บทความ
สถานการณ์รถยนต์ ปี 2547
สถานการณ์ตลาดรถของประเทศไทย ปี 2547 เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยยอดขาย 533,176 คัน คิดเป็นอัตราการเจริญเติบโต 30 % เมื่อเทียบกับปี 2546
แต่สำหรับปี 2547 นี้ ผู้เชี่ยวชาญในวงการรถยนต์ ต่างคาดการณ์กันว่ายอดขายโดยรวมคงจะไม่ขยายตัวสูงเท่ากับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเหตุผลและปัจจัยหลายๆ ด้าน
"ฟอร์มูลา" รวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปี 2547 ของผู้บริหารบริษัทรถยนต์หลายแห่งมาให้ลุ้นกันตั้งแต่ต้นปี
มาซดา
เดวิด กราคูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
"ปี 2546 มาซดา ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยยอดขาย 10,374 คัน มีอัตราการเติบโตกว่า 26 % เมื่อเทียบกับปี 2545 ซึ่งนอกจากความสำเร็จทางด้านยอดขายแล้ว
บริษัทยังบรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานด้านการขยายการรับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนที่มีต่อยี่ห้อของ มาซดา ด้านการพัฒนาเครือข่ายของผู้จำหน่ายและศูนย์บริการ ที่ปัจจุบันมีกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ และการพัฒนาเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์และการบริการ
สำหรับในปี 2547 คาดว่าจะมีการจำหน่ายเกิน 15,500 คัน เนื่องจากปีนี้ มาซดา
จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และรุ่นพิเศษอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี พร้อมกันนี้ยังจะขยายเครือข่ายการจำหน่ายทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด เพื่อรองรับการบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพและมาตรฐานระดับโลก"
เมร์เซเดส-เบนซ์
ฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
"ภาพรวมในปีนี้จะเป็นไปตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่กำลังดีขึ้นคาดว่าในปีนี้ตลาดรถยนต์โดยรวมคงจะมีปริมาณถึง 580,000-590,000 คัน จะไม่ต่ำกว่า 570,000 คันอย่างแน่นอน
สำหรับ เมร์เซเดส-เบนซ์ ในปีที่ผ่านมานับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มียอดขายถึง 5,100 คันเติบโตเพิ่มขึ้น 48.3 % โดยตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น 24 % เมื่อเทียบกับปี 2545 ตลาดแต่ละกลุ่มเติบโตเป็นอย่างดี ยกเว้นตลาดรถหรูที่ลดลงประมาณ 8 % แต่ เมร์เซเดส-เบนซ์ โตขึ้นตลาดรวมของรถหรูมี 12,000 คัน ส่วนในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5,800 คัน โดยตลาดรวมน่าจะอยูที่12,000 คัน
ส่วนสินค้าใหม่ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ ปีนี้จะมี เอสแอลเค ใหม่ และในช่วงไตรมาส 3
จะมีสินค้าใหม่อีกรุ่นหนึ่งที่น่าจับตามอง นอกจากนี้ยังมองว่าแนวโน้มตลาดรถหรูจะสูงขึ้นเนื่องจากแต่ละยี่ห้อนั้นได้มีการเปิดตัวรถใหม่ ไม่ว่าจะเป็น บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5 และ 6 รวมถึง โวลโว ด้วย"
มิตซูบิชิ
เดวิด ดับเบิลยู โฮวาร์ด กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการบริษัท มิตซูบิชิมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
"ถ้าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่สูงไปกว่าปัจจุบัน และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะอยู่ที่ประมาณหรือต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อคิดว่าอัตราการเจริญเติบโตของตลาดจะใกล้เคียงกับปีนี้ และมีโอกาสเป็นไปได้มากที่ยอดขายจะเกินกว่า 600,000 คัน ซึ่งจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ไปถึงจุดนั้น ส่วนของ มิตซูบิชิ ตั้งเป้าไว้ที่42,000 คัน ส่วนใหญ่จะเป็นพิคอัพเหมือนเดิม รถใหม่จะเน้นไปที่ สเปศ แวกอนรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก และ แลนเซอร์ ไมเนอร์เชนจ์ และมีรถนำเข้า รุ่น ดีอมันเตและเอาท์แลนเดอร์"
เปอโฌต์
ภูวนาถ เผ่าจินดา ผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท ยูโรเปียน โอโตโมบิลส์ จำกัด
