ผลทดสอบต่างแดน
ฟอร์ด โฟคัส ดับเบิลยูอาร์ซี
เวิร์ลด์ แรลลี แชมเพียนชิพ โฟคัส ของ ฟอร์ด เป็นรถที่สร้างความสะใจในการขับขี่มากที่สุดคันหนึ่ง
มันจะได้พิสูจน์ความยอดเยี่ยม เมื่อ คอลิน แมคเร นำลงแข่งขันในรายการ แรลลี ออฟ เกรท บริเทน
เพื่อตัดสินว่าผู้ใดจะคว้าตำแหน่งแชมพ์โลกในปีนี้ไปครอง
กล่าวกันว่า เมื่อคุณคุ้นเคยกับปุ่มบังคับควบคุมของอุปกรณ์ต่างๆ แล้ว รถคันนี้จะเป็นรถที่ขับได้อย่างง่ายดาย
ปัญหามีเพียงอย่างเดียว คือ คลัทช์ ที่อาจสร้างความลำบากให้แก่ผู้ขับอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม มาร์ค ฮิกกินส์
เพื่อนร่วมทีมของ แมคเร ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ที่มีความสามารถในการขับขี่ และรู้ดีว่าตนต้อง การจะทำอะไร ย่อมขับรถ
ฟอร์ด โฟคัส ดับเบิลยูอาร์ซี คันนี้ได้ทุกคน
สิ่งที่น่าประทับใจของมัน อยู่ที่แรงบิด ซึ่งมีจำนวนมากมายไม่อย่างน่าเชื่อ โดยเฉพาะเมื่อรอบเครื่องยนต์สูงเกิน 2,000
รตน. ขึ้นไป โฟคัส คันนี้ จะทำอัตราเร่งได้อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดเลยทีเดียว
จากที่การแข่งขันมีกฎเกณฑ์ต่างๆ มากมาย รวมทั้งการกำหนดให้รถที่ลงแข่ง ต้องมีกำลังสูงสุดไม่เกิน 300 แรงม้า
แต่ในความเป็นจริงแล้ว รถเกือบจะทุกคันมีกำลังอยู่ในราว 350 แรงม้า โฟคัส ดับเบิลยูอาร์ซี คันนี้
จึงดูเหมือนไม่มีความโดดเด่นมากนัก
แม้ว่าเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร จะทำงานได้อย่างดีเยี่ยมไปจนถึงรอบเครื่องสูงสุดที่ 6,800 รตน.
แต่คนจำนวนมากไม่ได้สังเกตว่าแรงบิดของรถคันนี้มากนัก จึงแทบไม่มีใครรู้ว่าแรงบิดสูงสุดของมันมีมากถึง 59.5
กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. การพุ่งจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง สามารถทำได้อย่างรวดเร็วปานจรวดทีเดียว
และต่อจากนี้ไปคือการตอบคำถามของ มาร์ค ฮิกกินส์ ต่อผู้สื่อข่าวที่ได้ทดสอบรถคันนี้
ถาม : รถที่ คอลิน แมคเร และเพื่อนร่วมทีมใช้ในการแข่งขัน มีความเหมือนกับ โฟคัส 1.6 แอลเอกซ์อย่างไรบ้าง ?
มาร์ค : กระจกหน้า ไฟหน้า แผงหน้าปัด ขนาด และรูปแบบของตัวถัง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
ถาม : โฟคัส ดับเบิลยูอาร์ซี ใช้เวลา และงบประมาณในการผลิตเท่าใด ?
มาร์ค : งบประมาณจะอยู่ระหว่าง 27,900,000-31,000,000 บาท ส่วนเวลาในการผลิตนั้น
ขึ้นอยู่ว่าต้องการความแรงของเครื่องยนต์ระดับไหน แต่โดยทั่วๆ ไปแล้ว ใช้เวลาเพียงไม่กี่อาทิตย์เท่านั้น
ถาม : มันทำความเร็วสูงสุดได้เท่าไร ?
มาร์ค : ความเร็วสูงสุดของรถ ขึ้นอยู่กับระบบเกียร์ ถ้าหากเกียร์ดี รถจะทำความเร็วได้สูงกว่า 208 กม./ชม.
แต่ถ้าเป็นในการแข่งขัน ความเร็วสูงสุดจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 256 กม./ชม. รถที่มีเกียร์ดี จะทำอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.
ได้ในเวลา 3.5 วินาที ส่วน 0-160 กม./ชม. จะทำได้ในเวลา 8.0 วินาที
ถาม : ตัวถังของมันมีความแข็งแกร่งเพียงใด ?
