ชีวิตคือความรื่นรมย์
เดินตามรอยพี่
แล้วใบไม้ในเมืองก็ปลิดจากขั้วไปทีละใบสองใบ ข้าพเจ้าจำได้ว่าในช่วงท้ายปีที่คนกำลังรอรับปีใหม่ต่อต้นปีใหม่ที่คนทั้งหลายอยู่ในอารมณ์สุขสดใสรื่นเริงข้าพเจ้าต้องรับรู้การจากไปของมิตรรุ่นพี่และเพื่อนสนิทบางคน เท่าที่พอจะฟื้นขึ้นมาอาวรณ์ถึงได้
ที่จากไปในเดือนธันวาคมท้ายปี เช่น "พี่ศัก"-ศักดเกษม หุตาคม ประพันธกรสำนวนอาบน้ำผึ้งผู้ช่างสนทนาปราศรัยและเปี่ยมน้ำใจเอื้ออาทรต่อทุกผู้ สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์เพื่อนกวีคนดีที่ด่วนจากไปก่อนวัยอันควรเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ในอ้อมกอดของกวีซีไรท์และศิลปินแห่งชาติ-เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ "พี่รัตน์"-รัตนะ ยาวะประภาษ กวีร้อยแก้วที่หาคนแทนยังไม่พบ โกวิท สีตลายัน-เพื่อนรุ่นน้องผู้ที่มหาวิทยาลัยปฏิเสธปริญญาในห้องเรียน แต่เขาไปได้ปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากชีวิตที่ใครๆ อิจฉา
แล้วก็
สดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา (พี่) วิลาศ มณีวัต ผู้ทั้งชีวิต จิตใจและใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มอันแจ่มใสร่าเริงเป็อาจิณ เพราะเห็นว่า "โลกสวยด้วยรอยยิ้ม" และ "หัวเราะทุกเวลา ปรมา ลาภา-หัวเราะทุกเวลาเป็นลาภอย่างยิ่ง"
"ประวัติวีรบุรุษไซร้ เตือนใจ เรานา/ว่าอาจจะยังชนม์ เลิศได้/แลยามจะบรรลัย ทิ้งซึ่ง/รอยบาทเหยียบแน่นไว้แทบพื้นทรายสมัย" บทพระราชนิพนธ์แปลของล้นเกล้า ฯ สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า บทนี้มีแรงดลใจอย่างมากที่ทำให้ข้าพเจ้า เมื่อย่างเข้าสู่อาณาจักร "จามจุรี"และตำหนัก "เทวาลัย"ในปี 2499เกิดความบันดาลใจที่อยากตามรอยเท้ารุ่นพี่ ที่เดินทางไปก่อนไม่ห่างไกลมากนักอย่างเช่น (อาจารย์) "อุชเชนี"
กุลทรัพย์ รุ่งฤดี/ถาวร ชนะภัย/วิลาศ มณีวัต/นิตยา นาฏยะสุนทร/ รัตนะ ยาวะประภาษ/'ภา พรสรรค์ และอาจินต์ปัญจพรรค์ ฯลฯ
...แม้ว่าที่ตามรอยได้เพียงตำแน่งสาราณียกรสโมสรนิสิตจุฬา ฯ ที่พี่รัตนะ ยาวะประภาษ ทำให้ดูเป็นตัวอย่างไว้นอกนั้นทำตามที่พี่ๆ ทั้งหลายไม่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเขียนหนังสือให้ได้ผลงานที่มีคนยกย่องอย่างพี่ๆ(แม้ที่กล่าวนามมาเพียงส่วนน้อยเท่านี้)
จากที่เคยได้อ่านพบ คุณวิลาศ มณีวัต เกิดที่บ้านดอน เมื่อจบชั้นประถมที่โรงเรียนประชาบาลที่พุมเรียงอำเภอไชยา (บ้านเดียวกับสุทธิ ภิบาลแทน-เพื่อนรักของผู้เขียนเมื่อตอนเรียนที่โรงเรียนฝึดหัดครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา )แล้วเข้าเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนประจำจังหวัด เรียนได้แค่ ม. 4 ก็ดิ้นรนเข้ามาแสวงโชคในเมืองหลวง มาต่อชั้น ม. 5ที่โรงเรียนชั้นเยี่ยม -สวนกุหลาบวิทยาลัย-จนจบชั้นสูงสุด