บุกแดนอินทรีกับ จีเอม

ในช่วงหลังปีใหม่ของทุกปี จะเป็นเวลาของการจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์" หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า NORTH AMERICAN INTERNATIONAL AUTO SHOW: NAIAS มีขึ้นที่ โคโบ เซนเตอร์ (COBO CENTER) เมืองดีทรอยท์แถบอเมริกาเหนือในช่วงเวลาที่หนาวเย็นสุดๆ อุณหภูมิ ลบราว 15 องศาเซลเซียส ตามถนนเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนโดยเฉพาะบนตัวรถที่จอดอยู่ข้างทาง งานนี้ถือเป็นการแสดงรถยนต์ที่ใหญ่ติดอันดับโลกรายการหนึ่งรถยนต์ในงานนี้ส่วนมากจะมาจากค่ายยักษ์ใหญ่เจ้าบ้านที่นำมาแสดงแสนยานุภาพกันอย่างเต็มที่โดย เฉพาะบิกธรี ที่ประกอบไปด้วย จีเอม (GM)/ ฟอร์ด (FORD) และ ไดมเลร์ ไครสเลอร์ (DAIMLER CHRYSLER) ซึ่งล้วนแต่มีรถบริวารในเครือมากมายหลากหลายยี่ห้อและรูปแบบ ทั้งบรรดารถแนวคิดและรถใหม่ที่ผลิตออกจำหน่ายแล้ว เช่นเดียวกับการที่เราไปชมงานมหกรรมยานยนต์โตเกียว เราก็จะพบกับค่ายรถญี่ปุ่นดังๆ ต่างนำรถมาแสดงกันอย่างเอิกเกริกจนทำให้รถจากทวีปอื่นๆ กลายเป็น "ไม้ประดับ" "ฟอร์มูลา" ได้รับเชิญจาก เชฟโรเลต์ เซลส์ (ประเทศไทย) ฯ ให้ไปชมงานนี้ รวมทั้งอาณาจักรของสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ จีเอม ที่ เรอแนส์ซองศ์ เซนเตอร์ (RENAISSANCE CENTER) และบินข้ามมาที่ ลอส แองเจลิส เพื่อทดลองขับรถยนต์ในเครือ จีเอม คือ แคดิลแลค ถึง 3 รุ่น 3 รูปแบบด้วยกัน ซึ่งเราจะได้รายงานในโอกาสต่อไป ฉบับนี้ขอนำเสนอรถและบูธที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษในงาน "มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์" ให้ผู้อ่านได้ทัศนากัน เท่าที่เราได้ไปสัมผัสงานนี้เป็นเวลา 2 วันเต็ม ในช่วง "เพรสส์ เดย์" (PRESS DAY) ค่าย จีเอม และค่ายฟอร์ด มีพื้นที่และรถยนต์รุ่นต่างๆ มาแสดงมากเป็นพิเศษ เฉพาะ จีเอม เพียงค่ายเดียวมีพื้นที่เกือบ 1ใน 4 ของทั้งหมด เนื่องจากมีรถในเครือมากมายไม่ว่าจะเป็น เชฟโรเลต์ (CHEVROLET)/ ฮัมเมอร์(HUMMER)/บิวอิค (BUICK)/ แคดิลแลค (CADILLAC)/ซูบารุ (SUBARU)/พอนทิแอค(PONTIAC)/ซาบ (SAAB)/ซูซูกิ (SUZUKI)/ เกีย (KIA)/โอลด์สโมบิล (OLDSMOBILE)/ จีเอมซี(GMC)/แซเทิร์น (SATURN) ฯลฯ มีรถต้นแบบเด่นๆ มาแสดงถึง 4 คัน คือ เชฟโรเลต์ นอแมด (CHEVROLET NOMAD)/พอนทิแอค โซลส์ทีศ (PONTIAC SOLSTICE)/แซเทิร์น เคอร์ฟ (SATURN CURVE) และเชฟโรเลต์ คอร์เวทท์ ซี 6 (CHEVROLET CORVETT C6) รถสปอร์ทล้ำสมัยเจเนอเรชันที่ 