โค้งอันตราย
ไชโย
เริ่มเข้าที่เข้าทางกันเสียทีนะครับ บ้านเมืองของเรา
ที่จั่วหัวว่า ไชโย น่ะ จะได้ดำเนินธุรกิจกันต่ออย่างไม่ต้องกังวลใจอะไร ยอดการขายรถยนต์จะได้กระเตื้องเสียที
ว่าจะแสดงความยินดีกับท่านนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 ของประเทศ ท่านก็ประกาศไม่รับกระเช้าดอกไม้เสียด้วย
ยังไงก็ตามที ภาวะอึมครึมทางการเมืองได้จางหายไปแล้ว ภาคเศรษฐกิจก็จะได้ขับเคลื่อนเดินหน้ากันต่อ
ทหารหาญของเราก็จะได้กลับบ้านกลับเมืองกันเสียที ได้มาเที่ยวเมืองกรุงทั้งที ไม่ได้ไปไหนเลย ยืนเป็นพระเอกให้ชาวกรุงถ่ายรูป แถมมีแดนเซอร์มาให้กำลังใจถึงที่ ทำเอาสื่อต่างชาติงง ทำข่าวรัฐประการแบบงง ๆ ว่าคนกรุงสนุกสนานกันจัง รัฐประหารทั้งที ไม่ได้ยินเสียงปืนเลยสักแอะ
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของคนกรุง รองจากพระบรมรูปทรงม้า และบริเวณวัดเบญจมบพิตร คือสนามบินสุวรรณภูมิ ทันทีที่เริ่มเปิดใช้บริการ ก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวคนไทยเรานี่เองแหละครับ ส่วนผู้ที่ใช้บริการสนามบินจริงๆ น่ะ น้อยกว่านักท่องเที่ยวเยอะ
ที่น่าบันทึกเอาไว้ก็เห็นจะเป็นโรงแรมในสนามบินแห่งใหม่ของเรา ที่เริ่มเปิดใช้พร้อมกัน ปรากฏว่าห้องเต็มครับ
บ้านอื่นเมืองอื่นเขามีมาตั้งนานแล้ว ของเราเพิ่งเริ่มมีก็เต็มเสียแล้ว ก็ยินดีด้วย
ก็ฝากกราบเรียนท่านผู้บริหารว่า เรื่องการจราจรภายในสนามบินน่ะ ขออย่าให้เหมือนดอนเมืองเลยนะครับ ผู้ยิ่งใหญ่เยอะไปหมด บริเวณที่จอดรถรับส่งสาธารณะ ท่านก็จอดตามสบาย โดยที่ยามไม่กล้าไล่เพราะแต่ละท่านขี่รถยี่ห้อแพงๆ กันทั้งนั้น
ไหนๆ ก็สร้างที่จอดรถเสียใหญ่โตแล้ว ไล่ให้ไปจอดในที่ๆ ควรเถอะ
ไหนๆ ก็สร้างเสียใหญ่โต แบบอยากให้ติดลงกินเนสส์บุคแล้ว การบริหารจัดการแบบไทยๆ น่ะ เลิกเสียทีเถอะครับ
อ้อ เกือบลืมบอกไป ว่านี่เขาเป็นสนามบินระดับอินเตอร์เนชันแนลแล้ว ท่านผู้โดยสารอย่ามัวแต่ชอพพิงเพลินอยู่ละ เพราะเขาไม่มีบริการเสียงตามสาย ว่าเที่ยวบินไหน จะออกหลุมไหน เวลาเท่าไร เรียกเข้าเวลาเท่าไร เหมือนกับแต่ก่อนนะครับ ผู้โดยสารต้องดูจากมอนิเตอร์เอาเอง
แถมด้วยเรื่องรถรับจ้างสาธารณะ หรือแทกซีนั่นแหละ กระผมเองก็รู้สึกงงๆ กับการจัดการเหมือนกันว่าทำไมต้องกรอกเอกสาร บอกสถานที่จุดหมายปลายทาง ซึ่งที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เสียแต่ผู้ให้การบริการตรงนั้นน่ะ จัดให้มันเยอะหน่อยไม่ได้หรือครับ
กรอกเสร็จแล้ว กว่าจะยกกระเป๋าขึ้นรถได้ คนขับก็ยังต้องถามอีก ว่าจะให้ไปส่งที่ไหน ตลกดี
เห็นคิวคอยแทกซีแล้ว ได้ยินว่าวันแรกคอยกันเป็นชั่วโมง ทั้งที่แทกซีก็เยอะไปหมด แต่การบริหารจัดการ ตรงนี้คะแนนติดลบนะครับ
ก็เอาใจช่วยให้การบริการจัดการทั้งระบบ เข้าที่เข้าทางโดยเร็ว ส่วนเรื่องรถไฟที่ยังมีแต่ตอม่ออยู่นั่น ก็พอรอได้
มีเรื่องแถม ที่ไม่เห็นเป็นข่าวที่ไหนอยู่เรื่องหนึ่ง
ยังจำข่าวที่ว่ารถหายในศูนย์การค้าได้ใช่ไหมครับ ที่เวลาคุณขับรถเข้าไป ก็จะมีเจ้าหน้าที่ ยื่นบัตรจอดรถให้ แล้วก็ต้องคืนตอนก่อนจะออก
ที่เป็นเรื่องก็เพราะเอารถเข้าไปจอดแล้ว รับบัตรแล้ว ไปชอพพิงเสร็จแล้ว กลับมารถก็ไม่อยู่เสียแล้ว อยู่แต่บัตรจอดรถ ก็เลยเป็นเรื่องเป็นราว