มาร์ค : แข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึง ตัวถังของรถรุ่นนี้ มีความแข็งแกร่งเท่ากับรถที่ใช้ในการแข่งซาฟารี ที่ โคร์ซิกา
เลยทีเดียว ฟรองซัว เดอเลอคูร์ เคยขับรถคันนี้พุ่งชนต้นไม้บนอัตราความเร็ว 184 กม./ชม. ในการแข่งขันที่
ออสเตรเลีย เขาเดินออกมาจากรถโดยไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ เลย ที่เหนือไปกว่านั้น โคดไรเวอร์ ของเขา
ซึ่งอยู่ฝั่งที่โดนกระแทก ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงแต่อย่างใด
ถาม : ระบบเบรคเป็นอย่างไรบ้าง ?
มาร์ค : ต้องยอมรับว่าดีเยี่ยม แม้ว่าจะไม่มีระบบป้องกันล้อลอคตาย ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะกฎการแข่งขันห้ามใช้
แต่เป็นเพราะว่า เอม-สปอร์ท ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องรถแข่งแรลลีของ ฟอร์ด รู้ดีว่า
รถจะหยุดได้เร็วขึ้นเมื่อไม่ใช้ระบบที่ว่านี้ คงเป็นที่รู้กันว่า เปอโฌต์ กำลังพัฒนาระบบป้องกันล้อลอคตาย
ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อจะนำมาใช้กับ 206 ดับเบิลยูอาร์ซี แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ผลสรุปใดๆ
หน่วยงานฝ่ายระบบเบรคของเราเคยทดสอบ โฟคัส บนถนนคอนกรีท รถคันนี้หยุดนิ่งสนิทจากความเร็ว 96 กม./ชม.
ได้ในเวลาเพียง 2.0 วินาที ซึ่งต้องยอมรับว่ายอดเยี่ยมมาก แต่ในปีนี้ โฟคัสเปลี่ยนมาใช้เบรคที่ใหญ่กว่าเดิม
โดยจานเบรคเหล็กของ เบรมโบ มีขนาด 370 มม. แคลิเพอร์เป็นแบบ 8 ก้าน จึงจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่า
จานเบรคขนาด 300 มม. และแคลิเพอร์แบบ 4 ก้านของปีก่อนอย่างแน่นอน
ถาม : ระบบเกียร์เป็นอย่างไรบ้าง ?
มาร์ค : ถ้าหากรถทุกคันใช้ระบบเกียร์แบบของเรา คุณจะสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างสะดวกง่ายดาย
และยังมีสวิทช์อีเลคทรอนิคที่จะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างรวดเร็ว
ถูกต้องและนุ่มนวล การเปลี่ยนเกียร์ 6 จังหวะของรถคันนี้ จึงให้ความรู้สึกราวกับเป็นรถเกียร์เดียว
ปัญหาของมัน คือ การที่มีราคาประมาณ 1,860,000 บาท ทุกครั้งที่มีการแข่งขันจะต้องเปลี่ยนใหม่
ถาม : อะไรคือ แอนที-แลก และมันทำงานร่วมกับ โฟคัส ได้ดีหรือไม่ ?
มาร์ค : แอนที-แลก จะทำหน้าที่รักษาแรงดันของไอดี เพื่อรักษารอบการหมุนของเทอร์โบ เมื่อไม่มีการเหยียบคันเร่ง
ซึ่งจะทำให้รถมีกำลังสูงสุดคงที่ รถจึงจะไม่มีอาการสะดุด นอกจากนั้น ด้วยระบบนี้
คุณจะมีความรู้สึกเหมือนใช้เครื่องยนต์ วี 8 ขนาด 6.0 ลิตร แทนที่จะเป็นเครื่องเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร
เพราะนั่นเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม
ถาม : อะไรคือสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของการขับขี่ ดับเบิลยูอาร์ซี ?
มาร์ค : ประสิทธิภาพในการทำงาน แรงบิด การเกาะถนน และการทรงตัว รวมทั้งประสิทธิภาพของระบบเบรค
นั่นคือความยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบของรถคันนี้
ถาม : ข้อเสียของมันมีบ้างไหม ?
มาร์ค : การที่จะต้องซ่อมแซมหรือปรับ เซนเตอร์ ดิฟเฟอเรนเชียล เปรียบได้กับฝันร้าย
ถาม : วิศวกรทำอย่างไร เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร จึงมีแรงบิดมากมายขนาดนี้ ?
มาร์ค : เจ้าหน้าที่ของ เอม-สปอร์ท เคยกล่าวไว้ว่า มันเป็นงานที่ต้องระมัดระวัง และให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แอนที-แลก ก็เป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการที่จะได้แรงบิดสูงเช่นนี้ และก็เช่นเดียวกับรถแข่ง
ฟอร์มูลา วัน เทคนิคต่างๆ จะถูกปิดเป็นความลับสุดยอด คนภายนอกจึงจะไม่มีวันได้รับรู้อย่างเด็ดขาด
ถาม : เครื่องยนต์จะมีกำลังเท่าใด หากไม่มีช่องอากาศ ( AIR RESTRICTOR ) ?
มาร์ค : ประมาณ 2 เท่าของ 300 แรงม้า หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย ซึ่งก็คงจะอยู่ที่ประมาณ 650 แรงม้า
ถาม : เครื่องยนต์ของ โฟคัส ดับเบิลยูอาร์ซี ใช้งานได้นานเท่าไร ก่อนที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ ?
