X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รู้ไว้ใช่ว่า
1 Sep 2003
จวกตรงสี่แยก
ตราบใดที่ยังขับรถตะลอนๆ สิ่งที่หนีไม่พ้นคือ "สี่แยก" ซึ่งเป็นจุดนัดพบที่ไม่ควรให้รถนัดพบกันเป็นอันขาด ถ้าคนไปพบกันพอไหว คดีต่อไปนี้ ก็เป็นรายการใหญ่เจอใหญ่ที่สี่แยกแห่งหนึ่ง เรามาดูลีลาการตัดสินของศาลว่าจะเป็นอย่างไรศาลท่านชี้เรื่องทางเอกทางโทแบบไหน ถ้าคนทำผิดบาดเจ็บสาหัสเพราะการกระทำของตนเอง ติดคุกไหม ใหญ่เจอใหญ่รายนี้คือ รถพ่วงเจอสิบล้อ ทั้งสองคันห้อมาถึงสี่แยกพร้อมๆ กัน ปรากฏว่ารถบรรทุกสิบล้อขับขี่โดย "นายเบรค" ไม่ยักเบรคหรือชะลอ เพราะถือว่าเป็นทางเอก เหยียบคันเร่งพารถผ่านสี่แยกแบบหวือหวา คิดว่าจะพ้นแต่ไม่พ้น เพราะรถพ่วงซึ่งมี "นายยั้ง" ก็มาอีกทางหนึ่งซึ่งเป็นทางโทโดยไม่ยั้งเช่นกันเพราะมองไม่เห็นหรือเดาใจกันผิดก็แล้วแต่ รถทั้งสองจึง "โดนกัน" (ภาษากฎหมาย) กลางสี่แยก พลิกตะแคงอยู่ที่สี่แยกทั้งคู่ เสาไฟสัญญาณจราจรพลอยป่นปี้ไปด้วย สำหรับตัวคนคือ นายเบรคและลูกชายที่นั่งมาบนรถสิบล้อบาดเจ็บ แต่นายเบรคและนายยั้งก็ยังทะลึ่งหนี เพราะกลัวตำรวจ กลัวว่ามีใครตาย เดี๋ยวต้องติดคุก พอรู้ทีหลังว่าไม่มีใครม่องเท่ง เฉพาะนายเบรค ซึ่งอุตส่าห์หนีทั้งๆ ที่เครื่องในบอบช้ำถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล อาการสาหัสไปไหนไม่รอด ทั้งสองเลยยอมให้ตำรวจซิวตัวมาดำเนินคดี เมื่อเดินเหินได้แล้ว เรื่องถึงอัยการ เลี้ยวไปที่ศาล ต่างฝ่ายต่างปฏิเสธไม่ยอมรับผิด เพราะเถ้าแก่ซึ่งเป็นเจ้าของรถหนุนหลังเกรงว่าจะต้องรับผิดซ่อมรถให้อีกฝ่าย ไหนจะค่าซ่อมไฟสัญญาณจราจรของหลวงอีกต่างหาก จึงตั้งหลักไว้ก่อน อ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิด พอสืบพยานโจทก์ ซึ่งมีอัยการเป็นคนทำหน้าที่เสร็จแล้ว นายยั้งได้ข้อมูลมาว่าถ้ารับสารภาพคงจะไม่ติดตะราง เพราะไม่มีใครตาย เถ้าแก่ก็ตกลงกันได้เรื่องรถเสียหาย จึงกลับลำถอนคำให้การเดิม ให้การใหม่รับสารภาพเพื่อกินของถูก ขณะที่นายเบรค คนขับรถสิบล้อที่บาดเจ็บสาหัสและถือว่าตัวเองมาทางเอกยังปฏิเสธสู้คดีต่อไป ศาลชั้นต้น พิจารณาแล้วตัดสินลงโทษนายยั้งคนขับรถพ่วง เฉพาะข้อหาหลบหนีไม่แจ้งเจ้าพนักงานปรับ 2,000 บาท ส่วนนายเบรค ศาลเอาผิดข้อหาขับรถประมาททำให้มีคนบาดเจ็บสาหัส ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 6,000 บาท ไม่มีการลดโทษให้ใครเพราะถือว่าจำนนต่อหลักฐาน การที่ศาลชั้นต้น เอานายเบรค คนขับรถสิบล้อเข้าตะรางตั้ง 1 ปี ไม่รอลงอาญา แถมปรับอีกต่างหาก