โค้งอันตราย
เริ่มสตาร์ท
ประดาบก็เลือดเดือด
เริ่มกันตั้งแต่ต้นปี ระหว่างช้างสาร 2 เชือก ที่เลิกงานเลี้ยงปีใหม่ ก็ลงมือทำงานกันทันที ชิงตัดหน้า
ออกรายงานตัวเลขประจำปี ทำเอาคนแถวสำโรงเต้นเป็นเจ้าเข้า
คงไม่ต้องเล่าต่อว่า ใครจะเป็นแชมพ์การขาย เพราะข่าวในหนังสือพิมพ์ก็เผยแพร่กันสนุกสนานไป
แล้ว มาดูปีใหม่ปีนี้ดีกว่า
โดยภาพรวมแล้ว ตลาดปีที่ผ่านมาไม่ถือว่าตกต่ำมากนัก เหตุเพราะบ้านเราประสบภัยธรรมชาติ น้ำ
ท่วมน้ำขังกันยาวนาน แต่ตัวเลขการขายก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สักเท่าใด แม้ว่าจะมีรายการอัดสตอคในช่วงท้าย
ปีกันแบบโหมกระหน่ำ บริษัทแม่แทบส่งรถมาให้จอดที่โชว์รูมฟรีๆ กันหลายเจ้า
ปีใหม่นี้ รายการส่งเสริมการขายยังคงเป็นประเด็นร้อนอยู่ ขนาดรถใหม่ เพิ่งออกสู่ตลาด ก็มีรายการ
แถมประกันชั้นหนึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีกันทุกเจ้า แถมด้วยทีวีจอแบนอีก บางเจ้าก็เล่นที่อัตรา
ดอกเบี้ยต่ำสุด แค่ขอให้ผ่านไฟแนนศ์ รับรองว่าได้เอารถป้ายแดงไปใช้แน่นอน
ส่วนเรื่องเงินดาวน์น่ะ เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันยาวหน่อยนะครับ เพราะยิ่งดาวน์น้อย ก็ยิ่งต้องตรวจสอบ
กันเยอะ เอาเป็นว่าดาวน์ระดับ 20 % นี่จะดูดีที่สุด
ฟากทางเศรษฐกิจ มองตรงกันแทบทุกค่ายว่า รัฐบาลชุดนี้ จะสามารถประคับประคองทั้งด้าน
เศรษฐกิจและการเมือง ให้นิ่งอยู่อย่างนี้ได้นานพอควร ส่วนข่าวสารรายวันจากต่างประเทศน่ะ ฟังหูไว้หูกันบ้างก็ดีนะครับ ชีวิตยังไม่สิ้น คนเรามันก็ต้องดิ้นกันไป จะให้นั่งอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร
เฉไฉออกไปได้อย่างไรก็ไม่รู้
จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่เริ่มทรงตัว เพราะอากาศทางสหรัฐอเมริกาเริ่มอุ่นตัว ทำให้ปริมาณการ
ใช้ลดลง รวมทั้งพี่เบิ้มอย่างเมืองจีน ก็พยายามหันไปหาพลังงานทางเลือกอย่างแกสธรรมชาติมากขึ้น
ราคาน้ำมันดิบก็เลยทรงตัวนิ่งอยู่ที่ระดับ 61 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันสำเร็จรูปบ้านเรา ก็
เลยค่อนข้างนิ่งไปด้วย
ส่วนมาตรการภาครัฐในปีที่ผ่านมา ค่อนข้างทำให้ประชาชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้าง เพราะการ
ใช้น้ำมันชะลอตัวลง น้ำมันชนิดหลัก อาทิ น้ำมันเบนซินออคเทน 91 และ 95 การใช้เฉลี่ยวันละ
16.220 ล้านลิตร ลดลง 9.9 % น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว วันละ 49.700 ล้านลิตร ลดลง 6.2 % และน้ำมัน
เตา วันละ 16.160 ล้านลิตร ลดลง 4.9 %
ในทางกลับกันมีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ตามพฤติกรรมที่ปรับเปลี่ยน น้ำมันแกสโซฮอล ใช้
เฉลี่ยวันละ 3.580 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 93.4 % น้ำมันไบโอดีเซล หรือดีเซลหมุนเร็ว บี 5 ใช้กันวันละ
0.110 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 7 เท่าตัว และแกสธรรมชาติ ซีเอนจี วันละ 10.780 ล้านลบ.ฟุต เพิ่มขึ้น 67.3
%
ส่วน แอลพีจี ในภาพรวมมีการใช้เพิ่มขึ้น 10.2 % ทั้งภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม ในส่วนของ
รถยนต์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 52
ส่วนตัวเลขการขายจาก 6 แสน 8 หมื่นคัน ก็พยายามมองโลกในแง่ดีกันไปหมด ว่าจะไม่มีอะไรเกิด
ขึ้นในปีนี้อีก เอาเป็นว่าคงจะขายได้อยู่แถว ๆ 7 แสนคัน ก็น่าจะพอ รถเก๋ง เอาไปสัก 2 แสน และ
รถกระบะกับบรรทุก ควรจะได้สัก 5 แสนคัน
ในส่วนของรถรุ่นใหม่ๆ ปีนี้ ตัวนำ ได้แก่ นิสสัน นาวารา ที่รีบออกมาขอบคุณตั้งแต่ต้นปี แต่ไม่รู้
