รู้ไว้ใช่ว่า
ลองรถใหม่
คดีนี้สนุกครับ เป็นเรื่องของคนรู้จักมักคุ้นถึงขนาดเล่นแชร์ด้วยกันได้ ต่อมาอีกฝ่ายหนึ่งถอยรถใหม่ป้ายแดงเป็นรถกระบะธรรมดาๆ
เมื่ออีกฝ่ายเห็นพรรคพวกซื้อรถใหม่ทั้งทีก็ตามไปชื่นชมถึงบ้าน ถือโอกาสเข้าไปนั่งเต๊ะจุ้ยในที่นั่งคนขับเพื่อให้สมบทบาท เห็นกุญแจคาอยู่ก็จับก็บิดซะหน่อย
ปรากฏว่าได้เรื่อง รถสตาร์ทเครื่องแล้วถลาไปข้างหน้าเพราะคาเกียร์ แต่ไม่ได้ดึงเบรคมือ พุ่งเข้าชนห้องน้ำซึ่งอยู่ใกล้ๆหน้ารถพังตามระเบียบ ทั้งเจ้าของทั้งคนมือบอนหน้าเหลืองเป็นไก่ตอนต้มสุก
ผลของการเจรจา เจ้าของรถบอกว่าเสียกฤษ์เสียความรู้สึก ออกรถมาใหม่ๆ ต้องซ่อมก็ไม่อยากใช้ อยากได้ใหม่ฝ่ายที่ทำให้เสียหายต้องเออออตามไปด้วย จึงนำรถไปที่ห้างเพื่อขอแลกเปลี่ยนคันใหม่
ทางห้างโอเคไม่ขัดข้อง ตีราคาค่าเสียหายแล้วให้เพิ่มเงิน เปลี่ยนเอาคันใหม่ออกมา
ปัญหายังไม่สิ้น คนที่ทำรถเขาเสียหายไม่มีเงินสดจ่าย ตอนนั้นถือว่ามากโข ตั้ง 24,000 บาทหน้าเหลืองเป็นรอบที่สอง ทำไงดี เงินสดไม่พอ
ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออก ปรากฏว่าฝ่ายเจ้าของรถคือ "นายกระตุก" นั้นเล่นแชร์ มี "นางวอนเธอ" เป็นเท้าแชร์นางวอนเธอ ชื่อเซกซีเหลือเกิน คือผู้ที่ทำให้รถกระบะของนายกระตุกเสียหายจนต้องเปลี่ยนคันใหม่ทั้งสองฝ่ายจึงเกทไอเดีย ให้นายกระตุกเปียแชร์ที่เหลืออยู่สองมือ เอาเงินนั้นรวบรวมไปให้บริษัทรถแล้วนางวอนเธอจะส่งแชร์ให้เองจนครบ
อ้อ ! บอกก่อน แชร์ที่เล่นมือละ ๕๐๐ บาท เท่านั้นเอง ไม่ได้มากมาย เรื่องน่าจะจบไม่มีอะไรอีก แต่มีจนได้มีการชักเย่อกันบนศาล
โดยนางวอนเธอ นั่นแหละตั้งตัวเป็นโจทก์ฟ้องนายกระตุก ในคำฟ้องระบุว่านายกระตุกเปียแชร์ไปแล้วส่งแชร์ไม่ครบงวด ขาดอยู่ 6,000 บาท จึงฟ้องบังคับพร้อมทั้งดอกเบี้ยที่ค้างสองร้อยกว่าบาทกับดอกเบี้ยอีกร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะจ่ายเสร็จ
"โห เงินแค่นี้ลงทุนฟ้องร้องเรา อะไรไม่ว่า นังวอนเธอมันเบี้ยวเราชัดๆ มันบอกว่าจะรับภาระส่งแชร์แทนเราชดใช้ค่าเสียหายรถเรา หนอยมันยังหาเรื่องฟ้องเราอย่างหน้าด้านๆ"
นายกระตุกร้องโวย ต่อจากนั้นก็จ้างทนายซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเงินเท่าไหร่เพื่อสู้คดีให้การไปตามความจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วตัดสินยกฟ้อง ให้นายกระตุกชนะคดี อาการกระตุกหายไป
โจทก์คือนางวอนเธอหัวหมอ ราวีต่อไปด้วยการยื่นอุทธรณ์ ขอให้ตัดสินให้หนูชนะ หนูต้องเอาให้ได้เงินหกพันบาทใครหาว่าหนูโกงก็ตาม
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษายืน
นางวอนเธอ เป็นหัวหมอขนานแท้ดั้งเดิม ไม่ลดละความพยายาม ให้ทนายยื่นฎีกา ยังไงหนูก็แพ้ไม่ได้อ้างข้อกฎหมายว่า ข้อตกลงที่นายกระตุก เอ่ยถึงเป็นการทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือหักกลบลบหนี้และบังคับไม่ได้
ศาลฎีกาหมดทางหนี ต้องรับคดีนี้ไว้พิจารณา แม้จะเป็นคดีเล็กๆ เมื่อโจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายก็ต้องรับไว้พิจารณาตามระเบียบ ต่อจากนั้นก็ชี้ขาดออกมาว่า
แม้จะได้ความตามที่นายกระตุกอ้าง เรื่องเปียแชร์เพื่อจ่ายค่ารถกระบะที่เสียหายให้แก่นายกระตุก โดยนางวอนเธอเป็นคนส่งแชร์ แต่เมื่อเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทเรื่องรถโดยการประนีประนอมยอมความให้มีการเปียแชร์แล้วไม่ได้ทำกันเป็นหนังสือเพื่อเป็นหลักฐาน ลงลายมือชื่อคู่กรณี ตามกฎหมายแพ่ง มาตรา ๘๕๑ท่านบอกว่านำมาฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
นั่นหมายความว่าจะต้องตัดสินพลิกกลับซะแล้วละนายกระตุกเอ๋ย
ว่าแล้วศาลฎีกา ก็พิพากษากลับ ใก้นายกระตุกจ่ายค่าแชร์ตามที่นางวอนเธอ ฟ้องมาหกพันกว่าบาทหลังจากสู้กันคดีกันแบบมาราธอนสามศาล ใช้เวลานับแต่เกิดเหตุราวๆ 5 ปี สะใจไหมน้อง
งานนี้นายกระตุกคงกลับไปนอนกระตุกอยู่ที่บ้านอีกนานด้วยความเจ็บกระดองใจ เพราะเสียท่านางวอนเธอเรื่องที่ไม่ได้ทำความตกลงเป็นหนังสือผูกมัด เลยแพ้คดีในยกท้ายอย่างที่ไม่น่าจะแพ้
ถามว่า เป็นธรรมไหม ภาษาชาวบ้านก็ต้องตอบว่า ไม่เป็นธรรม ! แต่ภาษาโรงศาลเขาบอกว่า เป็นธรรมแล้วตามตัวหนังสือไม่เกี่ยวกับศีลธรรม
จำใส่กระดองใจไว้ ถ้าทำความตกลงเมื่อมีข้อพิพาทอย่างหนึ่งอย่างใดเกิดขึ้นแล้วประนีประนอมยอมความกันต้องทำหนังสือลงชื่อให้เรียบร้อย เบี้ยวขึ้นมาจึงจะนำไปฟ้องร้องหรือสู้คดีได้
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2533
คดีรถ ตีพิมพ์ใน"4wheels" ส่งไป ๑ พ.ค.๔๕
ABOUT THE AUTHOR
ณ
ณรงค์ นิติจันทร์
ภาพโดย : -นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า