตซูบิชิ สตราดา หมายเลข 17 วรพจน์ บุญช่วยเหลือ/สมชาย ศรีโมรา แชมพ์เก่าควบ ฟอร์ด เรนเจอร์ หมายเลข 1 ทำเวลาได้ที่ 2 ส่วนที่ 3 รถ มิตซูบิชิ หมายเลข 15 ศักดิ์ชัย หาญตระกูล/อิทธิพล สิมารักษ์ ช่วงบ่ายแข่งขันช่วงทดสอบพิเศษที่ 2 ในเขตอำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี ระยะทาง 98.10 กม. แต่เส้นทางในช่วงแรกไม่พร้อมจึงตัดออกไปกว่า 30 กม. ทำให้ไปเริ่มแข่งกันที่เส้นทางเขาพนมเบญจาที่มีลักษณะ เป็นภูเขาหิน ซึ่งเวลาในช่วงทดสอบที่ 2 นักแข่งไทยยังอยู่แถวหน้า พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล ขับรถ มิตซูบิชิ สตราดา หมายเลข 14 เข้ามาเป็นที่ 1 ตามมาด้วย วรพจน์ บุญช่วยเหลือ และศักดิ์ชัย หาญตระกูล หลังจากนั้นจึงเดินทางเข้าพักที่โรงแรมโกลเดน แซนด์ ชะอำ 10 สิงหาคม ช่วงทดสอบพิเศษที่ 3 เส้นทางหัวหิน-บางสะพาน ระยะทางกว่า 299.35 กม. เส้นทางมีทุกรูปแบบ ทั้งฝนตก โคลน ทราย ลูกรัง ทางหญ้า โดยเริ่มออกสตาร์ทจากที่พักตอน 8.30 น. ในช่วงแรก นักแข่งไทยต้องขับเคี่ยวกับนักแข่งญี่ปุ่นที่ทำเวลาไล่ขึ้นมา เป็นรถ มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลข 3 ขับโดย ทาคาซูกิ เคนโกะ/ โอกาโมโตะ คินูโยะ และรถ โตโยตา แลนด์ ครูเซอร์ ปราโด 120 หมายเลข 12 ขับโดย ทาดามิตซุ นีโฮริ/มาซายูกิ ฟุคาโนะ ซึ่งในเส้นทางแข่งขันช่วงกลางจะต้องขับผ่านชายแดนด่านสิงห์ขรติดกับประเทศพม่า ผู้ที่ทำเวลาดีที่สุดในช่วงทดสอบพิเศษที่ 3 คือ พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล ตามด้วย ทาคาซูกิ เคนโกะ, วรพจน์ บุญช่วยเหลือ และพนัส ควรสถาพร ขับรถ โตโยตา ไฮลักซ์ หมายเลข 16 ตามมาเป็นที่ 4 11 สิงหาคม ช่วงทดสอบพิเศษที่ 4 เส้นทางพะโต๊ะ-ไชยา ระยะทาง 137.78 กม. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเส้นทางป่าสวนยาง รถของ ศักดิ์ชัย หาญตระกูล เกียร์พังไม่สามารถแข่งขันต่อไปได้ ทำให้ ทาคาซูกิ เคนโกะ ขึ้นมาเป็นที่ 2 โดย พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล ยังคงนำมาเป็นที่ 1 ส่วนที่ 3 คือ แชมพ์เก่า วรพจน์ บุญช่วยเหลือ ช่วงทดสอบพิเศษที่ 5 เส้นทางจากอำเภอไชยา-พุนพิน ระยะทาง 115.50 กม. มีทั้งขึ้นเขา ลงน้ำ และทางคดเคี้ยว พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล เครื่องยนต์ขัดข้องไม่จบการแข่งขัน ส่วนนักแข่งต่างชาติเริ่มชินกับเส้นทางทำให้เวลาตีตื้น ขึ้นมาเบียดนักแข่งไทย ผลการแข่งขันในช่วงทดสอบพิเศษที่ 5 อันดับหนึ่งได้แก่ ธวัชชัย ผสมทรัพย์ ตามด้วย ทาคาซูกิ เคนโกะ และวรพจน์ บุญช่วยเหลือ 12 สิงหาคม