6 ของอนุกรม คอร์เวทท์ (CORVETT) ใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ 400 แรงม้าซึ่งทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ ดีทรอยท์ โอเพรา เฮาส์ด้วยความยิ่งใหญ่ราวกับการเปิดตัวดาราดังของฮอลลีวูด ก่อนจะย้ายมาโชว์ในงานนี้ ที่บูธของ จีเอม เรายังได้พบกับ เชฟโรเลต์ โคโรลาโด (CHEVROLET COROLADO)ซึ่งจะเปิดตัวในเมืองไทยเร็วๆ นี้ ตัวจริงมีขนาดเล็กกว่าในรูปที่เราเคยพบเห็นมากทีเดียวไม่ใหญ่โตเท่าที่คิด ขนาดตัวกำลังเหมาะกับการใช้งานในเมืองไทย ภายในกว้างขวางสะดวกสบายสไตล์อเมริกัน คาดว่าเมื่อนำมาจำหน่ายในประเทศไทยเครื่องยนต์ที่ใช้คงจะเป็นดีเซลขนาด 2.5-3.0 ลิตร ที่ทันสมัย และมีราคาค่าตัวสูงกว่าคู่แข่งในตลาดอยู่บ้างเพื่อยกระดับให้เป็นพิคอัพสายเลือดคาวบอย "มีระดับ"รวมทั้งระบบเกียร์แบบอัตโนมัติจะมีให้เลือกใช้ด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายสไตล์อเมริกันนอกจากนี้ยังมี "เอสเอสอาร์" (SSR) พิคอัพสปอร์ทย้อนยุคเปิดประทุนได้รวมทั้งบรรดารถแข่งความเร็วรูปแบบต่างๆ ของ เชฟโรเลต์ มาแสดงด้วย สังเกตได้ว่ารถอเมริกันปัจจุบันเปลี่ยนแนวความคิดในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถให้มีขนาดตัวเล็กลงมีความสวยงามมากขึ้น รูปทรงหันมาอยู่ในแนวรถทางยุโรปและญี่ปุ่น ไม่ใหญ่โตเทอะทะ เหลี่ยมๆเชยๆ เช่นในอดีต ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น อาจเป็นเพราะในช่วงหลังโดนค่ายญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นเลกซัส (LEXUS) หรือ อคูรา (ACURA) แบ่งส่วนทางการตลาดไปมากทีเดียวจน "ยักษ์ใหญ่"ต้องปรับตัว ในขณะที่รถจากค่ายยุโรประดับสูงกลับพยายามทำรถให้มีขนาดใหญ่ขึ้นรูปทรงอยู่ในรูปแบบของรถอเมริกันในอดีต เช่น บีเอม ฯซีรีส์ 7 ที่ออกแบบโดย คริส เบงเกิล (CHRIS BANGLE) สายเลือดอเมริกันและในขณะที่รถต้นแบบรุ่นล่าสุดของ พอนทิเอค รุ่น โซลส์ทีศ สปอร์ทโรดสเตอร์ 2 ที่นั่งกลับไปมีรูปร่างที่คล้ายกับ บีเอม ฯ เซด 8 ส่วนค่าย ฟอร์ด นอกจากจะนำรถในเครือมาแสดงมากมาย เช่น มาซดา/แจกวาร์/แอสตัน มาร์ทิน/โวลโว/แลนด์ โรเวอร์ ฯลฯ ฟอร์ด ยังเน้นการนำรูปทรงของรถคลาสิคในอดีตมาปรับปรุงให้โฉบเฉี่ยว ทันสมัยในทุกๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก การออกแบบภายในห้องโดยสาร เครื่องยนต์ ระบบรองรับ ฯลฯคล้ายกับที่แนวคิดของ โฟล์คสวาเกน บีเทิล (VOLKSWAGEN BEETLE) หรือ มีนี (MINI) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปัจจุบัน