ใส่สีใส่สัน
อรชรร้อนรัก
เมื่อปี 1959 มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเข้ามาฉาย และประทับใจผมอย่างมากชื่อภาพยนตร์ SOME LIKE IT HOT : หรือ "อรชรร้อนรัก" เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์กรุงเกษม เป็นหนังตลกแสบคันตามแบบฉบับการสร้าง การกำกับ และการเขียนบทของ บิลลี ไวล์เดอร์
ดารานำแสดงมีแม่นมโต มาริลีน มอนโร (MARILYN MONROE)/แจค เลมมอน (JACK LEMMON) โทนี เคอร์ทีส (TONY CURTIS) จอร์จ ราฟท์ (GEORGE RAFT) และตลกปากกว้าง โจ อี บราวน์ (JOE E. BROWN)
มาริลีน มอนโร เป็นผู้หญิงผมบลอนด์ หน้าอกเหมือนภูเขาน้ำแข็ง โดยปกติแล้วฝรั่งถือว่า ผู้หญิงผมบลอนด์นั้น เป็นประเภท ดัมบ์ บลอนด์ ซื่อบื้อ มีแต่ความสวยในเรือนร่างแต่ในหัวเต็มไปด้วยรู แบบชนิดที่ว่า "พรุนไปทั้งหัว"
และในเรื่องนี้ มาริลีน ต้องพูดคำว่า "ฉันไม่ฉลาดนักหรอกคุณ" ถึง 3 ครั้ง
ลองค้นหา JOKES ดูเถิดครับ จะพบผู้หญิงผมบลอนด์โง่แบบน่าหัวเราะใน BLOND JOKES
ในหนังเรื่องนี้ มาริลีนรับบทเป็น สาวน้อยชื่อ ชูการ์ เคน เป็นนางเอกหนังคู่กรรมของผู้กำกับ บิลลี ไวล์เดอร์ สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับ ไวล์เดอร์ ทุกครั้งที่เอามาเล่น โดยก่อนหน้านี้ 4 ปี เขานำเธอมาเล่นเรื่อง THE SEVEN YEAR ITCH
แต่ มาริลีน ก็ให้ความคุ้มกับเขาในด้านประสบความสำเร็จ
โดยส่วนตัว ผมชื่นชอบงานของ บิลลี ไวล์เดอร์ เพราะมี ไอแอลเอ ไดมอนด์ (I.LA. DIAMOND) เป็นคนเขียนบทภาพยนตร์ ลักษณะบทภาพยนตร์ของเขามักแสบๆ คันๆ เสมอ และหนักไปทางล้อเลียนสังคม
ในบทแม่อ้อย นมโต (ชูการ์ เคน) นี้ ดูเหมือนชีวิตของนางเอกในจอจะตรงกับ มาริลีน ผู้แสดงค่อนข้างมาก แทบว่าจะเป็นคนๆ เดียวกันด้วยซ้ำ
ชูการ์ เคน วัยเบญจเพส ผ่านความผิดหวังมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง มีความใฝ่ฝันว่าจะต้องได้พบผู้ชายสักคนที่มีทั้งฐานะ และความจริงใจที่พึ่งพาได้ ตลอดเวลา ในความเป็นจริงของชีวิต ชูการ์ เคน พบแต่นักดนตรีหนุ่ม หลอกเด็ดสะระตี่เธอแล้วก็ตีจากไป จนท้ายที่สุดเธอก็ต้องมาอยู่กับวงดนตรีผู้หญิงล้วนๆ
ชูการ์ เคน เป็นเด็กสาวที่อ่อนหวาน ร่าเริง ช่างฝัน ดวงตาแฝงไว้ซึ่งความเศร้าเล็กน้อย เป็นผู้หญิงที่มีความจริงใจและความกล้าที่จะยอมรับว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนฉลาดเลย
ลักษณะประการหลังนี้ ทำให้แลดูเธอเป็นเด็กน่าสงสาร ช่วยตนเองไม่ได้
"อรชรร้อนรัก" เป็นหนังที่ดูได้ไม่เบื่อ สิ่งหนึ่งที่ทำไม่ให้ผมรู้สึกเบื่อแต่สามารถเรียกกลับมาดูได้ซ้ำก็เป็นเพราะ มาริลีน มอนโร ส่วนสัดของหล่อนเป็นผู้หญิงแท้ๆ เต็มมาตราส่วน หลายเรื่องที่หล่อนนำแสดงอยู่ในความทรงจำของผม ทั้ง THE RIVER OF NO RETURN/THE APARTMENT และ NIAGARA
แต่ในเนื้อหาจริงๆ คุณค่าทาง "STORY" ก็สร้างความบันเทิงเต็มรูปแบบ มิได้มีเพียงความงดงามในสรีระของ มาริลีน มอนโร ประการเดียว เรื่องราวเกี่ยวกับพฤติกรรมยิ่งใหญ่ของเจ้าพ่อทางด้านน้ำเมา จอร์จ ราฟท์ แสดงเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย ในขณะที่ โทนี เคอร์ทีส กับ แจค เลมมอน ในบทของ โจ และ เจอร์รี นักดนตรีตกยากไส้แห้ง บังเอิญไปเห็นการฆาตกรรมหมู่ของแกงค์เจ้าพ่อ จำเป็นต้องระหกระเหินปลอมตัวเป็นผู้หญิงไปกับวงดนตรีผู้หญิงล้วน เพื่อหลบหนีการ "ฆ่าตัดตอน"
