โค้งอันตราย
เปรียบเทียบ
เห็นตัวเลขยอดการขายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ก็พอบอกได้เลยว่า ปีหมูทอง ปีนี้ กำลังจะกลายเป็นปี
หมูไฟ ให้นักการตลาดได้ร้อนก้นกันเป็นแน่ ทั้งๆ ที่ควันจากสงครามแคมเปญชิงโชคเมื่อเดือน
ธันวาคม แถมด้วยสงครามชิงทอง เดือนมกราคม ยังไม่จาง แถมฟาดเอาค่ายบางค่าย ออกอาการ
บาดเจ็บเล็กๆ ต้องรีบส่งแคมเปญมาสกัดเอาเดือนกุมภาพันธ์
แค่ต้นปี แคมเปญก็เริ่มระอุกันแล้ว ที่เคยว่าเอาไว้ว่า เดี๋ยวนี้ ประกันชั้นหนึ่ง 1 ปี กลายเป็นอุปกรณ์
มาตรฐานประจำรถกระบะไปเสียแล้ว เห็นท่าทางจะลามไปถึงรถเก๋งเอาด้วยสิ
ซื้อรถใหม่ครั้งใด อย่าลืมต่อรองของแถมให้ได้มากที่สุดก็แล้วกันนะครับ ท่านผู้บริโภคทั้งหลาย
หนนี้เห็นข่าวการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่สำนักนายก ฯ
จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ก็ให้งงๆ กับชื่องาน เลยติดตามรายละเอียดมานำเสนอตามระเบียบ
ต้นเหตุของงานก็มาจาก รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2540 ไม่ใช่ฉบับปี 2550 ที่กำลัง
ร่างอยู่นี่นะครับ
ในหมวด สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย มีสิทธิ์ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารสาธารณะ สิทธิ
แสดงความเห็นก่อนการดำเนินโครงการ ที่กระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต
สิทธิมีส่วนร่วมการปฏิบัติราชการทางปกครองที่กระทบสิทธิ และเสรีภาพของตน
สิทธิได้รับข้อมูล คำชี้แจงและเหตุผลจากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ
ราชการส่วนท้องถิ่น ก่อนการอนุญาต หรือการดำเนินโครงการ หรือกิจกรรมใด และมีสิทธิ
แสดงความคิดเห็นของตนในเรื่องดังกล่าว
เอาแค่คร่าวๆ นะครับ
สำนักนายก ก็เลยต้องออกระเบียบเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมา เมื่อปี 2548 และกำหนดประชุม
เชิงปฏิบัติการทั้งหมด 12 ครั้งในปีนี้ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน และโดยเฉพาะ
ข้าราชการต่างจังหวัด ในทุกภาค เพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐภาคประชาชน อาทิ ผู้นำ
ชุมชน สมาชิกชุมชน สมาชิกเครือข่ายชุมชน ได้เสริมสร้างความเข้าใจในระเบียบ รวมทั้ง
ส่งเสริมการตรวจสอบ และมีส่วนร่วมของประชาชน
แนวทางบริหารราชการยุคใหม่นั้น ตามหลักธรรมาภิบาล ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม
ของประชาชนอย่างเปิดเผย โปร่งใส เท่าเทียมกัน เป็นประชาธิปไตย และเน้นที่ประชาชน
เป็นศูนย์กลาง
อ้อ ขอเชลียร์รัฐบาลสักเล็กน้อยนะครับ สายด่วนรัฐบาลของสำนักนายก เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์
โทร. 1111 ได้เลยครับ
ที่ยกเอามาเล่าสู่กันฟังหนนี้ เพราะอยากเปรียบเทียบกับฟากสายยานยนต์
ค่ายรถยนต์ที่จะเปิดตัวรถใหม่ เขาก็ต้องทำการบ้านลักษณะเดียวกันนี่แหละ เรียกขานแตกต่างกัน
ไปหลายอย่าง แต่ชื่อที่ใช้เป็นกลาง ก็คือ การทำเวิร์คชอพ
วิธีการ ก็คือ เอารถรุ่นใหม่ ที่กำลังจะเปิดตัวในบ้านเรานี่แหละ รวมทั้งสรรหาเอารถที่มีขายอยู่ในท้อง
ตลาด รุ่น ความจุกระบอกสูงใกล้เคียงกัน เรียกว่า เอามาเปรียบเทียบกันตัวต่อตัว
ทีนี้ก็ต้องหาอาสาสมัคร เรียกว่ามีการประชุมสรรหากันเลยว่า คนที่จะมาทำเวิร์คชอพ กับรถรุ่นนี้
