พิเศษ(formula)
เปิดใจ "รูเบนส์ บาร์ริเชลโล"
"รูเบนส์ บาร์ริเชลโล" เกิดในเซาเปาโล ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1972
เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักขับรถแข่ง ฟอร์มูลา วัน ให้แก่ทีม จอร์แดน ในปี 1993 และทีม สจวร์ท ปี 1997และสร้างความประหลาดใจด้วยการเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ในขณะฝนตกที่โมนาโคและเริ่มขับให้แก่ทีม แฟร์รารี ในปี 2000
ปี 2003 คือฝันที่เป็นจริงของ รูเบนส์ บาร์ริเชลโล ในการขึ้นเทียบรัศมีกับ มิคาเอล ชูมาเคร์มือหนึ่งของทีม แฟร์รารี ด้วยการคว้าชัยชนะไปครองที่ ญี่ปุ่น กรองด์ปรีซ์ และทำให้ทีม แฟร์รารีคว้าแชมพ์โลกสูงสุดในประวัติศาสตร์รวม 6 สมัย
ทั้งหมดนี้ คือบทสัมภาษณ์ 13 คำถาม และหลายคำตอบจากใจของเขาที่คุณไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปาก บาร์ริเชลโล
ถาม : บทบาทของการเป็นนักขับรถ ฟอร์มูลา วัน ?
บาร์ริเชลโล : งานของผมคือการเป็นนักแข่งรถ ซึ่งเป็นงานที่โดดเดี่ยว เพราะเมื่อสวมหมวกกันนอคจะไม่มีใครทำงานร่วมอยู่กับผม
มันเป็นความฝันของผม ที่จะเป็นแชมพ์โลก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นตลอดเวลากว่า10 ปีต้องคิดอยู่เสมอว่า ผมอาจชนะหรืออาจแพ้
ถาม : เกี่ยวกับ อายร์ทัน เซนนา ?
บาร์ริเชลโล : สนิทกับ เซนนา แต่ไม่ได้สนิทแบบใกล้ชิด ผมเคารพเขาในฐานะนักแข่งรถและขณะเดียวกันก็เคารพการใช้ชีวิตของเขา เมื่อเขาเสียชีวิตลง ในใจผมค่อนข้างมีความกดดัน
พวกเราเป็นมืออาชีพ เราได้รับการว่าจ้างให้ทำงานนี้ แต่เมื่อขาด เซนนา มันรู้สึกไม่เหมือนเดิมผมขาดทั้งคนที่เคารพ และขาดเพื่อน
ผมรู้สึกยุ่งยากใจมากเกี่ยวกับการตายของ เซนนา และผลของมันคือ ผลงานที่แย่ตลอดปี 1995เซนนา คือทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมฝันจะเป็น
ถาม : เมื่อมีโอกาสร่วมทีมกับ แฟร์รารี ?
บาร์ริเชลโล : เมื่อมีโอกาสขับแข่งให้กับทีม แฟร์รารี คู่กับ มิคาเอลซึ่งเป็นการขับให้กับทีมที่ท้าทายที่สุดในวงการ ฟอร์มูลา วัน และต้องคู่กับนักขับที่เป็นหมายเลข 1
ของโลก ผมจะปฏิเสธได้อย่างไร
ถ้าผมมาที่ แฟร์รารี และพูดว่า ฟังนะผมต้องการเป็นหมายเลข 1 และต้องการนี่ต้องการนั่นเชื่อว่าผมคงต้องมีปัญหาแน่ๆ
ผมต้องไม่ลืมว่าเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ แฟร์รารีสถานที่ทำงานที่มาราเนลโลมีรูปภาพขนาดใหญ่ของ เอนโซ แฟร์รารีซึ่งผมต้องชำเลืองมองทุกครั้งที่มีการประชุม หรือก่อนที่จะเริ่มขับรถ
คนพูดกันมากเกี่ยวกับแรงกดดันใน แฟร์รารี แต่ไม่เชื่อว่าคนอิตาเลียนจะสร้างความกดดันให้กับผมได้เท่ากับบราซิล เมื่อตอนที่ เซนนา เสียชีวิต ตัวผมในขณะนี้แตกต่างไปอายุมากขึ้นและจัดการอะไรได้มากขึ้น
ถาม : เกี่ยวกับ มิคาเอล ชูมาเคร์ ?