ว่าพอขายได้สัก 3 เดือน จะยังกล้อมแกล้มขอบคุณไหวหรือเปล่า เพราะคู่ต่อสู้เยอะเหลือเกิน แถม
แผนการตลาดก็ดูจะน้อมแน้มจัง
นี่ไม่ได้ติเรือทั้งโกลนนะครับ คอยฟังเสียงจากผู้บริโภคตัวจริงเสียงจริงดีกว่า เพราะเสียงของนักข่าว
น่ะ รับได้แค่ราคาที่ตั้งมาชนกันกับบางยี่ห้อโดยเฉพาะ
แต่ที่นี่มองว่า คู่ต่อสู้ที่นักการตลาดเอ่ยนามมาน่ะ มันไม่ใช่คู่ชกตัวจริงนะครับ
ควรจะเป็นพี่ใหญ่ 2 เจ้าเสียมากกว่า เพราะเดี๋ยวพี่เขาก็อัดแคมเปญออกมาสนุกสนานอีก
แหม เงินพี่เขาใหญ่นะครับ
ส่วนค่ายอื่นๆ ก็เป็นเพียงรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับโน่นแต่งนี่เพิ่มออกมา ไม่มียี่ห้อไหนโดดเด่น
คงต้องรอดูรถกระบะใหม่จากแดนภารตะ ที่ปีนี้ยังมาไม่ทัน แต่ปีหน้ามาแน่ ปีนี้เอาแค่แย้มไต๋ไปเรื่อย ๆ
ว่ายังไงก็ถูกกว่าเจ้าถิ่นแน่นอน รูปร่างก็ไม่ได้ขี้เหร่มากนัก ยั่วน้ำลายให้คนคอย
หนนี้มีสะกิดติดใจมาจากท้องถนนช่วงปีใหม่ ก็เลยอยากจะสะกิด ให้ท่านผู้อ่านลองติดเอา
ไว้ในใจสักหน่อยนะครับ
ก็เรื่องการขับรถต่างจังหวัดนั่นแหละ
เป็นที่รู้กันอยู่ว่าช่วงเทศกาล ผู้คนต่างพากันเดินทางท่องเที่ยว หรือว่ากลับภูมิลำเนากันเยอะ ทำให้
ปริมาณยานยนต์บนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น แต่ต้องไม่ลืมว่า เจ้าถิ่น ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมถนน หรือต้อง
เข้ามาร่วมใช้ทางหลวงร่วมกันน่ะ ท่านไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารเหมือนชาวกรุง ท่านก็เลยทำตัวง่ายๆ
สบายๆ บนท้องถนนไปด้วย
ลองดูว่า ท่านทำอะไรที่ต้องระวังพฤติกรรมของเจ้าถิ่นบนท้องถนนบ้างรถเจ้าถิ่นฝ่าไฟแดง ไม่ว่าจะ
เป็นรถเก๋ง รถกระบะ รถบรรทุก ยิ่งโดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ เห็นกันบ่อยมาก รถลืมเปิดไฟวิ่ง เพราะ
พี่เขายังมองเห็นถนนอยู่ บางทีก็เพิ่งออกจากปั๊ม หรือร้านค้า ยังไม่ทันเปิดไฟ รถชะลอเลี้ยวข้ามฝั่ง
ถนน บางทีพี่เขาก็เลี้ยวตั้งแต่ริมถนนด้านซ้าย กะว่าทีเดียวจะเข้าซอยด้านขวาให้ได้ โดยที่ท่านเอง
ก็มองไม่เห็นว่า ตรงนั้นจะมีถนนหรือซอกซอยใด ๆ มอเตอร์ไซค์ เร่งเครื่องส่งตัวขึ้นมาจากร่อง
กลางถนน พรวดขึ้นมาอยู่บนไหล่ทาง หรือริมทางด้านซ้ายรถวิ่งย้อนทางบริเวณจุดกลับรถ หรือ
ยูเทิร์น ถ้าเป็นกลางวันยังพอทำเนา แต่ยามค่ำคืนยิ่งต้องระมัดระวัง
ก็มีคำแนะนำอย่างง่าย สำหรับท่านที่มีความจำเป็นต้องใช้รถใช้ถนนเดินทาง
เรื่องแรก ต้องพยายามสังเกต ศึกษาพฤติกรรมของคนในท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ในการคาดการณ์ที่
ถูกต้อง
ถนนว่าง ทางเงียบๆ ต้องคิดเผื่อไว้เสมอว่า อาจมีพฤติกรรมเสี่ยงแปลกๆ เกิดขึ้นได้เสมอ
ถนนดำที่เปื้อนฝุ่นลูกรัง แสดงว่า มีรถ เข้า/ออกบ่อยๆ เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ในเวลากลางวัน
ใช้แตรเตือนในกรณีที่สงสัย กลางคืน ใช้สัญญาณไฟเป็นระยะๆ อย่างน้อยก็บอกให้พี่เขารู้ว่า
ท่านกำลังมา
ถ้าเบลอ หรือ ง่วง หยุดพักสักครู่ ในที่ที่ปลอดภัย อาจเป็นปั๊มน้ำมันก็ได้ เพราะประสาทสั่งการ
ของท่านช้าลงแล้ว รวมทั้งการคิดและตัดสินใจก็ช้าลงด้วย
ระวังทางโค้ง ต้องคิดให้ถี่ถ้วน
ก็คงเป็นของฝากเล็กๆ น้อยๆ สำหรับปีใหม่ปีนี้ หลังจากที่ฝุ่นควันตลบยุทธภูมิไปเมื่อปลายปี
โดยยังจับมือผู้ชนะไม่ได้ เพราะไม่มีกรรมการกลาง
ลองดูกันต่อไปนะครับ ว่าปีนี้จะมีผู้หาญกล้าที่ไหน ก้าวเข้ามาเป็นกรรมการกลาง ตัดสินยอด
การขายประจำปีกันให้สะเด็ดน้ำเสียที
ผู้ชมข้างสังเวียนรออยู่นะครับ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53115