นายเบรค รับไม่ได้ เพราะเห็นว่าตนเองมาทางเอก คนที่บาดเจ็บสาหัสคือ ตัวนายเบรคเอง จึงให้ทนายยื่นอุทธรณ์อ้างว่าไม่ผิด ศาลอุทธรณ์ พิจารณาแล้วเห็นจริงตามที่นายเบรคอ้าง พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องนายเบรคเสีย อัยการโจทก์ ไม่เออออด้วย ขัดขาไว้ด้วยการยื่นฎีกาเพื่อเอาผิดนายเบรค ให้ได้ เพราะเห็นว่าทางเอกทางโทก็ต้องระมัดระวังเมื่อขับถึงสี่แยก นายเบรคมีความผิดชัวร์ยกฟ้องได้อย่างไร ศาลฎีกา เพ่งดูคดีนี้ด้วยความชำนาญ แล้วชี้ขาดออกมาดังนี้ จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุจากปากคำของตำรวจ พบว่ารถสิบล้อที่นายเบรค มาแรง เฉี่ยวชนรถพ่วงแล้วพลิกคว่ำไถลไปอีกตั้งไกล สี่แยกมีป้ายบอกให้หยุดเฉพาะทางด้านที่เป็นทางโทก็จริง แต่นายเบรคต้องชะลอรถแม้ไม่มีป้ายบอกให้หยุดเนื่องจากเป็นทางเอก ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย งานนี้แม้นายยั้ง ซึ่งมาทางโทไม่ทำตามกฎจราจรเมื่อถึงทางแยก แต่นายเบรค ซึ่งมาทางเอกก็ต้องชะลอรถดูแลความปลอดภัย เมื่อได้ความว่านายเบรคไม่ระวัง ขับรถเข้าสี่แยกด้วยความเร็วสูงจนเกิดเหตุขึ้น จึงมีความผิด ยกฟ้องไม่ได้หรอก แต่นายเบรค อย่าเพิ่งตกอกตกใจ เพราะการขับรถประมาทไม่ได้เกิดจากการมีเจตนาชั่วร้าย มีคนบาดเจ็บถึงสาหัสก็คือตัวนายเบรค และลูกชายซึ่งได้รับผลร้ายจากการกระทำของตัวเองพอสมควรแล้ว ไม่เคยติดตะรางมาก่อน จึงให้โอกาสซะหน่อย ศาลฎีกา จึงพิพากษาแก้ ให้ลงโทษนายเบรค ตามที่ศาลชั้นต้นว่าไว้ แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี สำหรับโทษจำคุก และให้คุมประพฤติไปรายงานตัวกับทำกิจกรรมบริการสังคม 20 ชม. ถือว่าเคลียร์นะครับ สำหรับการตัดสินของศาลเรื่องทางเอกทางโท นั่นหมายความว่าทุกฝ่ายต้องระวัง และศาลเอาผิดว่าประมาทร่วมกันได้ ไม่ใช่ทางเอกเป็นใหญ่ ไม่ผิดเลย จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2544
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2546
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/56155
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
รู้ไว้ใช่ว่า
รู้ไว้ใช่ว่า
18 Aug 2015
โทษเบาไปนะ !!!
รู้ไว้ใช่ว่า
17 Jul 2015
เบรคแตก
รู้ไว้ใช่ว่า
24 Jun 2015
ลืมไม่เข้าคุก !
รู้ไว้ใช่ว่า
19 May 2015
"ไฟไหม้รถ/ค้ายา !"
รู้ไว้ใช่ว่า
20 Apr 2015
"ลูกหลานใช้รถ !"
รู้ไว้ใช่ว่า
16 Mar 2015
"รัดเข็มขัดประหยัดชีวิต"
รู้ไว้ใช่ว่า
18 Feb 2015
"รถมีประกัน...เมา !"
ดูต่อในคอลัมน์ รู้ไว้ใช่ว่า