แล้วเข้าศึกษาต่อที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่บ่มเพาะให้กำเนิดนามปากกาต่างๆและพบกับเพื่อนนิสิตในคณะและรสนิยมตรงกัน จนกลายมาเป็นคู่ชีวิตที่พระเจ้าสร้างมา คือผู้ที่ใช้นามปากกานิตยา นาฏยะสุนทร (หรือคุณหญิงสุรีพันธ์ มณีวัตในปัจจุบัน) เรียนจบจากคณะนี้แล้วก็ไปทำหนังสือพิมพ์เป็นนักประชาสัมพันธ์ ไปทำงานที่สถานีวิทยุชั้นยอดของโลก-วิทยุ บีบีซี ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษที่ซึ่งได้ให้ประสบการณ์มหาศาลสำหรับสารคดีที่มากมายจนจาระไนชื่อไม่ถ้วน
เมื่ออาจารย์สุกิจ นิมมานเหมินท์ ปราชญ์ผู้เจนจบคนหนึ่งของไทย ได้เป็นศูนย์กลางคณะบุคคลตั้งโครการ"มหาวิทยาลัยทางอากาศ" เพื่อเผยแพร่ความรู้ต่างๆ เป็นวิทยาการให้เปล่าแก่ประชาชนไม่เลือกชั้นวรรณะข้าพเจ้าโชคดีที่ผู้บังคับบัญชาในบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด(ที่เป็นผู้อุปถัมภ์รายการมหาวิทยาลัยทางอากาศ)
ให้โอกาสเข้าร่วมฟังการประชุมในบางครั้งในฐานะเป็นผู้ช่วยดูแลการผลิตเอกสารประกอบการเรียนการสอนนอกเหนือจากได้พบได้รู้จักคณาจารย์ต่างๆ แล้ว ข้าพเจ้าได้รู้จักกับคุณวิลาศ และคุณประหยัด ศ. นาคะนาทที่เคยได้ชื่นชมผลงานมาก่อนแล้ว โดยที่ท่านทั้งสองให้ความสนิทสนมเอ็นดูเป็นพิเศษในฐานะนักเขียนรุ่นน้อง
(ซึ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี เมื่อวันข้าพเจ้าได้รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้า ฯ
ให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาในชุดแต่งตั้งชุดสุดท้าย 22 มีนาคม 2538-มีนาคม 2543) คุณประหยัด และคุณวิลาศเป็นพี่ชายอีกสองคนในวงการเขียนที่ได้โทรศัพท์แสดงความยินดีในวันแรกหลังจากโทรทัศน์ประกาศพระบรมราชโองการแล้วไม่นาน
สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจใน คุณวิลาศ คือความเป็นคนอารมณ์ดีและไม่เคยถือตัว ไม่ว่ารุ่นน้องนั้นเป็นใครเมื่อผู้เขียนกับเพื่อนจัดชุมนุมน้ำชาวันอาทิตย์ครั้งหนึ่ง คุณวิลาศ รับเป็นปาฐกให้ โดยคุณประหยัดรับเป็นเจ้าภาพที่บ้านเดิมคุณประหยัด ณอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี (ซึ่งผู้เขียนเคยเล่าไว้ในคอลัมน์นี้เมื่อหลายปีก่อน) หรือเมื่อผู้เขียนเป็นนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยช่วง ปี 2538-2541 คุณวิลาศก็รับเป็นวิทยากรด้วยความเต็มใจยิ่ง
เคล็ดการเขียนสารคดีที่คุณวิลาศ กรุณาเผยให้ผู้เขียนฟังมีหลายข้อ แต่ที่ผู้เขียนจำได้ดีคือ การเขียนสารคดีนั้นนอกจากจะต้องให้ข้อมูลถูกต้องและให้ความรู้ผู้อ่านแล้ว อย่าลืมว่าต้องให้ผู้อ่าน อ่านด้วยความสนุกมีความสุขในการอ่าน อย่าสั่งสอนคนอ่านเพราะคนอ่านจำนวนมากรู้มากกว่าที่เราคาดคิด อย่าให้คนอ่านเครียดแม้ว่าเรื่องที่เขียนนั้นเป็นเรื่อง "ซีเรียส" ก็ตาม
อีกประการหนึ่งที่เป็นเคล็ดที่ฝรั่งนักเขียนสารคดี (โดยเฉพาะการเขียนเชิงข่าวสังคม)