ฟอร์ด นำ มัสแตง (MUSTANG)/เชลบี คอบรา (SHELBY COBRA)/ธันเดอร์เบิร์ด (THUNDERBIRD)ในอดีตมาปรับปรุงทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งทำได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ แอสตัน มาร์ทิน ยังได้ทำการเปิดตัวรุ่น โวลันเต (VOLANTE) เปิดประทุนเป็นครั้งแรกในโลกอีกด้วย ค่ายไดมเลร์ ไครสเลอร์ ประกอบไปด้วย จีพ/เมร์เซเดส-เบนซ์/ดอด์จ/มิตซูบิชิ ฯลฯ กิจกรรมที่มีสีสันส่วนใหญ่มีอยู่ที่บูธ จีพ มีรถต้นแบบมาแสดงหลายคัน บูธตกแต่งได้สวยงามประกอบไปด้วยสวนและน้ำตกที่สามารถควบคุมน้ำที่ไหลเป็นสายลงมาให้เป็นตัวอักษรหรือรูปร่างต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว ค่าย 4 ห่วง นำ เอาดี เลอ มองส์ (AUDI LE MANS) ที่มีพื้นฐานมาจาก ลัมโบร์กินี กัลญาร์โด (LAMBORGHINI GALLARDO) สปอร์ทในเครือมาพัฒนาให้แรงยิ่งขึ้นมาแสดงอยู่ในคอกกระจกที่แวดล้อมไปด้วย เอาดี ทีที คูเป(AUDI TT COUPE) รุ่นใหม่/เอ 4 /เอ 6/เอ 8 แลดูอบอุ่น ค่ายใบพัดสีฟ้านำ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 6 กาบริโอเลต์ (BMW 6-SERIES CABRIOLET) มาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลก เปิดประทุนโชว์หุ่นอยู่บูธบนแป้นหมุน โดยมี คริส เบงเกิล หัวหน้าทีมออกแบบมาตอบข้อข้องใจด้วยตนเองถึงข้างรถ นอกจากนี้ก็มี เอกซ์ 3/เอกซ์ 5 รถกิจกรรมกลางแจ้ง/ซีรีส์ 5 ใหม่/ซีรีส์ 7/ซีรีส์ 3 คูเป และ เอม 3 มาร่วมงานกันเกือบครบทุกรุ่น ส่วน มีนี รถเล็กในกลุ่มอยู่ในพื้นที่ติดกัน บูธได้รับการตกแต่งได้สวยงาม ทันสมัย มีการนำเสนอที่ดีมาก ส่วนรถที่นำมาแสดงยังคงเป็นรุ่นเดิมๆ และได้นำชุดแต่งของ จอห์น คูเพอร์ เวิร์คส์ (JOHN COOPER WORKS) มายั่วน้ำลายผู้ที่ชื่นชอบความแรง ค่ายม้าลำพอง แฟร์รารี นำ 612 สกาลเญตตี (FERRARI 612 SCAGLIETTI) สปอร์ท แกรนด์ ตูริสโม 4 ที่นั่ง มาเป็นตัวครั้งแรกในโลกในงานนี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระที่ แฟร์รารี เข้ามายังเมืองคาวบอยครบ 50 ปี (ติดตามรายละเอียดได้ใน "ข่าวรอบโลก" ฉบับนี้) พ่วงมาด้วย มาเซราตี(MASERATI) รถยนต์ในเครือนำ กวัตตโรโปร์เต (QUATTROPORTE) สปอร์ทซีดานรุ่นล่าสุดจากค่ายตรีศูลมาแสดง ฮอนดา นำ เอชเอสซี (HSC) รถแนวคิดสปอร์ท 2 ที่นั่ง วางเครื่องกลางลำที่จะมาสืบทอดเจตนารมณ์ของ เอนเอสเอกซ์ (NSX) คาดว่าจะผลิตออกจำหน่ายในปี 2005 นอกจากนี้ยังมีรถยนต์นั่งรุ่นต่าง ๆ มาแสดงด้วย เช่น อินเทกรา (INTEGRA) ใหม่ แอคคอร์ด(ACCORD) ฯลฯ นอกจากนี้ยังเปิดตัว กระบะ เอสยูที (SUT : SPORT UTILITY TRUCK)เข้ามาบุกตลาดเจ้าถิ่น เมร์เซเดส-เบนซ์ นำ เอสแอลอาร์ แมคลาเรน (MERCEDES-BENZ SLR McLAREN)ซูเพอร์คาร์รุ่นล่าสุด มาเป็นรถเด่นประจำบูธ เครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งจนให้กำลัง 626 แรงม้าทุกชิ้นส่วนบนตัวรถทำจากเทคโนโลยีขั้นสูงจนสามารถรีดน้ำหนักเหลือเพียงแค่ 1.6 ตันนอกจากนั้นก็มีรถ เบนซ์ รุ่นต่าง ๆ รวมทั้งรถแนวคิดและรถที่ได้รับการตกแต่งจากสำนัก เอเอมจีและสมาร์ท (SMART) รถเล็ก 2 ที่นั่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุโรป มาร่วมแสดงด้วย นิสสัน ยักษ์รองจากญี่ปุ่น นำรถเก๋งหรู กระบะแบบตันครึ่งรวมทั้งต้นแบบรถพิคอัพและรถกิจกรรมกลางแจ้งมาแสดงหลายรุ่นด้วยกันไฮไลท์อยู่ที่กระบะทรงพลังขนาดใหญ่ "ไททัน" (TITAN) ที่จะมาสู้ศึกกับกระบะเมืองคาวบอย โพร์เช ยังคงใช้ "คาร์เรรา จีที" (CARRERA GT) ซูเพอร์คาร์ของแท้ มาเป็น "แม่เหล็ก" ประจำบูธนอกจากนี้ยังมี 911 รุ่นต่างๆ รวมทั้ง กาเยนน์ (CAYENNE) เอสยูวี ความเร็วสูงที่แจ้งเกิดในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป (รวมทั้งในเมืองไทย) เป็นผลสำเร็จ บรรดารถหรูมาร่วมงานกันหลายยี่ห้อ เช่น เบนท์ลีย์ (BENTLEY)/มายบัค (MAYBACH)/โรลล์ส-รอยศ์ (ROLLS-ROYCE) บูธอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ขนาดพื้นที่เล็ก มีรถมาแสดงแค่ 2-3 คันเท่านั้นเอง ค่าย โตโยตา และเลกซัส ที่มาแรงในตลาดสหรัฐอเมริกา นำรถแนวคิดและรถใหม่ ทั้งรถเก๋ง กิจกรรมกลางแจ้งและพิคอัพ มาแสดงโดยใช้พื้นที่มากที่สุดในบรรดารถญี่ปุ่นทั้งหมด โฟล์คสวาเกน นำ บีเทิล เปิดประทุน สีฟ้าหวานและเฟทัน (PHAETON) รถหรูใช้เครื่องยนต์ 12 สูบภายในหรูสุด ๆ ที่จะมาประกบกับ ซีรีส์ 7 และเอส-คลาสส์ มาเป็นตัวชูโรง รวมทั้งโฟล์คสวาเกน กอล์ฟรุ่นใหม่ด้วย ทั้งหมดนี้คือ "หนังตัวอย่าง" ข้อมูล และบรรยากาศโดยรวมของงาน "มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์"ในปีนี้ที่เราได้ไปสัมผัสมา ต่อจากนั้นจะเขียนถึงการทดลองขับรถรุ่นใหม่ข อง แคดิลแลค ในค่าย จีเอม 3 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น สปอร์ทโรดสเตอร์เปิดประทุน รถเก๋งหรู และรถกิจกรรมกลางแจ้ง ติดตามได้ใน"ฟอร์มูลา" ในโอกาสต่อไป ขอขอบคุณ : ชาติชาย สุวรรณเสวก และ ทีมงาน บริษัท เชฟโรเลต์ เซลส์ประเทศไทย ที่พาเราไปพบกับโลกกว้างของสหรัฐอเมริกาในแง่มุมของธุรกิจยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก