บทความ
บุหรี่
31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
ผ่านวันนี้มานานเป็นเดือนแล้ว ถามว่ามันมิสายเกินไปหรือที่จะพูดถึง คงต้องตอบว่ายังไงๆ ก็ยังไม่สายเกินไปเพราะวันที่ 31 พฤษภาคมมิใช่มีเฉพาะในปีนี้เพียงครั้งเดียวแล้วจะไม่มีอีก ยังจะมีวันที่ 31 พฤษภาคมอีกทุกปีและก็มีอีกตลอดไปนานจนกว่าจะคิดเลิกนับเดือนนับปีกัน
และการที่กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคมเป็นวันงดสูบบุหรี่โลกก็มิได้หมายความว่าต้องการที่จะให้งดให้เลิกสูบบุหรี่ในวันนี้เพียงวันเดียวแต่มีจุดประสงค์ต้องการให้ประชาชนคนทั้งโลกเลิกสูบบุหรี่กันเสียที เลิกสูบตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคมหรือจะขอผัดผ่อนจะเลิกในวันไหนก็ได้แล้วแต่จะตกลงปลงในเอาเอง
การรณรงค์เพื่อให้คนเลิกสูบบุหรี่ต้องถือว่าเป็นกิจกรรมระดับโลก ไม่งั้นไม่มีการกำหนดให้วันที่ 31พฤษภาคมเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก
ในประเทศไทยเราก็เห็นดีเห็นชอบ ทำการรณรงค์ให้ผู้คนเลิกสูบบุหรี่กันอย่างต่อเนื่องนานมาแล้วและดูเหมือนว่าทำท่าว่าจะเอาจริงเอาจังมากกว่าประเทศอื่นๆ เสียด้วย
ห้ามโฆษณาสินค้าบุหรี่อย่างเด็ดขาดในทุกรูปแบบ กำหนดจุดพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่ต่างๆ อย่างเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นพื้นที่โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ราชการ โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารบนเครื่องบินโดยสารทั้งในและนอกประเทศ ในที่สาธารณะบางแห่งบางที่และกำลังจะประกาศพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่เพิ่มเติมขึ้นอีกหลายต่อหลายพื้นที่แม้แต่ในวัดในวา
เรียกว่าพยายามที่จะบีบพื้นที่ที่สามารถจะสูบบุหรี่ให้เหลือน้อยที่สุดไม่แน่เหมือนกันว่าจะขยายพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่จนถึงระดับห้ามสูบบุหรี่ในบ้านของใครต่อใครด้วยหรือไม่ในอนาคต
ไม่เพียงแต่ห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่ต่างๆ ดังได้กล่าวมาแล้วยังมีการรณรงค์ให้เห็นถึงพิษถึงภัยของการสูบบุหรี่อย่างเอาเป็นเอาตายมาโดยตลอด
สูบบุหรี่เป็นภัยต่อคนรอบข้าง สูบบุหรี่เป็นภัยต่อบุตรในครรภ์ สูบบุหรี่ทำให้สมรรถนะทางเพศเสื่อมสูบบุหรี่ทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง สูบบุหรี่ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบตัน สูบบุหรี่ทำให้สมองเสื่อม และอีกสารพัดโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งชี้ชัดลงไปด้วยว่าการสูบบุหรี่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
แต่ละโรคที่มีบุหรี่เป็นต้นเหตุ ล้วนแล้วแต่เป็นโรคร้ายแรงสาหัสสากรรจ์ถึงตาย ยากแก่การรักษาพยาบาลให้หายถ้ารักษาให้หายก็ต้องเสียเงินเสียทองเป็นค่ารักษามากมายก่ายกองถึงขั้นที่ทำให้สถานะทางเศรษฐกิจของคนที่เจ็บป่วยเพราะโรคเหล่านี้ถึงขั้นผันแปรจากหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยก็ว่าได้ ถือว่าเป็นการบ่อนทำลายเศรษฐกิจส่วนบุคคล และของประเทศชาติในภาพรวมเป็นที่สุด
ในเบื้องต้นถึงกับมีการบังคับให้มีการจัดพิมพ์ข้อความที่สามารถจะมองเห็นได้ชัดเจนและให้ความรู้สึกที่น่ากลัวเป็นยิ่งนักบนซองบุหรี่ที่ผลิตออกมาขายในท้องตลาดไม่ยกเว้นแม้แต่บุหรี่ที่ผลิตในประเทศหรือนำเข้าจากต่างประเทศด้วยข้อความที่เตือนให้รับรู้ถึงสารพัดโรคภัยดังที่กล่าวมาแล้ว
การพิมพ์ข้อความเตือนเอาไว้บนซองบุหรี่ ทำท่าว่าจะยังไม่ขลังพอ ผู้คนยังคงนิยมสูบบุหรี่กันอย่างไม่ลดละที่ไหนห้ามสูบก็หลีกเลี่ยงไม่สูบเสีย ตั้งหน้าตั้งตาหาที่ที่เขาไม่ได้ห้าม สูบกันให้ควันโขมง
เมื่อวิเคราะห์กันแล้วว่าการพิมพ์ข้อความเตือนบนซองบุหรี่ค่อนข้างจะไม่ได้ผลหรือได้ผลไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไรนักคราวนี้ต้องเล่นให้หนัก
กะกันว่าจะบังคับให้มีการพิมพ์ภาพลักษณะของโรคต่างๆที่เกิดขึ้นกับคนสูบบุหรี่ให้เห็นบนซองบุหรี่กันให้เต็มตากันไปเลย ภาสยองๆอย่างนี้เห็นกันแล้วยังไม่เกิดการเกรงกลัวจนคิดเลิกสูบบุหรี่กันอีกก็ให้มันรู้ไป
รณรงค์กันถึงขนาดนี้เสียเงินเสียทองเป็นค่าใช้จ่ายในการรณรงค์กันมากมายก่ายกองไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนล้านบาทในแต่ละปียังกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทำไมหนอจึงไม่คิดหาวิธีการที่มันชะงัดมากกว่านี้ในเมื่อมีความตั้งใจจริงที่จะให้คนเลิกสูบบุหรี่
ยาบ้า ยาอี ยาเค ยาเลิฟ ที่กำลังเป็นปัญหาหนักระดับชาติอยู่ในบ้านเราขณะนี้มีการบอกกล่าวให้รับรู้กันว่ามันเป็นยาเสพติดที่มีพิษมีภัยร้ายแรงต่อระบบประสาท ระบบสมองของมนุษยชาติทำให้อนาคตของชาติมืดมนสูญเสีย ถึงกับมีการประกาศยกฐานะยาเสพติดเหล่านี้ให้เป็นยาเสพติดประเภท 1 ซึ่งกำหนดโทษสำหรับผู้เสพถึงติดคุก กำหนดโทษสำหรับผู้ผลิตหรือผู้ค้าถึงขั้นประหารชีวิต
ลองหวนกลับมาพิจารณาถึงพิษถึงโทษภัยของบุหรี่ที่กำลังรณรงค์ให้ผู้คนได้รับรู้รับทราบกันบ้างแต่ละโรคแต่ละภัยที่มีสาเหตุมาจากบุหรี่แทบจะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ายาบ้าหรือยาทั้งหลายทั้งมวลเหล่านี้เลยบางโรคดูจะร้ายแรงยิ่งกว่าด้วยซ้ำ
ทำไมไม่กำหนดให้บุหรี่เป็นยาเสพติดร้ายแรงเหมือนกับยาเหล่านี้
กำหนดลงไปเลย ใครสูบบุหรี่ถูกจำคุก ใครผลิต ใครครอบครอง หรือใครค้าบุหรี่มีโทษในระดับเดียวกับยาเสพติดประเภทยาบ้านั่นแหละ
แค่นี้ก็เรียบร้อย ไม่ต้องมานั่งรณรงค์เลิกสูบบุหรี่กันให้เสียทั้งเวลาและเสียทั้งเงินทั้งทองโดยเปล่าประโยชน์
ใครขืนสูบบุหรี่อีก อยากลองดีก็ให้มันรู้ไป
และก็อีกอย่าง อย่าลืมเลิกโรงงานยาสูบเสียด้วย จัดการกับต้นตอตัวการที่แท้จริงเลิกการผลิตบุหรี่ออกมามอมเมาและทำร้ายประชาชนคนในชาติเสียทีโรงงานผลิตบุหรี่ที่มีอยู่ก็หันไปผลิตสินค้าสมุนไพร ผลิตตะกร้า หรือผลิตภัณฑ์ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์แทน
บุหรี่นอกห้ามนำเข้าอย่างเด็ดขาดไม่ต้องไปกลัวเกรงผู้ผลิตบุหรี่นอกหรือรัฐบาลประเทศที่ผลิตบุหรี่นอกส่งเข้ามาขายเมืองไทยว่าเขาจะโวยวายเหตุผลทันชัดเจนอยู่แล้วว่าแม้แต่ในประเทศเราเองก็ห้ามผลิตห้ามสูบ อย่างนี้ใครจะมาว่ากัน
การที่โรงงานยาสูบของเรายังตั้งหน้าตั้งตาผลิตบุหรี่ออกมาขายอันเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ที่น่าพึงพอใจอย่างมหาศาลให้กับรัฐอยู่อย่างนี้ เมื่อผลิตออกมาแล้วก็ต้องอยากให้มีคนสูบบุหรี่เยอะๆจะได้ทำกำไรมีรายได้เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นให้กับรัฐเป็นกอบเป็นกำ
แล้วอีแบบนี่จะมานั่งรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่กันทำไมให้เสียเวลา และเสียเงินเปล่าๆ เห็นกันชัดๆ แบบนี้เขาเรียกว่า ปากว่าตาขยิบ ไม่จริงใจที่จะให้มีการเลิกสูบบุหรี่กันนี่นา
เรื่องโดย : หลวงเลียบเมือง
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : บทความ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51319