4Wheels
วินช์กับระบบไฟฟ้า/สตาร์ทอินเกียร์/สมรรถนะของ แคริเบียน
วินช์กับระบบไฟฟ้า
ฉบับแรกจาก ณัฐไกร ภาณุวัฒน์/กทม. ข้องใจเกี่ยวกับการใช้งานวินช์
ถาม : ผมอยากทราบว่าในขณะที่ใช้งานวินช์นั้น จะดับเครื่องยนต์ได้หรือไม่และถ้าระบบไฟฟ้าในรถมีกำลังไม่เพียงพอ จะใช้งานวินช์ได้หรือไม่ หากไม่ได้ควรจะแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : วินช์ ที่ติดตั้งกับรถขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่นใหม่ในทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นวินช์ที่ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ต่างจากวินช์สมัยก่อนที่ใช้กำลังฉุดจากเครื่องยนต์ดังนั้นกำลังไฟจึงมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของวินช์ แหล่งสำรองพลังงานไฟฟ้าที่จะป้อนให้กับวินช์คือ แบทเตอรี หากกระแสไฟที่แบทเตอรีเก็บสะสมไว้ มีไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้สมรรถนะของวินช์
สูญเสียไป
เพื่อให้กำลังไฟที่ป้อนให้กับวินช์ มีคงที่ตลอดเวลา ในขณะที่ใช้งานวินช์
ควรให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบเดินเบา และคอยเร่งรอบช่วยเล็กน้อยเมื่อต้องกรอสายวินช์เข้าและออก เหตุที่ต้องทำเช่นนั้นเพราะว่า ในขณะที่มอเตอร์วินช์ ทำงานนั้น กระแสไฟจากแบทเตอรีจะถูกดึงออกมาใช้งานอย่างมาก จนทำให้ระดับแอมแปร์ของแบทเตอรี ตกลงไปการเร่งรอบเครื่องยนต์ช่วยเล็กน้อยจะช่วยให้อัลเทอร์เนเตอร์ ป้อนกระแสไฟเข้าไปเก็บยังแบทเตอรีมากขึ้น
นอกจากการเร่งรอบช่วยเล็กน้อยในขณะที่ใช้วินช์แล้ว การปิดสวิทช์
เครื่องไฟฟ้าทุกอย่างภายในรถไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง ไฟส่องสว่างทุกจุดจะช่วยลดโหลดแก่อัลเทอร์เนเตอร์และแบทเตอรี เป็นอย่างมากอีกทางหนึ่ง
สตาร์ทอินเกียร์
ฉบับที่สองจาก กันยา เสริมทรัพย์ถาวร/ปทุมธานี สุภาพสตรีที่สนใจเรื่องเทคนิค
ถาม : เคยอ่านหนังสือ 4 WHEELS เห็นมีลงเกี่ยวกับเทคนิคสตาร์ทอินเกียร์อยากทราบว่าเทคนิคที่ว่านี้มันเป็นอย่างไร ใช้เพื่ออะไร และใช้ได้กับรถทุกประเภทหรือไม่ ?
ตอบ : เทคนิคสตาร์ทอินเกียร์นั้น ไม่ใช่เป็นเทคนิคแปลกใหม่แต่อย่างใด
เนื่องจากเทคนิคที่ว่านี้มีการใช้กันมาตั้งนานแล้วในหมู่ผู้ใช้งานรถขับเคลื่อนสี่ล้อเทคนิคสตาร์ทอินเกียร์ พูดภาษาเราๆ ก็คือ สตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่รถเข้าเกียร์อยู่
ถ้าเป็นสภาวะการใช้งานปกติ เราคงจะไม่ทำเช่นนั้นแน่นอนเพราะการสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่รถเข้าเกียร์อยู่นั้น จะทำให้ตัวรถพุ่งไปข้างหน้า
หากเราไม่ได้เหยียบเบรคอยู่ แต่เทคนิคสตาร์ทอินเกียร์นั้น เราจะใช้ในกรณีที่ต้องขับรถขึ้นหรือลงทางที่มีความชันมากๆ
อย่างในกรณีของการขับขึ้นทางเนินที่มีความชันมากๆในบางครั้งตัวรถยังไม่ทันถึงจุดบนสุดของยอดเนิน เครื่องยนต์ก็อ่อนกำลังและดับในที่สุด
การที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่และเข้าเกียร์ถอยเพื่อลงมาตั้งต้นที่ฐานเนินใหม่คงไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากในขณะที่รถจะเคลื่อนตัวจากจุดหยุดนิ่งนั้น การปล่อยคลัทช์ผิดจังหวะ อาจทำให้ล้อหมุนฟรีหรือรถอาจเคลื่อนที่เร็วเกินจนต้องใช้เบรคช่วย การควบคุมน้ำหนักของเบรคที่ไม่ถูกต้องนั้น
อาจทำให้ล้อเกิดการลื่นไถลจนเป็นเหตุให้รถสูญเสียการควบคุมทิศทางไป การสตาร์ทอินเกียร์โดยนับจากจุดที่เครื่องยนต์ดับ ให้ใช้เท้าขวาเหยียบแป้นเบรคในขณะที่เท้าซ้ายเหยียบแป้นคลัทช์เพื่อเข้าเกียร์ถอยหลังและถอนเท้าออกจากแป้นคลัทช์ตามด้วยการถอนเท้าขวาออกจากแป้นเบรคด้วย แล้วทำการสตาร์ท ตัวรถจะค่อยๆเคลื่อนที่ถอยหลังลงมาอย่างช้าๆ เพื่อลงมาตั้งต้นใหม่ที่ฐานเนิน