บาร์ริเชลโล : ในปี 2000 ผมไม่เทียบตัวเองกับนักแข่งคนใดนอกจาก มิคาเอล ซึ่งผมมักจะพูดเสมอว่าให้รถที่เหมาะกับผม แล้วผมจะทำมันให้ดีที่สุด
มิคาเอล อยู่ที่นี่มา 5 ปี เขาไม่ได้นำมาแค่ความเร็ว แต่มีอะไรมากกว่านั้นสำหรับทีม แฟร์รารี
ผมไม่กลัวที่จะเป็นหมายเลข 2 ต่อจาก มิคาเอล ผมเรียนรู้จากเขาและนั่นทำให้ใกล้ชิดกันทั้งในสนามและความเป็นส่วนตัว มิคาเอล เป็นคนที่วิเศษ เขามีความสุขในการใช้เวลากับครอบครัว เหมือนกับที่ผมทำ
ถาม : เกี่ยวกับคำสั่งจากทีม ?
บาร์ริเชลโล : แน่ใจว่า ถ้าผมทำเวลาดีในการแข่งขัน และทำให้ทีมมีโอกาสชนะ
ผมไม่เคยเห็นเขาสั่งให้ผมเปลี่ยนตำแหน่ง
ถ้าผมอยู่หน้า ด้วยโอกาสอะไรก็ตาม มิคาเอล อยู่ข้างหลัง ถ้าเขาเร็วกว่าและมีโอกาสชนะในการแข่งขัน ผมไม่ต้องการคำสั่งอะไรทั้งนั้นที่จะให้เขาขึ้นหน้าไป
ญี่ปุ่นในปี 2001 มันเป็นความรู้สึกที่แย่ ที่ให้คนอื่นขึ้นหน้าไป คุณทำงานให้กับทีม
และคุณต้องทำตามในสิ่งที่คุณไม่ชอบ บางครั้งมันก็ดี แต่บางทีก็ไม่
ออสเตรีย ปี 2001 ครั้งแรกรู้สึกโกรธ ต่อมาดีขึ้น ที่ผมไม่ได้รู้สึกดีกับมันเพราะมันเป็นเวลาที่ผมกำลังขับรถ และอยู่ในขณะของจิตใจที่ขาดความยั้งคิด
ถาม : 2-3 วันก่อนการแข่งขัน ออสเตรีย 2002 เมื่อถูกทาบทามให้ดัน มิคาเอล ชนะ ออสเตรียกรองด์ปรีซ์ ?
บาร์ริเชลโล : ผมไม่ชอบคาดเดาอนาคตให้ไกลมากนักเราจะรอจนกว่าวันอาทิตย์และรอดูผลที่เกิดขึ้นเมื่อจบวันนั้น จะรู้สึกมีความสุขมากถ้าผมชนะ แต่ถ้าไม่ต้องพยามมากขึ้นและดูผลที่ตามมา
ไม่แน่ใจว่า มิคาเอล หวังให้ผมปล่อยเขาผ่านขึ้นไปหรือไม่ ผมรู้จักเขาไม่ต่ำกว่า 3 ปี และผมรู้สึกว่าเขาคงไม่ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น
มีคนเคยถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ผมไม่ได้พูดอะไร และคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจของทืมผมได้เซ็นสัญญากับทีม แฟร์รารี เป็นเวลา 2 ปี และคิดว่าผมควรจะเคารพมัน
ถ้าสามารถเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างได้ ผมอยากชนะที่ ออสเตรีย โดยความรู้สึกแล้ว ผมคือผู้ชนะออสเตรีย และ มิคาเอล คือผู้ชนะ อินเดียนา โพลิส
ออสเตรีย คือการแข่งขันที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในการขับของผม
ถาม : เมื่อจบการแข่งขัน ยูเอส จีพี ?
