มาตรวัดตลาดรถ
ฝากถึงเวบมาสเตอร์
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์,
เดือนกุมภาพันธ์ ปี '50 กับ '49 ,
ตลาดรวม ,ลด ,18.4 %
รถยนต์นั่ง ,ลด ,18.9 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ,ลด ,20.8 %
รถอเนกประสงค์ (MPV) ,ลด ,24.9 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) ,เพิ่ม ,9.5 %
[/table]
สภาพเศรษฐกิจยังไม่ค่อยนิ่ง เพราะการเมืองยังไม่อำนวย ทำเอายอดการขายรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ยังคงร่วงผลอยเหมือนเดือนก่อน ขายกันได้ ลดลง 18.4 % ด้วยยอด 43,606 คัน เท่านั้นเอง ขณะที่ยอดการขายรวม 2 เดือน ยังตกต่ำอยู่ 20.8 % ขายได้เพียง 82,249 คัน
นั่นก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมทำใจ ยอมรับสภาวะเช่นนี้ เพราะเป็นที่คาดกันมาตั้งแต่ต้นปีอยู่แล้ว ว่ายอดการขายปีนี้ อย่างเก่งก็คงขายได้เสมอตัว หรือใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
แถมยังมีตัวเลขที่อัดกันเข้าไปตั้งแต่ปีก่อนอยู่บางส่วนด้วย เอ๊ะ ! ใครบอกละเนี่ย
เรามาคุยกันเรื่องน่ารู้ก่อนดีกว่า ด้วยความที่จำเป็นต้องอยู่กับข้อมูลข่าวสาร ต้องค้นคว้าข้อมูลที่น่าสนใจในแวดวงยานยนต์เพื่อมานำเสนอท่านผู้อ่าน ต้องท่องอยู่ในโลกไซเบอร์ทุกวัน หนนี้ขอชำแหละข้อมูลของส่วนราชการ ที่คุยกันนักหนาว่าต้องเผยแพร่ข้อมูล ตามระเบียบว่าด้วยการเผยแพร่ข้อมูล และข่าวสารของทางราชการ แต่บังเอิญว่าไม่มีตรงไหนระบุเสียด้วยสิ ว่าต้องเป็นข้อมูลที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์
หนนี้เกิดความอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับน้ำมันหล่อลื่น เพราะมีรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหลากรูปแบบ ซึ่งแต่ละชนิดก็ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่นไม่เหมือนกัน อยากรู้ว่าพวกรถที่ใช้เชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเบนซินน่ะมีใครเอาเข้ามาขายบ้าง และต้องมีเครื่องหมายอะไรบนภาชนะบรรจุด้วยหรือเปล่า ถึงจะรู้ว่าน้ำมันหล่อลื่นนี้น่ะ ใช้กับรถที่ใช้เชื้อเพลิงทดแทนชนิดไหนก็วิ่งเข้าไปในเว็บของ กระทรวงอุตสาหกรรมตามไปจนเจอข้อมูล เอกสารเผยแพร่ ปัญหาน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมเขียนโดยนักวิทยาศาสตร์ 8ว. เผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2545
อย่าลืมนะครับว่าปีนี้ พอศออะไร ?
น้ำมันหล่อลื่น เป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องจักรกล เครื่องยนต์ ยานพาหนะต่างๆทำให้มีปริมาณน้ำมันหล่อลื่นที่ผ่านการใช้งานแล้วเพิ่มมากขึ้น ที่ส่วนหนึ่งก็มีการทดลองนำไปดัดแปลงใช้ประโยชน์อีกครั้ง เช่น หล่อลื่นโซ่ ชโลมเครื่องมือกันสนิม ทากันปลวก ทาแบบก่อสร้างหรือนำไปกรองฟอกให้สะอาด แล้วใช้หล่อลื่นเครื่องจักรความเร็วรอบต่ำ
แต่ผู้ใช้ที่เห็นว่าเป็นภาระในการเก็บรักษา ก็เททิ้งลงพื้นบ้าง ในทะเล แม่น้ำลำคลองบ้าง หลวงก็เลยต้องออกประกาศให้เป็นวัตถุอันตราย บังคับให้โรงงานที่มีน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว ต้องเก็บรวบรวมและกำจัดให้ถูกต้อง ก็เลยเกิดโครงการจัดการกับน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว เมื่อปี 2542 รวบรวมเอาไปจัดการอย่างถูกต้อง เฉลี่ยเดือนละประมาณ 320,000 ลิตร
จากการสำรวจเมื่อปี 2540 พบว่า กลุ่มกิจกรรมด้านการขนส่งและยานพาหนะต่างๆ เป็นกลุ่มที่มีการใช้ และก่อให้เกิดน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วสูงสุด ในสัดส่วน 61.3, 67.8 % รองลงมาได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรม 28.0, 22.2 % กลุ่มเกษตรกรรม 5.9, 5.1 % กลุ่มประมง 3.3 % กลุ่มราชการ และรัฐวิสาหกิจ 1.5 %