ในทางตรงกันข้ามการขับลงทางที่มีความชันมากๆก็ปฏิบัติเช่นเดียวกันเพียงแต่เปลี่ยนจากการเข้าเกียร์ถอยหลังมาเป็นเกียร์หนึ่งแทน
และเมื่อรถเคลื่อนที่ได้ระดับหนึ่งแล้ว ให้ใช้เท้าขวาประคองเบรคเท้าช่วยเบาๆ หรืออาจต้องใช้เท้าขวาเร่งรอบเครื่องยนต์ช่วยเล็กน้อย
เพื่อให้รอบการหมุนของล้อเกิดความสมดุลไม่เกิดการหมุนฟรี
เทคนิคสตาร์ทอินเกียร์นี้ สามารถใช้กับรถขับเคลื่อนสี่ล้อได้ทุกยี่ห้อ
การหมั่นฝึกฝนการใช้งานเทคนิคสตาร์ทอินเกียร์ นี้บ่อยๆ จะช่วยให้ทุกขั้นตอนเกิดความราบรื่นขึ้น
สมรรถนะของ แคริเบียน
ฉบับสุดท้ายจาก สมเกียรติ จิตรไธสง/นครราชสีมา ข้องใจรถ แคริเบียน
ถาม : ผมใช้ โตโยตา สปอร์ท ครูเซอร์ อยู่ เคยขับไปเที่ยวทางภาคเหนือ ขึ้นเนินที่มีความชันมากๆไม่เคยมีปัญหาเรื่องรถมีกำลังไม่พอเลย แต่เมื่อไม่นานมานี้ลองขับ ซูซูกิ แคริเบียน ของเพื่อนขับขึ้นทางชันบ้าง กลับมีความรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในกำลังของตัวรถเลย ทางชันที่ โตโยตา ขึ้นได้สบายแต่ แคริเบียน กลับต้องขับแบบหืดขึ้นคอ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และมีทางแก้ได้อย่างไรหรือไม่ ?
ตอบ : โตโยตา สปอร์ท ครูเซอร์ เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นขุมกำลัง โดยธรรมชาติของเครื่องยนต์ดีเซล จะมีแรงบิดสูง แต่สำหรับเครื่องยนต์รุ่นที่วางใน สปอร์ท ครูเซอร์ นั้นมีความพิเศษตรงที่มีแรงบิดสูงที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ แถมให้ค่าแรงบิดที่สูงที่ช่วงรอบเครื่องยนต์ที่กว้างทำให้การเรียกแรงบิดสูงๆ มาใช้หายห่วงได้ ผนวกกับอัตราทดเกียร์ที่ทางวิศวกร โตโยตาคำนวณมาเป็นอย่างดี ทำให้กำลังในการปีนป่ายทางที่มีความชันมากๆ หายห่วงได้
แต่สำหรับ ซูซูกิ แคริเบียน มีความต่างจาก โตโยตา ตรงที่ขุมกำลังของ แคริเบียนเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่ธรรมชาติของมันเป็นเครื่องยนต์ที่ให้ค่าแรงม้ามาก
แรงบิดต่ำเมื่อเปรียบเทียบในช่วงรอบเครื่องเดียวกับเครื่องยนต์ดีเซล
การเรียกแรงบิดมาใช้งานต้องอาศัยอัตราทดเกียร์มาช่วย
ดังนั้นการที่คุณเคยชินกับการใช้งานรถ โตโยตา อยู่บ่อยๆ เมื่อได้มาลองขับ ซูซูกิ แคริเบียนซึ่งไม่เคยมือ ทำให้หลายๆ อย่างผิดไม้ผิดมือไป จากที่เคยขึ้นทางชันที่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 1,000กว่าๆ กลับต้องมาเร่งรอบเครื่องถึงประมาณ 4,000-5,000 กว่าๆ ใน ซูซูกิ แคริเบียนแถมการหน่วงของอัตราทดเกียร์ใน โตโยตา และแคริเบียน ก็ยังต่างกัน โดยที่ โตโยตา
มีอาการหน่วงเหมือนมีเบรคคอยช่วยรั้ง ในขณะที่ แคริเบียน นั้นอาการหน่วงแบบมีเบรคช่วยนั้นแทบจะไม่มี ทำให้เมื่อต้องขับลงตามทางลาดชันมากๆ แคริเบียนจะพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว หากไม่ประคองเบรคช่วย ต่างจาก โตโยตา เป็นอย่างมาก
ทางแก้ไขคงจะแก้ไขที่ตัวรถของ ซูซูกิ แคริเบียน ได้ลำบากหากคุณมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนการใช้งานจากรถ โตโยตา มาเป็น ซูซูกิ คงต้องแก้ไขที่ความรู้สึกของตัวคุณเอง แล้วหันมาสร้างความเคยชินใหม่กับ แคริเบียน
เรื่องโดย : โนว์ฮาว จูเนียร์
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2546
คอลัมน์ Online : 4Wheels
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/55831