ระหว่างทางและใจ(formula)
ทางเชื่อมของเส้นขนาน
ระหว่างเส้นทางเลาะริมโขงอันร้อนระอุ จากอุบลราชธานี อำนาจเจริญ สู่มุกดาหาร ผมมุ่งหน้าไปยังสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ที่เพิ่งเปิดใช้ ด้วยจุดประสงค์หลัก คือ การขนส่งสินค้าที่สะดวกยิ่งขึ้น แต่ด้วยความใหม่ของวัตถุ บวกกับความเห่อของคน มันจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยไม่ตั้งใจ
เหตุเพราะกลัวหลง ผมชะลอรถถามทางชาวบ้านที่ขับรถอีแต๋น อาจคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เนื่องจากเขาเป็นคนแขวงสะหวันนะเขต ที่เคยร่วมสร้างสะพาน จนได้มา "เอาบุญแอว" (แต่งงาน-ถือเป็นบุญแอว) กับสาวไทย แต่ด้วยอัธยาศัยที่ดี เราจึงถูกคอกันง่าย เขา (ชื่อท้าวศรีอุ่น) บอกพอมีเมียแล้วก็ได้แต่ทำงาน ไม่ค่อยได้ไปไหน จึงอยากเที่ยวทั่วไทยเหมือนผมบ้าง
ส่วนตัวผม ตอนนี้กลับไม่รู้สึกอยากข้ามไปฝั่งลาวสักนิด เพราะคิดว่า ถ้าแม่หญิงลาวงามแท้ท้าวศรีอุ่นคงไม่มาแต่งงานกับสาวไทย
และถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริง สาวลาวก็อย่าหวังจะได้มาเอา "พ่อบุญแอว" ของผมเสียให้ยาก !
ตลาดอินโดจีนที่ริมโขง และทั้งตัวเมืองมุกดาหาร วันนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คน เพราะมีนักท่องเที่ยวชาวลาวมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น คาดการณ์ว่าในปีนี้ จะมีรถขนส่ง และรถทั่วไปวิ่งเฉลี่ยวันละ 1,100 คัน และภายใน 10 ปีข้างหน้า จะมีถึงวันละ 2,000 คัน สิ่งนี้ทำให้ชาวมุกดาหารมองเห็นช่องทางธุรกิจมากขึ้น
สอดคล้องกับที่ผมได้สนทนากับ อีดีธ นามประกาย ประธานหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร เธอพูดถึงโอกาสของสะพานที่มาพร้อมกับคลื่น 2 ลูก คือ 1. คลื่นของโอกาสทางการท่องเที่ยว 2. คลื่นของโอกาสทางการค้าจากการนำสินค้าไปขายเพื่อนบ้าน ผมถามกลับว่า ที่กลัวคือ ถ้าเอาเข้าจริงเราขายสู้เขาไม่ได้ แต่เขากลับเอาสินค้ามาขายเรา และตีตลาดได้ ด้วยราคาที่ถูกกว่าล่ะ ? เธอตอบอย่างฉลาดว่า เป็นไปได้ แต่เรามีแนวทางชัดเจนแล้วว่า ต้องขายสินค้าแปรรูปแทนสินค้าวัตถุดิบ และฉีกหนีเพื่อนบ้านในเรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
กว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมาของโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคกลุ่มแม่น้ำโขงหรือ GMS (GREATER MAEKONG SUBREGION) วันนี้การพัฒนาที่ว่า เป็นรูปเป็นร่างด้วยเส้นทางการคมนาคมขนส่งใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงการค้าและเศรษฐกิจไว้ด้วยกัน เส้นทางนี้มีรหัสเรียกขานว่า R2 เริ่มจากมุกดาหาร ไปสุดทางที่ท่าเรือดาบังของเวียดนาม
นอกจากประเด็นด้านความหวังทางเศรษฐกิจ สะพานแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของมุกดาหาร สังเกตได้จากป้ายบอกทาง และผู้คนที่เดินทางมาชื่นชมไม่ขาดสาย
สักการสถาน พระมารดาแห่งมรณะสักขี อยู่ที่บ้านสองคอน ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีเรื่องเล่าว่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ราวปี 2483 เกิดข้อพิพาทเรื่องดินแดนระหว่างไทยกับประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส เรื่องอ้างว่าชาวไทยคริสต์ถูกประณามว่าเป็นพวกทรยศชาติ ใครที่นับถือจะถูกบังคับให้ละทิ้งศาสนา แต่มี 7 คนที่ยอมตายเพื่อยืนยันความศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า ในปี 2532 สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 จึงแต่งตั้งให้เขาเหล่านั้นเป็นนักบุญราศี