จะต้องอายุประมาณเท่าไร เพศชายหรือหญิง ใช้รถอะไรอยู่ในชีวิตประจำวัน จำนวนก็แล้วแต่ว่า
เจ้าภาพจะพอใจตัวเลขที่เท่าไร 10-20 คนขึ้นไปนั่นแหละ บางทีมีถึง 50 คนด้วยซ้ำไป
เสร็จแล้วก็ต้องเตรียมเอกสาร ว่าอยากรู้อะไรบ้าง อันนี้ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการออกแบบสอบถาม
มานั่งอธิบายว่า อยากรู้เรื่องนี้ เรื่องนั้นนะ ให้คนออกแบบสอบถามไปจัดมา
พอถึงเวลา ก็เอาอาสาสมัครมาทีละคน ให้ดูรถทีละรุ่น แยกไม่ให้ปะปนกัน แล้วตอบแบบสอบถาม
ทีละข้อ เหมือนเอาอาสาสมัครมาทำข้อสอบเลย
เสร็จแล้วก็เอาแบบสอบถามมารวบรวมคำตอบเพื่อหาเรื่องที่อยากรู้
ก็ประมาณว่า หาแนวทางในการโฆษณา ดูว่าจะออกไปในแนวไหนดี เพื่อให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด
เขียนมาสั้นนิดเดียว แต่เวลาทำเรื่องอย่างนี้กันจริงๆ ทำกันเป็นเดือนเชียวนะครับ
แค่ไปหารถคู่แข่งขัน เอามาจอดให้อาสาสมัครตอบแบบสอบถาม หาสัก 4 ยี่ห้อ แค่นั้นก็เหนื่อยแล้ว
ครับ
อันนี้ก็ประมาณว่า เอาผู้บริโภคมาออกความเห็น ให้มีส่วนร่วมก่อนตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนจะออกขาย
หนนี้ มีเรื่องนำเสนอเพื่อทราบอีกเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับภาษีป้ายวงกลม
หลวงท่านอยากส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอื่นทดแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และสนับสนุนการ
ใช้แกสธรรมชาติ หรือการใช้พลังงานสะอาด เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดปัญหาทางด้านมลภาวะ
ทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้น
รวมทั้ง เพื่อให้มีการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม และคุ้มค่า ก่อให้เกิดผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและสิ่ง
แวดล้อมของประเทศ
เจ้าพลังงานอย่างอื่นก็มี อาทิ พลังงานไฟฟ้า พลังงานทดแทน พลังงานที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พลังงาน
อย่างประหยัด หรือแกสธรรมชาติ
ท่านก็เลยจะลดราคาป้ายวงกลมประจำปีให้ ดังนี้
รถที่ใช้ในการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง การขนส่งโดยรถขนาดเล็ก และการขนส่ง
ส่วนบุคคลที่ใช้พลังงานไฟฟ้า หรือพลังงานทดแทน พลังงานที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พลังงานอย่าง
ประหยัดตามที่กำหนด และรถที่ใช้ระบบเชื้อเพลิงที่ใช้แกสธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว
ให้จัดเก็บภาษีประจำปีในอัตรากึ่งหนึ่งของอัตราภาษีที่กำหนดไว้
ส่วนรถที่ใช้ระบบเชื้อเพลิงที่ใช้แกสธรรมชาติร่วม หรือสลับกับน้ำมันเชื้อเพลิงให้จัดเก็บในอัตรา 3 ใน
4 ของอัตราภาษีที่กำหนดสำหรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
อัตรานี้ ใช้กับรถส่วนบุคคลด้วยเช่นกัน
ความหมาย ก็คือ รถคันใดที่ติดตั้งถังแกสธรรมชาติทุกคัน จะต้องมีวิศวกรเซ็นรับรอง ก่อนจะสามารถ
ตรวจสภาพ และเสียภาษีป้ายวงกลมประจำปีได้
เอ๊ะ เรื่องเดียวกันหรือเปล่า
อ้อ อย่าลืมนะครับ ว่าติดตั้งแกสธรรมชาติแบบถังโดนัทน่ะ สอบไม่ผ่านนะครับ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2550
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53150