มาร์ค : ถ้าหากเป็นท่ามกลางอากาศร้อนจัดของการแข่งขัน เครื่องยนต์จะใช้งานได้ในราว 600 ไมล์หรือ 960 กม.
แต่ก็สามารถใช้งานนานกว่านั้นได้ หากมีความจำเป็น และมันขึ้นอยู่กับวิธีการที่เราใช้งานมันด้วย
ถาม : น้ำหนักของ โฟคัส ดับเบิลยูอาร์ซี กับโฟคัส รุ่นธรรมดาต่างกันหรือไม่ ?
มาร์ค : น้ำหนักของรถเกือบจะเท่ากัน แม้รถ ดับเบิลยูอาร์ซี จะต้องถอดอุปกรณ์ที่ไม่มีความจำเป็นออกไปทั้งหมด
แต่ก็มีน้ำหนักที่เพิ่มเข้ามาทดแทน โดยเฉพาะจากระบบอีเลคทรอนิคส์ต่างๆ รวมทั้งโครงเหล็กด้วย
เมื่อติดตั้งทั้งหมดแล้ว รถที่ใช้แข่งจะกลับมามีน้ำหนัก 1,200 กก. เท่ากับรถที่ใช้บนถนน
ถาม : เจ้าหน้าที่ของ เอม-สปอร์ท จะต้องใช้เวลาเท่าใดในการเปลี่ยนคลัทช์ จานเบรค ระบบเกียร์ ล้อทั้งสี่ และยาง ?
มาร์ค : สำหรับ คลัทช์ ใช้เวลา 2 นาที จานเบรค 2 นาที ระบบเกียร์ 20 นาที ส่วนล้อ และยางใช้เวลา 1 นาที
ถาม : ภายในห้องโดยสาร มีเสียงรบกวนมากไหม โดยเฉพาะบนอัตราความเร็ว112 กม./ชม. ในเกียร์ 6 ?
มาร์ค : ราว 125 เดซิเบล ซึ่งจำนวนนั้น เป็นเสียงของระบบเกียร์มากถึง 115 เดซิเบลไปแล้ว จึงขอเตือนว่า
หากขับรถคันนี้ ควรจะต้องใส่เฮดโฟนเอาไว้ด้วย
ถาม : มีเทคนิคพิเศษใดๆ สำหรับรถคันนี้หรือไม่ ?
มาร์ค : ระบบอีเลคทรอนิคส์ต่างๆ ของรถคันนี้ ยอดเยี่ยมมาก รวมทั้งการควบคุมดิฟเฟอเรนเชียล และการเปลี่ยนเกียร์
ดิฟเฟอเรนเชียลกลางจะควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ ส่วนระบบเกียร์ จะควบคุมการทำงานด้วยอีเลคทรอนิค
และไฮดรอลิค และสามารถควบคุมโดยมือได้ หากระบบเหล่านั้นมีความผิดพลาด
ถาม : ใครคือผู้ที่ควรจับตามองในการแข่งขันรายการนี้ ?
มาร์ค : แน่นอนว่าจะต้องเป็น แมคเร นอกจากนั้นก็ยังมี ริชาร์ด เบิร์นส์ /ทอมมี มาคีเนน และแซงส์ ทั้ง 4
คนนี้คือตัวเก็งที่มีโอกาสคว้าตำแหน่งแชมพ์โลกมากที่สุด
ถาม :ใครจะเป็นผู้ขับ โฟคัส ในการแข่งปีนี้ ?
มาร์ค : แมคเร เป็นคนเดียวที่เซ็นสัญญากับทีมเรียบร้อยแล้ว ส่วน แซงส์ นั้น ก็ดูเหมือนว่าอยากอยู่กับเรา
โดยที่เขายังสามารถติดตราของสปอนเซอร์ส่วนตัวไว้ได้ตามที่กำหนด ส่วนรถคันที่ 3 ของเรา จะขับโดย มาร์คโค
มาร์ติน นักแข่งชาวเอสโตเนีย
ถาม : จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้แก่ โจ โซพ เท่าไรในการขับทดสอบ โฟคัส ?
มาร์ค : แพงมากประมาณ 9,920,000 บาท โดยอาจต้องใช้รถ โฟคัส 1.6 แอลเอกซ์ ถึง 2 คัน
ถาม : อะไรจะเกิดขึ้นกับรถ หลังจากจบฤดูกาลการแข่งแล้ว ?
มาร์ค :ใช้ในการโฆษณาการแข่งขันไปทั่วโลก หรือขายให้แก่นักสะสม
หรือผู้ซื้อที่ไม่ต้องการออกนามในราคาประมาณ 15,500,000 บาท
ถาม : จะมีรถรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลหรือไม่ ?
มาร์ค : เป็นไปได้มากทีเดียว
เรื่องโดย : ซิงเกิลซีท
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2545
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบต่างแดน
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51217