มีเจ้าของรถ 2 ราย รายที่ห้างดอกบัว ศรีนครินทร์ กับรายที่ห้างซีตัวใหญ่ ลาดพร้าว ส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
หลังจากเรื่องเข้าคณะกรรมการอยู่นาน สรุปทั้ง 2 เรื่องว่า ให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจากห้างทั้ง 2 แห่ง ฟ้องรวมดอกเบี้ยด้วย
ใครที่เคยรถหายลักษณะนี้ ก็เชิญพบ สคบ. ได้ครับ
หนนี้ขอรายงานการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี
น่ายินดีที่บ้านเรา เริ่มการผลิตเพื่อการส่งออกอย่างจริงจัง จากยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมด 7.96 แสนคัน เป็นการผลิตเพื่อการส่งออก 3.53 แสนคัน หรือเท่ากับ 44.43 % ของการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 29.17 %
ในจำนวนนี้เป็นการผลิตรถกระบะเพื่อการส่งออก 2.74 แสนคัน เพิ่มขึ้น 33.53 % และเป็นรถยนต์นั่ง 3.48 แสนคัน เพิ่มขึ้น 5.52 %
ด้านการส่งออกเครื่องยนต์ มีมูลค่า 5,819 ล้านบาท เพิ่ม 5.52 % และชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ ก็มีมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน มูลค่า 5.79 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 14.89 %
ฟากทางจักรยานยนต์ก็มียอดการส่งออกเพิ่มเช่นกัน จำนวน 1.01 ล้านคัน เพิ่ม 13.94 %
คิดรวมมูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ช่วงเดือน มกราคม-สิงหาคม 2549 มีมูลค่าทั้งสิ้น 2.46 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 19.09 %
ส่วนอีกเรื่อง นี่รู้ไว้ใช่ว่านะครับ คงไม่เกี่ยวกับการจัดงานวันเด็กหนที่สองแต่อย่างใด
บ้านเรามีแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีใช้มาแล้ว 9 แผน ซึ่งล่าสุดแผนฉบับที่ 9 กำลังจะสิ้นสุดลงในปี 2549 นี้ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม ก็เลยเตรียมร่างแผนฉบับที่ 10 ที่จะเริ่มตั้งแต่ปี 2550-2554
สรุปยุทธศาสตร์ของแผนฉบับนี้ คร่าวๆ ว่าจะดำเนินการเพื่อให้มีการการพัฒนาคุณภาพคน และสังคมไทยสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้
เรื่องที่ 2 คือ การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและสังคมเป็นรากฐานที่มั่นคงของประเทศ
เรื่องที่ 3 การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้สมดุล และยั่งยืน
เรื่องที่ 4 การพัฒนาบนฐานความหลากหลายทางชีวภาพ และการสร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
และท้ายสุด การเสริมสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการประเทศสู่ความยั่งยืน
ได้อ่านเอกสารเรื่องนี้แล้ว อะไรก็ดูดีไปหมด เพียงแต่ว่ามันยังอยู่บนกระดาษ ก็ได้แต่หวังว่า พอเริ่มเกิดอะไรที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้แล้ว ทุกอย่างมันจะดูดีเหมือนในกระดาษนะครับ
ก็หวังแต่ว่าในช่วงแผน 10 นี่ คงไม่มีใครเอารถถังออกมาขับเล่นอีกนะครับ
บ้านเมืองจะได้เดินหน้าขับเคลื่อนกันจริงจังเสียที
หวังไว้อย่างนั้นนะครับ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52977