ปริมาณน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วในปี 2540 รวมทั้งประเทศประมาณ 329 ล้านลิตร จากทุกกิจกรรมคาดหมายว่าสามารถจัดเก็บได้เพียง 219 ล้านลิตร หรือ 66 % ส่วนอีกกว่า 100 ล้านลิตร หรือ 34 % คาดว่าคงมีการใช้ประโยชน์บ้าง และเททิ้งในลักษณะที่ไม่เหมาะสม
แต่จากการวิเคราะห์น้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว พบว่าสามารถเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดน้ำมันเตา A ได้ดีสามารถนำไปใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อทดแทนน้ำมันเตาได้เป็นอย่างดี สามารถใช้ในอุตสาหกรรมอย่าง เตาเผาซีเมนท์ เชื้อเพลิงหม้อต้มไอน้ำอุตสาหกรรม หรือการหลอมโลหะบางประเภท ได้
อันที่จริงก็เป็นข้อมูลที่ดี เสียแต่เป็นข้อมูลที่เขียนมา 5 ปีแล้ว แล้วนำมาใส่ไว้ในระบบฐานข้อมูลก็ฝากเวบมาสเตอร์ ดูแลปรับปรุงกันบ้าง อย่าให้ต้องหยิบเอามาโพทนากันบ่อยๆ เลยนะครับ
กลับมาเรื่องตัวเลขของเราดีกว่า หนนี้เป็นของเดือนกุมภาพันธ์ ยอดการขายร่วงหล่นเป็นเดือนที่ 2 ลดลง 18.4 % ขายเพียง 43,606 คัน ขณะที่ยอดรวมลดเยอะ 20.8 % ขายได้ 82,249 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ประจำเดือนก็ขายลดลงใกล้เคียงกับตลาดรวม โตโยตา ขายได้ 17,651 คัน ลด 17.6 % ส่วนแบ่ง 40.5 % อันดับที่สอง อีซูซุ ขาย 10,164 คัน ลดเยอะกว่าตลาด 30.3 % ส่วนแบ่ง 23.3 % อันดับที่สาม ฮอนดา ขาย 5,140 คัน ลดเพียง 2.2 % ส่วนแบ่ง 11.8 % อันดับที่สี่ นิสสัน ได้ดีเพราะน้องเนาวรัตน์ ขายได้ 3,547 คัน เพิ่มแต่ผู้เดียว 12.8 % ส่วนแบ่ง 8.1% และอันดับที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 2,049 คัน ลดเยอะ 24.8 % ส่วนแบ่ง 4.7 %
รวม 2 เดือน โตโยตา ขาย 34,354 คัน อีซูซุ ขาย 19,572 คัน ฮอนดา ขาย 9,465 คัน นิสสัน ขาย 4,932 คัน และ มิตซูบิชิ ขาย 3,970 คัน
แยกประเภทเป็นรถยนต์นั่ง ช่วงนี้ยังไม่มีน้องใหม่ออกสู่ตลาด ยอดรวมก็เลยร่วงผลอย ลดลง 18.9 % ขายได้เพียง 10,908 คัน รวม 2 เดือนลด 14.8 % ขาย 21,314 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ โตโยตา ขายแค่ 4,697 คัน ลดลง 23.2 % ส่วนแบ่ง 43.1 % เพราะยังปรับระบบโรงงานบ้านโพธิ์แห่งใหม่ไม่เสร็จ อันดับสอง ฮอนดา ขาย 4,401 คัน ลดลง 40.3 % ส่วนแบ่ง 40.3 % อันดับสาม เชฟโรเลต์ ขาย 574 คัน เพิ่มเยอะเพราะน้องคนเล็ก 93.9 % ส่วนแบ่ง 5.3 % อันดับสี่เมร์เซเดส-เบนซ์ ขาย 277 คัน ลดเล็กน้อย 3.1 % ส่วนแบ่ง 2.5 % และอันดับห้า มาซดา ขาย 260 คันลดลง 4.1 % ส่วนแบ่ง 2.4 %
ผู้เสียภาษีสูงสุด โพร์เช และ แจกวาร์ ขายได้เจ้าละ 3 คัน
ประเภทรถกระบะ 1 ตัน หนนี้เป็นเรื่องแน่ว่า เนาวรัตน์ น้องใหม่ ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับ นิสสันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าตำแหน่งแชมพ์จะยังเป็นคนหน้าเดิมอยู่ อันดับหนึ่ง โตโยตา ขายได้ 8,966 คันลด 14.6 % ส่วนแบ่ง 36.6 % อันดับสอง อีซูซุ ขาย 8,682 คัน ลดลง 31.8 % ส่วนแบ่ง 35.5 % อันดับสาม แซง มิตซูบิชิ โดยพลัน นิสสัน ขาย 2,827 คัน เพิ่มขึ้น 20.8 % ส่วนแบ่ง 11.6 %
รถอเนกประสงค์ ขายเพิ่มขึ้นอยู่เจ้าเดียว คือ เกีย ขายได้ 26 คัน เพิ่ม 333.3 % ส่วนแบ่ง 3.8 % โดยมี โตโยตา เป็นแชมพ์ตามเคย ขาย 533 คัน ลด 24.7 % ส่วนแบ่งตั้ง 77.0 %
นั่นคือ ความเป็นไปในรอบเดือนกุมภาพันธ์ ที่ตัวเลขยังคงไม่รุ่งเท่าที่ควร เพราะสภาวะทั้งเศรษฐกิจการเมือง ที่ยังคงวุ่นวายกันเป็นรายวันอยู่ขณะนี้ ก็ได้แต่หวังว่าคงจะคลี่คลายไปในทางที่ดีในเร็ววันเพื่อประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราครับ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53197