ช่วงทดสอบพิเศษที่ 6 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการแข่งขันในเมืองไทย เส้นทางเคียนซา- ไพรพระยา ระยะทาง 111.50 กม. ส่วนใหญ่ตัดผ่านสวนปาล์มอันอุดมไปด้วยความชื้น ทำให้นักแข่งต้องใช้ความชำนาญในการควบคุมรถอย่างมาก อันดับโอเวอร์ออลล์ยังคงมีการเปลี่ยนแปลง โดย วรพจน์ บุญช่วยเหลือ ขึ้นนำ ตามด้วย ธวัชชัย ผสมทรัพย์ และทาคาซูกิ เคนโกะ ช่วงทดสอบพิเศษที่ 7 บริเวณเขาพนม ระยะทาง 64.80 กม. เส้นทางยังคงเป็นการวิ่งผ่านสวนปาล์มคล้ายในช่วงทดสอบพิเศษที่ 6 แต่มีหลายช่วงที่เป็นทางตรงยาว รถของนักแข่งต่างชาติจึงสามารถเร่งความเร็วไล่ตามนักแข่ง ไทยขึ้นมา แต่ผู้นำยังคงเป็นนักแข่งไทยแชมพ์เก่า วรพจน์ บุญช่วยเหลือ ตามติดด้วย ธวัชชัย ผสมทรัพย์ และทาคาซูกิ เคนโกะ เช่นเดิม หลังจากจบการแข่งขันในวันนั้น นักแข่งก็เข้าพักที่โรงแรมเจบี หาดใหญ่ พร้อมร่วมงานเลี้ยงและชมการแสดง 13 สิงหาคม นักแข่งออกเดินทางจากที่พักไปยังด่านพรมแดนอำเภอสะเดา เพื่อตรวจเอกสารและรอปล่อยตัว โดยช่วงทดสอบพิเศษที่ 8 ประเทศมาเลเซีย เส้นทางแอร์ กันดา-คก ดาลา (AIR GANDA-KG DALA) ระยะทาง 23.51 กม. ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคป่าเขาที่ทั้งชื้นทั้งโหด แต่นักแข่งชาวไทยก็ยังแสดงความสามารถโดยการคว้า ตำแหน่งผู้นำในช่วงทดสอบที่ 8 โดย วรพจน์ บุญช่วยเหลือ นักแข่งต่างชาติก็แรงไม่แพ้กัน ทาคาซูกิ เคนโกะ จี้เข้ามาเป็นที่ 2 ส่วน ธวัชชัย ผสมทรัพย์ เข้าที่ 3 และทาดามิตซุ นีโฮริ ที่ 4 จากนั้นเข้าพักที่ ไฮแอทท์ รีเจนซี เซาจานา (HYATT REGENCY SAUJANA) 14 สิงหาคม วันตัดสิน ช่วงทดสอบที่ 9 แข่งขันกันบนสนามแข่งขันรถยนต์ ฟอร์มูลา วัน ซูบัง-เซปัง (SUBANG-SEPANG) ระยะทาง 21.37 กม. ถือว่าเป็นครั้งแรกที่รถโฟร์วีล-ดไรฟได้เข้าไปวิ่ง ซึ่งก่อนวิ่งต้องล้างรถ ให้สะอาดก่อน วรพจน์ บุญช่วยเหลือ/สมชาย ศรีโมรา ซึ่งถือว่าเป็นนักแข่งทางเรียบอยู่แล้วก็สามารถเข้าเส้นชัย เป็นอันดับ 1 คว้าแชมพ์โอเวอร์ออลล์ไปครองได้สำเร็จ รับถ้วยและเงินรางวัล รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ธวัชชัย สะสมทรัพย์/ศักดา นาคเลื่อน ส่วนรองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ ทาคาซูกิ เคนโกะ/โอกาโมโตะ คินูโยะ ชาวญี่ปุ่น เมื่อจบการแข่งขันขบวนรถทั้งหมดจึงเดินทางเป็นคาราวาน เพื่อไปรอดซุ้มพิธีจบการแข่งขันที่ ดาตาราน ปูตรา (DATARAN PUTRA) โดยมี ออง ที เคียท (ONG TEE KEAT) รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกีฬาประเทศมาเลเซีย มอบเหรียญแห่งชัยชนะให้นักแข่งทุกคัน