เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2002 สนาม 8
เข้าสู่ครึ่งหลังของศึกทางฝุ่นในรายการ WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2002 บรรดานักแข่งและทีมงานต้องมุ่งหน้าไปยัง เคนยา (KENYA) เพื่อเผชิญกับหนึ่งในสนามแข่งที่ ยากที่สุด ยาวไกลที่สุด และทรหดที่สุดในรายการ "ซาฟารี แรลลี" บนแผ่นดินอันเวิ้งว้าง กว้างสุดลูกหูลูกตา เปรียบเหมือนสนามรบที่ถูกเตรียมไว้ให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลาย ได้พิสูจน์ "ใจ" ของตัวเองโดยเฉพาะ
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นในเช้าวันศุกร์ ท่ามกลางแสงแดดเจิดจ้า กับอุณหภูมิกำลังดีที่ 23 องศาเซลเซียส รถแข่งทุกคันจอดรอที่พาร์คเฟิร์มด้วยสภาพพร้อมรบ แต่ละคันมียางคุณภาพสูง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อวิ่งบนถนนแบบนี้โดยเฉพาะระบบรองรับชั้นเยี่ยม พร้อมด้วยสนอร์เกิลที่ยื่นสูงขึ้นไปเหนือหลังคา เพื่อหลีกเลี่ยงการดูด "ฝุ่น" เข้าไปในเครื่องยนต์แถมยังติดตั้งกริลล์การ์ดที่กันชนหน้า เอาไว้ป้องกันระบบระบายความร้อนอีกด้วย
ดูเหมือนว่า วันนี้ เทพีแห่งโชคจะเข้าข้าง ทอมมี มาคิเนน (TOMMI MAKINEN)เพราะเขายึดตำแหน่งผู้นำไว้ได้ในเลกแรก โดยไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ในขณะที่ เพทเทร์ โซลเบร์ก (PETTER SOLBERG)เพื่อนร่วมทีม กลับต้องพบกับปัญหาสารพัด เขาต้องเสียเวลาไปกว่า 14 นาทีในสเตจแรก เนื่องจากคลัทช์พังแต่ก็ยังกลับมาสู้ต่อ จนทำเวลาได้เป็นอันดับ 2 ในสเตจถัดมา แล้วก็กลับมาเจอกับสารพัดปัญหาอีกในสเตจ 3 ก่อนจอดสนิทในสเตจ 4 จากปัญหาเครื่องยนต์
มาดูที่ทีม ฟอร์ด กันบ้าง...คอลิน แมคเร (COLIN McRAE) โชว์ฝีมือสุดยอดให้เราได้เห็น ด้วยการทิ้งห่าง มาคิเนน ถึง2 นาที 14 วินาที ในสเตจ 4 ซึ่งเป็นสเตจที่ยาวถึง 106.56 กม. ทำให้เขาจบการแข่งขันด้วยเวลาห่างจาก มาคิเนนเพียง 16 วินาที ส่วนเพื่อนร่วมทีม การ์โลส เซนส์ (CARLOS SAINZ) ห่างจาก แมคเร และ มาคิเนน อยู่ 3 นาทีและนักแข่งของ ฟอร์ด คนสุดท้าย มาร์คโค มาร์ทิน (MARKKO MARTIN) รถมีปัญหาในสเตจ 2 แต่ก็กัดฟันสู้จนจบการแข่งขันในอันดับ 6
เลก 2 ของ ซาฟารี แรลลี ยังคงตอกย้ำความโหดอย่างไม่ลดละ ด้วยสภาพเส้นทางที่ทุรกันดารจนทำให้ระบบรองรับด้านหลังในรถ อิมเพรซา ของ มาคิเนน เสียหาย ตั้งแต่สเตจแรกของวัน (สเตจ 5)และต้องออกจากการแข่งขันหลังจากวิชโบนพังในสเตจ 8
ความเสียหายของรถ อิมเพรซา เปิดโอกาสให้ "ผู้ตาม" อย่าง แมคเร กลายเป็น "ผู้นำ" ได้ในที่สุด ตามมาด้วย ฮาริโรวันเปรา (HARRI ROVANPERA) จากทีม เปอโฌต์ ในอันดับ 2 และ โธมัส รัดสตรอม ( THOMAS RADSTROM)จากทีม ซีตรอง ในอันดับ 3 ซึ่งถือว่าเป็นอันดับที่ดีมากของทีม เพราะนี่เป็นครั้งแรกของ ซีตรอง ใน ซาฟารี แรลลี
เข้าสู่เช้าวันใหม่ในเลก 3 กับอีก 3 สเตจที่เหลืออยู่ เริ่มต้นด้วยสเตจแรกระยะทาง 106 กม. ต่อด้วยสเตจ 2 อีก 74 กม.และปิดท้ายด้วยสเตจ 3 กับระยะทาง 81 กม. วันนี้ ช่างเป็นวันที่น่ายินดีของทีม ฟอร์ด เพราะ แมคเรสามารถเรียกฟอร์มเก๋าแบบที่เขาเคยทำเมื่อหลายปีก่อนกลับมาได้อีกครั้ง หนุ่มใหญ่จาก สกอทแลนด์ทำเวลาได้ดีในทุกสเตจ จนสามารถจบการแข่งขันด้วยเวลาห่างจาก โรวันเปรา ถึง 3 นาทีและคว้าตำแหน่งแชมพ์ประจำสนามไปครอง พร้อมด้วยการทำสถิติเป็นผู้คว้าตำแหน่งชนะเลิศได้มากที่สุดของรายการ WRC คือชนะถึง 25 ครั้งด้วยกัน !
ส่วนทีมที่น่าเป็นห่วงที่สุดเห็นจะเป็นทีม เปอโฌต์ ดูเหมือนว่าพวกเขา (หรือไม่ก็รถแข่งของทีม)ไม่ค่อยชอบทางฝุ่นสักเท่าไหร่ เพราะหลังจากสนามราดยาง (สนาม 3 และ 4) หมดไปแต่ละคนในทีมต่างไม่ฉายแววรุ่งออกมาให้เห็นแบบเต็มๆ สักที นั่นรวมทั้งสนามนี้ด้วย ทำให้ แมคเรทำคะแนนรวมไล่ขึ้นมาจ่อคอหอย โกรนโฮล์ม ได้สำเร็จ และถ้าสนามหน้า แมคเร ยังทำได้ดีเหมือนในสนามนี้อีกโกรนโฮล์ม รวมทั้งอีก 2 นักแข่งของทีม เปอโฌต์ ต้องเข่าอ่อนแน่นอน !
ผลการแข่งขัน WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2002 สนาม 7
[table]อันดับ, ผู้ขับ, คะแนนสะสม (สนาม 1-7), คะแนน (สนาม 8), คะแนนรวม
ชนะเลิศ, มาร์คุส โกรนโฮล์ม ,37, 0, 37
รองอันดับ 1, คอลิน แมคเร ,20 ,10 ,30
รองอันดับ 2, การ์โลส เซนซ์, 23 ,0, 23
รองอันดับ 3 ,กิลเลส ปานิซซี ,20, 1, 21
รองอันดับ 4, ริชาร์ด เบิร์นส, 19, 0, 19 [/table]
ABOUT THE AUTHOR
ส
สุรเชษฐ์ เทียนทอง
ภาพโดย : -นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2545