บาร์ริเชลโล : มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างสนุก แฟร์รารี ค่อนข้างเหนือกว่า พวกเขาสามารถคุมเกมได้
ถาม : ที่ประเทศบราซิล และ บราซิล กรองด์ปรีซ์ ?
บาร์ริเชลโล : ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน แต่ความกดดันที่นี่มีมาก สำหรับการแข่งขัน
นี่คือการแข่งที่ดีและเลวของปี ที่บอกว่าดี เพราะได้แข่งต่อหน้าคนของประเทศผม
และที่เลวก็คือมีเรื่องที่นึกไม่ถึง และมีความกดดันที่ต้องทำร่วมอยู่ด้วย
บางครั้งเมื่อผมโบกมือให้ใครบางคนที่ อัฒจันทร์ มันไม่ใช่เพราะเขาเป็นแฟน แต่เพราะเขาเป็นเพื่อนบางทีผมจำเขาได้จากที่โรงเรียน หรือที่ไหนสักแห่ง ผมค่อนข้างสนิทกับผู้คนที่นี่
ถาม : ทำไมร้องไห้ ?
บาร์ริเชลโล : ร้องไห้คือธรรมชาติของการปลดปล่อย ผมร้องไห้มากเมื่อผมช้าลงที่ ฮกเคนไฮม์และที่นั่นผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้อีกบนโพเดียม แต่เมื่อไปยืนอยู่ตรงจุดนั้นก็ไม่สามารถทำได้ ผมร้องไห้เมื่อมีความสุข และเมื่อมีความทุกข์
ถาม : เกี่ยวกับครอบครัว ?
บาร์ริเชลโล : "พ่อ" คือ รูเบนส์ บาร์ริเชลโลตัวจริงผมเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่ต้องการจะเป็นนักขับรถแข่ง ผมกับพ่อบางทีก็ทะเลาะกันเรามีมุมมองที่แตกต่าง แต่ที่เราทะเลาะกันก็เพราะเรารักกันมาก
ถาม : กับทีม จอร์แดน ?
บาร์ริเชลโล : ในปี 1996 ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับทีมค่อนข้างดีแต่คำถามคือเรามีประสิทธิภาพที่ควรจะมีหรือไม่ บางครั้งทีมขาดความร่วมมือผมคิดว่าพวกเขาคล้ายกับเด็กที่พยายามจะเป็นผู้ใหญ่ และหลังจากความสัมพันธ์เริ่มไม่ดีตอนปลายปี
1996 ผมเริ่มรู้สึกโดดเดี่ยว และมีแต่สิ่งที่แย่ แต่ จอร์แดน ก็ให้อะไรกับผมมาก โดยเฉพาะนำมาสู่ฟอร์มูลา วัน
ถาม : ความเป็นอยู่ที่ แคมบริดจ์ ?
บาร์ริเชลโล : เป็นสถานที่ของ นักเรียน คนต่างชาติ นักขับรถแข่ง มารวมกัน สาเหตุที่ผมมา แคมบริดจ์ก็เพราะผู้หญิง เมื่อผมแข่งขัน ฟอร์มูลา 3 ที่ประเทศอังกฤษในปี 1991 ผมอาศัยอยู่หลายที่แต่ชอบที่จะมา แคมบริดจ์ ในคืนวันจันทร์ เพราะมีงานเลี้ยงสำหรับนักเรียน และมีคนบราซิเลียนเยอะ
ถาม : เป็นคนแปลก ?
บาร์ริเชลโล : ไม่มีอะไรแปลกอย่างที่คุณคิด เป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาในชีวิตแต่ผมชอบถ้าสามารถทำอะไรก็ได้มากกว่าที่ตัวเองคาดคิดไว้
เรื่องโดย : พีรพล วัยโรจนวงศ์
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2547
คอลัมน์ Online : พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51948