โค้งอันตราย
ใครว่าจน ?
ผ่านตากันไปบ้างแล้วนะครับ สำหรับยอดการขายรถยนต์รอบเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา อย่าให้ใครมาปรามาสได้นะว่าคนไทยเป็นคนไม่มีสตางค์ แค่เดือนเดียวยอดการขายรถยนต์เจริญเติบโต 54.5 % ขายได้ทั้งตลาด 37,500 คัน ในขณะที่ยอดรวมแค่ 10 เดือน พุ่งพรวดขึ้นไปเกินสามแสนเรียบร้อย
325,889 คัน คือตัวเลขล่าสุด ครบสิบสองเดือนก็คงวิ่งขึ้นไปเกินสามแสนหกแน่นอน
ถ้าใครว่าคนไทยจน ช่วยเถียงแทนทีก็แล้วกัน
นักวิเคราะห์ด้านการตลาดก็ให้เป็นงง ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เจริญเติบโตมโหฬารจนกระทั่งคนไทยมีสตางค์กันเพิ่มขึ้นหรือไร ถึงได้ถอยรถป้ายแดงกันเป็นว่าเล่น
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ การที่สถาบันการเงินออกมาให้สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นว่าเล่นรวมทั้งแคมเปญมากมายมหาศาลของแต่ละค่าย โดยเฉพาะค่ายยักษ์ใหญ่นั่นแหละ แถมยอดจองกระบะ ดี-แมกซ์ที่เพิ่งเริ่มส่งรถได้ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขการขายเพิ่มขึ้น
ยิ่งค่าย ฟอร์ด ปลุกระดมผู้แทนจำหน่ายให้รับรถกันมากขึ้น...แบบว่าเอาไปกองไว้ที่โชว์รูมน่ะ...ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนรถออกใหม่แบบฟูลล์ไทม์ของคนแถวศรีอยุธยา ที่ว่ากินน้ำมันน่ะ ส่งมอบได้เยอะขึ้น แต่ก็ยังแก้ปัญหาเรื่องเสียงไม่ตก ซื้อไปใช้ก็ทำใจเอาแล้วกัน ว่าเขาแถมมาอย่างนี้
ค่ายที่ตกอันดับสวนกระแส ขายได้น้อยกว่าปีที่แล้ว อยู่แถวทุ่งรังสิตนั่นแหละ เจอชาวบ้านออกรถรุ่นใหม่เข้า ค่ายนี้มีแต่ของเดิมๆ เลยทำได้แค่ประคองตัวแค่นั้นเอง
แต่เห็นคุยว่าโบนัสดีกว่าเพื่อน เพราะมีตัวเลขส่งออกยอดเยี่ยม ก็ไม่ว่ากัน
คนแถวซอยสุทธิพรนี่ เวลาเขาจ่ายโบนัส เขาจ่ายกันเป็นตั๋วเครื่องบินนะครับ...ขอเกหน่อยเถอะ
ว่าเรื่องอื่นดีกว่านะครับ พูดถึงตัวเองบ่อยๆ เดี๋ยวมีคนหมั่นไส้เยอะ
เห็นข่าวพาดหัวเมื่อเดือนก่อน ก็อยากขออนุญาตปลงสังเวชเอาไว้ตรงนี้ ขอตั้งเป็นคำขวัญเอาไว้เลยว่า
ศพแล้ว ศพเล่า ที่ขี่มอเตอร์ไซค์บนทางด่วน
เมื่อไรผู้ที่เกี่ยวข้องจะออกมาตรการเด็ดขาด ห้ามพนักงานจราจรที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขับขี่มอเตอร์ไซค์บนทางด่วนเสียที
ภาครัฐเสียเงินเสียทองสร้างเจ้าพนักงานขึ้นมาทำหน้าที่พนักงานจราจรคนหนึ่งๆ หลายสตางค์ แล้วก็ปล่อยให้กระทำผิดข้อบังคับ ที่ตั้งขึ้นไว้บังคับประชาชน ราษฎรตาดำๆ ว่าอย่าเอามอเตอร์ไซค์ขึ้นมาบนทางด่วนเชียวนะ เขาทำเอาไว้สำหรับรถยนต์เท่านั้น
แต่ตัวเจ้าพนักงานก็ทำเสียเอง เอามอเตอร์ไซค์ขึ้นมาขับขี่บนทางด่วนเสียเอง ขับไปตามการจราจรยังพอว่า แต่ดันขับสวนทางการจราจรเสียอีก
ช่วยเอาหัวแม่เท้าตรองดูหน่อย ว่าเป็นความผิดของใคร
สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหรือเปล่า ใครจะตอบได้ ใครจะสั่งการได้ ตั้งคำถามเอาไว้ตรงนี้แหละ ใครไม่มีหน้าที่ก็แล้วไป ใครที่มีหน้าที่ไม่อยากทำก็ตามสบาย อยู่แบบไทย ไทย นี่แหละ ข้อบังคับ ระเบียบ ก็มีเอาไว้ติดข้างฝาต่อไป
ขอไปเรื่องอื่นอีกหนนะครับ เขียนไปก็ปลงไป
มาลองมองดูตัวเองบ้างดีกว่า ว่าเสียงส่วนรวมมองภาครัฐอย่างไรบ้าง สำนักงานสถิติ เสนอผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่มีต่อการบริหารงานของรัฐ ปีนี้มาดูรายสรุปกันว่าคนไทยคิดเห็นอย่างไรกัน
ประชากรชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป ประมาณร้อยละ 63.2 เห็นว่ารัฐบาลสามารถบริหารงานได้ดีเป็นที่น่าพอใจ ผู้ที่เห็นว่ารัฐบาลยังบริหารงานได้ไม่ดี/ไม่เป็นที่พอใจ มีร้อยละ 17.9 มีผู้ที่ตอบว่ายังไม่แน่ใจร้อยละ 10.1และอีกร้อยละ 8.8 ไม่แสดงความคิดเห็น
ไปเรื่องอื่นต่อ การบริหารงานของรัฐบาลในด้านต่างๆ พบว่า ประชาชนพอใจในการบริหารงานด้านสาธารณสุขมากที่สุดถึงร้อยละ 78.0 รองลงมาคือ ด้านการศึกษาร้อยละ 70.5 ด้านการประชาสัมพันธ์ และการให้ข่าวสารแก่ประชาชน ร้อยละ 61.7 ด้านการบริหารเศรษฐกิจ ร้อยละ 58.5 ด้านสังคม ร้อยละ 51.5 ด้านการเงินและการคลัง ร้อยละ 50.7 สำหรับการบริหารงานของรัฐบาลในด้านอื่นๆ นั้นมีประชาชนพอใจน้อยกว่าร้อยละ 50
พอเรื่องบริหารเสร็จ ก็เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ประชาชนมีความพอใจมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ นโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาท รักษาทุกโรค)...เอ๊ะ เอาใจกันมากไปหรือเปล่าเนี่ย ...นโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง นโยบายการจัดระเบียบสังคม นโยบายการปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพย์ติด และนโยบายหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 73.4 เห็นว่าคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันสามารถบริหารประเทศได้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับผู้ที่เห็นว่ายังบริหารประเทศได้ไม่เหมาะสมมีร้อยละ 7.4 และมีผู้ไม่แสดงความคิดเห็นร้อยละ 19.2
เกี่ยวกับสภาพทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนประมาณร้อยละ 42.5 เห็นว่าสภาพทางเศรษฐกิจในปัจจุบันดีขึ้น ผู้ที่เห็นว่าสภาพทางเศรษฐกิจยังคงเดิมมีร้อยละ 38.3 สำหรับผู้ที่เห็นว่าสภาพทางเศรษฐกิจแย่ลงมีร้อยละ 14.3 และอีกร้อยละ 4.9 ไม่แสดงความคิดเห็น
ผู้ที่ตอบว่าสภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้นให้เหตุผลว่า มีเงินทุนจากรัฐบาลมาช่วยในการประกอบอาชีพประชาชน มีหลักประกันสุขภาพ (30 บาท รักษาทุกโรค) ...เอ๊ะ เชียร์กันอีกแล้ว ...นโยบายของรัฐบาลช่วยบรรเทาหนี้ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศดีกว่าเดิม เป็นต้น
ส่วนเหตุผลของผู้ที่ตอบว่าสภาพทางเศรษฐกิจแย่ลง คือ สินค้ามีราคาสูง ค่าครองชีพสูง ไม่มีงานทำการจ้างงานลดลง ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาของบุตรสูงขึ้น ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก เป็นต้น
ประมาณร้อยละ 92.6 ต้องการให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งได้แก่ปัญหาความยากจนของประชาชน ปัญหาการว่างงาน ปัญหายาเสพย์ติด ปัญหาราคาสินค้า ปัญหาตลาดรองรับผลผลิตทางการเกษตร ปัญหาระเบียบสังคม เป็นต้น
เมื่อสอบถามถึงข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ พบว่า มีผู้ที่ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพียงร้อยละ 26.7 ของผู้ตอบสัมภาษณ์ทั้งหมด ซึ่งได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ คือ ควรแก้ไขปัญหาการว่างงานอย่างจริงจังเร่งปราบปรามยาเสพย์ติด ควรควบคุมราคาสินค้า ดำเนินนโยบายต่างๆ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เป็นต้น
ความเห็นของคุณ เหมือนๆ กับที่ว่ามานี่บ้างไหมครับ แต่ที่น่าชมมากที่สุด คือ ลอยกระทงปีนี้ เสียงปะทัดลดลงไปเยอะ สุขภาพจิตไม่เครียด ยกธงเชียร์ให้เลยครับ ผู้รับผิดชอบทุกท่าน ขอชมกันซึ่งๆหน้าตรงนี้แหละ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51450