"ทิศทางการตลาดรถยนต์ปี 2547 แนวทางของบริษัทจะมุ่งเน้นความสำคัญไปที่ลูกค้าโดยตรงเพื่อตอบสนองความต้องการ ความพึงพอใจสูงสุด และเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการใช้บริการให้มากยิ่งขึ้นเป็นแนวทางที่วางไว้เพื่อให้สอดคล้องกันทั้งด้านการวางตลาดรถยนต์ เปอโฌต์ รุ่นใหม่การบริการหลังการขาย และการบริการ อะไหล่ โดยจะสอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดรถยนต์ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปี 2546 ไม่ต่ำกว่า 15 % และการขยายตัวจะเกิดขึ้นในทุกกลุ่มของตลาดรถยนต์ ที่สำคัญ
ตลาดจะมีรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งจะมีความหลากหลายที่เกิดจากความต้องการรถยนต์เพื่อการใช้งานเฉพาะด้าน เฉพาะแบบมากยิ่งขึ้นทำให้มีช่องว่างในการนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงความต้องการเฉพาะของลูกค้าเพิ่มมากขึ้นจากตลาดหลักที่มีอยู่แล้ว
แนวทางการจำหน่ายของ เปอโฌต์ จะมีความหลากหลายมากขึ้นจาก 406 และ 607 โดยในปี 2547 บริษัทจะแนะนำรถรุ่นใหม่ 807 รถกิจกรรมกลางแจ้ง ที่มีจุดเด่น
ที่ระบบอำนวยความสะดวกในการใช้งาน และความปลอดภัย รุ่นพาร์ทเนอร์ รถยนต์นั่งเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก ซึ่งมีแผนที่จะประกอบในประเทศและส่งไปจำหน่ายในภูมิภาคอาเซียน"
ฮอนดา
โยอิจิ อาโอกิ ประธาน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด (FML2004 NEWCIVIC1664,1666)
"ตลาดรถยนต์ในปี 2547 คาดว่าจะมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 580,000 คัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดที่ทำไว้ในปี 2539 ส่วน ฮอนดา นั้นตั้งเป้าจำหน่ายไว้ที่ 78,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 13 % จากยอดจำหน่ายในปีที่แล้ว อันมีผลมาจากการมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดหลากหลายมากยิ่งขึ้น"
โตโยตา
เรียวอิจิ ซาซากิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
"ยอดขายรถในปี 2546 นับว่าเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยมีปริมาณการขายสูงถึง533,176 คัน มีอัตราการเจริญเติบโต 30 % ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขายสูงสุดถึง 354,171 คัน รถยนต์นั่ง 179,005 คัน ส่วนสถานการณ์ปี 2547คาดว่าอัตราการเจริญเติบโตจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยประมาณการว่าจะมีตัวเลขการจำหน่าย 590,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 10 % โดยมีผลจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การแนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และความต้องการเป็นเจ้าของรถของผู้บริโภค
สำหรับ โตโยตา ในปี 2546 ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายอันดับหนึ่งคือ 188,748 คัน เพิ่มขึ้น 45.1% มีส่วนแบ่งทางการตลาด 35.4 % และในปี 2547 โตโยตา ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 220,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 16.6 % มีส่วนแบ่งทางการตลาด 37.3 %"
โวลโว
คาร์ล โยฮัน ซานเดสโย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
"สำหรับในปีนี้สภาพโดยรวมมองดูแล้วจะดี ไม่ว่าจะเป็น การเงิน เศรษฐกิจ ความมั่นใจ
แต่ยังมีความกังวลในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐ ฯ ที่มีผลกับเมืองไทยด้วย
รวมถึงสถานกาณ์การเมืองของไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาคใต้ โรคระบาด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงได้
โดยปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะมีประมาณ 600,000 คัน โวลโว 35 % จะเป็นรถนั่งส่วนบุคคลที่เหลือจะเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ และอื่นๆ ซึ่งในปี 2546 ตลาดรถหรูมียอดขาย 8,300 คัน ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 คัน รวมรถกิจกรรมกลางแจ้งด้วย ทั้งนี้ โวลโว ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,600 คัน จะมีรถรุ่นใหม่คือ โวลโว วี 50"
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : บทความ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51979