ชีวิตของผู้ชายที่ปลอมตัวเป็นผู้หญิง และมาอยู่กับผู้หญิงจริงๆ แค่คิดก็สนุกแล้ว
แต่ "อรชรร้อนรัก" ได้สมองจากคนเขียนบทภาพยนตร์ ได้พรสวรรค์จากนักแสดงระดับโลก การเล่าเรื่องนี้จึงสามารถเรียกเงินได้เป็นกอบเป็นกำไปทั่วโลก
โดยความเป็นภาพยนตร์ โจ กลายเป็น โจเซฟิน และเจอร์รี กลายเป็น แดฟนี ทั้งไมตรีและความสัมพันธ์เกิดขึ้นเพราะความสนิทสนมจาก ชูการ์ เคน และคนทั้งสอง สนิทสนมถึงขนาด ชูการ์ เคน เปิดเปลือกชีวิตของหล่อนให้ โจเซฟิน ฟังอย่างสิ้นเชิง
วงดนตรีของ ชูการ์ เคน เดินทางไปแสดงสดที่ฟลอริดา เมืองตากอากาศชายทะเลของเศรษฐี มาริลีน มอนโร ได้พบเศรษฐีหนุ่มคือโทนี เคอร์ทีส หรือโจ หรือ อีกทีคือ โจเซฟิน นั่นเอง ขณะที่เกลอของเขาคือ แจค เลมมอน ถูกนายออสกูด เศรษฐีวัยกลางคนตามล่าหาความรัก เพราะหลงเสน่ห์ เจอร์รี
ในคราบของสาวใหญ่ แดฟนี
การหลบหนีของ โจ กับ เจอร์รี ทำท่าว่ารอดสันดอน แต่ที่ไหนได้อันธพาลใหญ่ดันมาเปิดประชุมใหญ่ที่ฟลอริดา การผจญภัยแบบชุลมุนวุ่นวายกลายเป็นรักตลกเบาสมอง
"อรชรร้อนรัก" สะท้อนให้เห็นความเร่าร้อนแห่งสังคม สัญชาตญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์ได้ถูกนำออกมาตีแผ่อย่างแสบๆ คันๆ คือ การสร้างภาพในด้านบวกของตัวเองให้สังคมแลเห็น
หลังฉากการจัดงานศพ แท้ที่จริงคือ ร้านเหล้าเถื่อนของอันธพาล มีกาแฟทุกประเภทเสิร์ฟ การจัดคอคเทลพาร์ทีของนักดนตรีบนโบกีรถไฟอย่างสนุกสนาน ตอบแทนความสะใจที่เจ้านายสั่งห้ามเสพสุรา โทนี เคอร์ทีส ในคราบของผู้หญิงตัวปลอมเป็นการหลอกลวงสาวที่ไม่ฉลาดเลย อย่าง มาริลีน มอนโร ในบทของ ชูการ์ เคน
"บางคนชอบร้อน" หรือ "SOME LIKE IT HOT" รวมไปถึงบรรยากาศที่คลอไปกับการเล่าเรื่องนี้ โดยใช้เพลงประกอบเป็นเพลงแจซซ์ อันเป็นดนตรีแบบมหากาพย์แห่งความร้อน ความฝันที่เคลิบเคลิ้มด้วยความมึนเมาทางตัณหาแห่งชีวิต ความมึนตึ้บมีถึงระดับ "หน้ามืด"
งานของ ไดมอนด์ คนเขียนบทภาพยนตร์นั้น เป็นขนมจีนผสมน้ำยาได้อย่างอร่อยถูกปากกับการเขียนบทร่วมของ บิลลี ไวล์เดอร์ มีคำพูดที่คมคายหลายต่อหลายครั้ง ถูกใจคนเขียนหนังสืออย่างผมเป็นอันมากทุกเรื่องที่สองคนนี้จับมือกันสร้าง
ตัวแสดงแต่ละตัวก็เหมาะสม มาริลีน มอนโร ดูเป็นธรรมชาติน่ารักน่าทะนุถนอม โจ อี บราวน์ แค่อ้าปากก็ตลกแล้ว ความคล่องแคล่วของ แจค เลมมอน ในบทของคนรักเพื่อนใจอ่อนเพราะเพื่อนทุกเรื่อง เป็นบทที่ แจค เลมมอน ถนัด
ซีนสุดท้ายของเรื่องเป็นสุดยอดในความทรงจำของผม เศรษฐีวัยกลางคนตลกปากกว้าง เอา แจค เลมมอนในคราบของแม่ แดฟนี ลงเรือเร็ว วิ่งออกไปกลางทะเล และแจค เลมมอนก็พยายามสารภาพกับเศรษฐีหน้ามืดว่า เขาเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง แต่ นายออสกูด
หัวร่อปากกว้างตอบว่า
"NOBODY'S PERFECT" ไม่มีใครที่ดีพร้อมสมบูรณ์แบบไปหมดหรอกว่ะ...!?!
เรื่องโดย : จอสยาม
ภาพโดย : -
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : ใส่สีใส่สัน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/54352