ทำให้ผู้อ่านเชื่อและเป็นกันเองคือให้เอ่ยนามคนสำคัญและคนที่เรารู้จักบ่อยๆ แต่ต้องวางจังหวะให้เหมาะให้ควรแต่...คุณวิลาศ เน้น...0อย่าทำให้ผู้ที่เราเอ่ยถึงเสียหายหรือถูกเข้าใจผิดเป็นอันขาด เรื่องอะไรที่จะเป็นสิ่งดีเป็นเกียรติยศต่อเขา อย่าลืมสอดแทรกเข้าไปให้ได้จะทำให้เรื่องที่เขียนมีเสน่ห์ เพราะผู้อ่านรู้สึกว่าใกล้ตัว
อีกเรื่องหนึ่งที่ คุณวิลาศ สอนผู้เขียนไว้เมื่อส่งหนังสือไปให้ ก่อนอ่านหนังสือทุกเล่มควรอ่านคำนำเพราะนักเขียนบางคน เขียนคำนำได้น่าอ่านและมีสาระ ให้ความคิดคมคาย (คุณวิลาศ ยกตัวอย่าง ยอร์จ เบอร์นาดชอว์ ว่าเป็นคนที่เขียนคำนำได้เยี่ยม) พี่ชายคนนี้ย้ำว่า "หนังสือบางเล่ม เราอ่านคำนำก็คุ้มราคาแล้วส่วนเนื้อหาข้างในนั้นถือว่าเป็นกำไร"
คุณวิลาศ เขียนหนังสือได้หลายแนว แต่ที่ถนัดที่สุดคือสารคดีและเบ็ดเตล็ดที่เราเรียกว่า "คอลัมน์ประจำ"และที่ไม่ลืมคนอ่านคือจะรวมเล่มทุกครั้ง การเขียนหลายแนวจึงมีนามปากกาหลายนาม ซึ่ง ปรง เจ้าพระยามิตรสนิทของผู้เขียนได้เขียนเป็นกลอนไว้อาลัยในกลอนที่ชื่อว่า "แด่ สำนาน จันทมนตรี"(สำนานเป็นชื่อตัวละครสำคัญในเรื่อง "ความรักไม่มีพรมแดน" ซึ่งผู้เขียนประทับใจมากในวัยเริ่มหนุ่ม)
ลาก่อนสำนาน จันทมนตรีก่อนแดดดับลับหล้าทิวานี้/รุ้งรังสีโบกหัตถ์ลานภาผ่อง/ยังยอแสงแดงเสกเมฆสีทอง/ก่อนเทพคล้องม่านคล้ำย่ำราตรี/เสียงจิ้งหรีดกรีดก้องร้องสะอื้น/แมงกลางคืนฝืนครวญคร่ำร่ำเรื่อยรี่/โสมไม่ส่องหมองน้ำค้างพร่างพจี/ลมพาทีถ้อยรันทดสลดใจ/ก่อน สายลม-แสงแดดแวดวงวาด/หนุ่มสุราษฎร์ฯจากพุมเรียงสำเนียงใส/เป็น สารา ฯสจม.ก็เกรียงไกร/โอฬารไล้รอยลิขิตขจิตบรรณ/หมวกเบอร์เจ็ดเขบ็จขบวนสำนวนขำ/วิวัตร่ำท่วงทำนองห้องหฤหรรษ์/วิไล วัชรวัตเพชรพวงวรรณ/เฉิดฉางกายฉายฉันหรรษาวลี/มาณพนำธรรมะผสานอักษร/นภาพรพร้องปรัชญาอ่าศักดิ์ศรี/ถ่ายไพรัชภาษาสุชาวดี/รุ่งกานต์กวีวรรณศิลป์ระบิลละไม/เป็นโฉมหน้านักประพันธ์อันไพจิตร/เป็น"ชาวกรุง" ปรุงชีวิต-จิตสดใส/เป็นหนองหวายพรายแพรวแพร้วพิไล/เป็นรักไม่มีพรมแดนอันแสนงาม/เป็นรถรางสายรอบโลกโบกรอยยิ้ม/ให้น้ำปริ่มริมแก้มแอร่มอร่าม/เป็นการเมืองเรื่องสนุกทุกเขตคาม/วับวาววาม
คนขายฝันเพริศบรรณภพ/หัวเราะทุกเวลา ปรมาลาภา/มธุรสวาจาขันเจนจบ/จนเหลือแต่น้ำกับฟ้าคราคล้อยพลบ/ยังไม่ครบทุกโฉมหน้านักประพันธ์/คือ วิลาศ มณีวัต
สันทัดโลก/นิ้วทองโบกสารคดีที่สร้างสรรค์/นับแต่นี้ขาดคิดถึงคำนึงวัน/นิราศขวัญ นิตยานาฏยะสุนทร/ลาเสียงสรวลสหัสสรรพ์บรรเจิดหล้า/ลาแว่นตาแต้มยิ้มพริ้มนุสรณ์/ลาเพื่อนขวัญบรรณพินิจปิดบัญชร/ขอลาก่อน สำนาน จันทมนตรี/(แด่ วิลาศ มณีวัต 16 พค. 2467-22 ธค. 2546)/ปรง เจ้าพระยา @
เรื่องโดย : ประยอม ซองทอง
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2547
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51941