ภูผาเทิบ มีที่มาจากการที่หินมากองเทิบทับกันเองอย่างวิจิตรพิสดารบนลานกว้าง ประหนึ่งเป็นประติมากรรมจากธรรมชาติ หินบางก้อนมีลักษณะคล้ายเครื่องบินไอพ่น รองเท้าบูทเก๋งจีน หรือสถูป สุดแต่จะจินตนาการ และที่นี่เราได้พบกับกลุ่มแม่บ้านสานตะกร้าพลาสติคตัวจริง กว่าร้อยละ 80 ของที่เห็นวางขายในตลาดนัดจตุจักรผลิตจากที่นี่ ผมเลยต้องหอบตะกร้าพลาสติคกลับบ้านพะรุงพะรัง เพราะราคาถูกกว่าครึ่ง
ข่าวการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแพร่สะพัดไปทั่วตั้งแต่ 5 ปีก่อน ทำให้เมืองเล็กๆ อย่างมุกดาหาร กลับมีโรงแรมใหม่ผุดขึ้นมากเกินพอดี ก่อนหน้านี้หลายแห่งไม่มีลูกค้ามาพักแต่ก็เอาเถอะ หลังสะพานเปิด อีกไม่นานก็คงจะมีคนพักเต็ม และราคาก็คงสมเหตุสมผลไม่ถูกเหลือเชื่อเหมือนที่ผมไปพักที่ "โรงแรม ทรัพย์มุกดา แกรนด์ โฮเทล" คืนละแค่ 400 บาท แต่ได้ห้องดีมาก
หลายเสียงของชาวมุกดาหารที่ผมได้คุยด้วย บอกว่าตั้งแต่เปิดสะพานผู้คนคึกคักขึ้น จากการไปมาหาสู่ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน แต่หลายคนกลับบอก ยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยน เพราะคงต้องรอสักประเดี๋ยว เหล่านี้เรียกว่าความเห็นจากการคิดวิเคราะห์ แต่มีส่วนหนึ่งที่ตอบจนผมตกใจด้วยประโยคที่ว่า "สะพานอะไร ไม่เห็นรู้เรื่อง !" สิ่งนี้เรียกว่าความไม่รู้ อาจเป็นเพราะไม่อยากรู้หรือเพราะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่จำเป็นต้องรู้ และผมเชื่อว่าที่ฝั่งลาว ก็คงมีกลุ่มคนทั้ง 2 ประเภทนี้อยู่ ไม่ต่างจากบ้านเรา
รู้ กับ ไม่รู้ คล้ายเส้นขนาน ที่ไม่อาจบรรจบกันได้ถ้าไร้ทางเชื่อม ไม่ผิดกับชายแดนไทย และลาวที่คู่ขนานกันไปตลอดแนวแม่น้ำโขง แต่วันนี้ ถูกเชื่อมโยงด้วยสะพานแห่งใหม่ ที่ระยะสั้นอาจเป็นแหล่งที่ท่องเที่ยว ส่วนระยะยาวจะเป็นเส้นทางขนส่งที่มีประสิทธิภาพ
"ผมนึกถึงท้าวศรีอุ่น นอกจากประโยชน์ที่ว่ามา สิ่งนี้ยังอาจเป็นสะพานเชื่อมหัวใจของคนท้องถิ่นสองฝั่งโขง ชั่วนิจนิรันดร"
อยากให้คุณรู้
อยากขับรถข้ามสะพานไปลาว ต้องทำอย่างไร ?
1. เจ้าของรถต้องทำหนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ และติดเครื่องหมายแสดงประเทศไว้ที่รถขอทำได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่จดทะเบียน หรือที่สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร
2. ต้องจัดทำเอกสารประกันภัยรถยนต์ ที่แขวงสะหวันนะเขต
3. ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และฉบับที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งทำได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร
4. หากไม่ใช่เจ้าของรถ ผู้ขับขี่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้นำรถออกนอกประเทศไทยได้
5. ผู้ขับขี่และผู้เดินทางต้องมีหนังสือเดินทางหรือหนังสือผ่านแดน
รถยนต์ : ซังยง แอคยอน
สถานที่ : สะพานข้ามแม่น้ำโขง จังหวัดมุกดาหาร
ขอขอบคุณ : บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด
เรื่องโดย : ศิธา เธียรถาวร
ภาพโดย : ราชวัตร แสงจันทรา
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : ระหว่างทางและใจ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53205