ไทยแลนด์ แกรน ทัวริง คาร์ แชมเพียนชิพ2002 สนาม 1

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ "ไทยแลนด์ แกรนด์ ทัวริง คาร์ แชมเพียนชิพ 2002" หรือ "ทีจีทีซี 2002" ได้ถูกจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 สนามที่ 1 จัดขึ้นช่วงต้นเดือนพฤษภาคม มีรถแข่งเกือบ 70 คัน ร่วมประลองความเร็วในการแข่งขัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 รุ่น ส่วน สปอร์ท แกรนด์ แชมเพียน หรือ "จีซี" ซึ่งเป็นไฮไลท์ของรายการ ต้องขับเคี่ยวกันท่ามกลางสายฝนที่ชุ่มฉ่ำในช่วงบ่าย สปอร์ท ชาลเลนจ์ การแข่งขันเริ่มจากรุ่น "สปอร์ท ชาลเลนจ์" หรือ "เอสซี" แข่งขันกันทั้งสิ้น 15 รอบ มีรถแข่ง 10 คัน นักแข่งส่วนใหญ่จะเป็นมือใหม่แทบทั้งสิ้น และมีคนดังเข้าร่วมแข่งในรายการนี้หลายคน เช่น มล. อภิมงคล โสณกุล ลูกชาย "หม่อมเต่า" ซึ่งลงแข่งครั้งแรกและสามารถคว้า ตำแหน่งสตาร์ทหัวแถวมาครอง ส่วน "เปิ้ล" นาคร ศิลาชัย หันมาแข่งความเร็วบนทางเรียบหลังจากที่ผ่านศึก เจทสกี มาอย่างโชกโชน นอกจากนี้ยังมี นักแสดงหญิง นานา ไรบีนา ที่เคยคว้าแชมพ์รายการ มาเก๊า กรองด์ปรีซ์ ที่มีคู่แข่งเป็นดาราหญิงทั่วเอเชียเข้าร่วมช่วยเพิ่มสีสันให้กับการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย หลังจากได้รับสัญญาณออกสตาร์ท มล. อภิมงคล ถูก ณรงค์ชัย พาวิทยาลาภ ซึ่งสตาร์ทจากอันดับที่ 3 แซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงจนจบการแข่งขัน ส่วนอันดับที่ 2 และ 3 ขับเคี่ยวกันระหว่าง วิชพงษ์ มโนมัธย์ ซึ่งแข่งรถประเภทนี้มาหลายปี กับ มล. อภิมงคล นักแข่งมือใหม่ ผลสุดท้าย มล. อภิมงคล สามารถแซงขึ้นมาเป็นที่สองในช่วง 2 รอบสุดท้าย วิชพงษ์ ตกเป็นที่ 3 ส่วนเปิ้ล นาคร ตกไปอยู่ที่ 8 ผู้ทำเวลาต่อรอบดีที่สุด คือ มล. อภิมงคล เวลา 01.14.732 นาที หัวเรื่อง : กรุพ เอน พลัส คลาสส์ ซี รุ่นต่อมาคือการแข่งขัน กรุพ เอน พลัส คลาสส์ ซี ทวีกุล รัตนโกเศศ สตาร์ทออกนำในช่วง 3 รอบแรก ก่อนจะถูก อำมาตย์ จิระณานนท์ แซงขึ้นนำแทน ตามมาด้วย ณัฐพงษ์ ซึ่งรักษาตำแหน่งที่ 3 ไปจนจบการแข่งขัน ทวีกุล แซงกลับขึ้นมานำในช่วง 6 รอบสุดท้าย รับธงตราหมากรุกเป็นรายแรก และสามารถทำเวลาต่อรอบดีที่สุด 01.14.264 นาที กรุพ เอน พลัส คลาสส์ เอบี หลังพักเที่ยง ซึ่งมีกิจกรรม "พิท วอร์ค" พาคนดูเข้ามาชม นักแข่ง รถแข่งพร้อมทีมงานอย่างใกล้ชิดและ การแข่งขันดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจาก กรุพ เอน คลาสส์ เอบี มีรถเข้าแข่งถึง 18 คัน อาภาธร กรรณสูตร นักแข่งระดับแนวหน้า คลาสส์ เอ ออกสตาร์ทนำแบบม้วนเดียวจบ ตามมาด้วย ชยุส ยังพิชิต นักแข่ง คลาสส์ บี ส่วน ณัฐวุฒิ ทิพากร อยู่ในตำแหน่งที่สาม แต่มาโดน อภิชัย พันธุ์คงชื่น แซงขึ้นมาครองตำแหน่งที่สองใน คลาสส์ บี ณัฐวุฒิ ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดายในรอบที่ 23 ธนกฤช แซงขึ้นมาเป็นที่ 3 ณัฐวุฒิ เจริญสุขวัฒนะ ทีม โตโยตา ซึ่งออกสตาร์ทในตำแหน่งที่ 14 เนื่องจากรถแข่งยังเตรียมมาไม่พร้อมนักในสนามนี้ แต่ก็สามารถใช้ชั้นเชิงที่เหนือชั้นไล่แซงขึ้นมาเป็นที่ 2 ใน คลาสส์ เอ ส่วน พีท ทองเจือ เพื่อนร่วมทีมต้องออกจากการแข่งขันไปเนื่องจากเครื่องยนต์ขัดข้องในรอบที่ 14 กรัณฑ์ ศุภพงษ์ นักแข่งระดับแนวหน้าใน คลาสส์ เอ ออกสตาร์ท จากตำแหน่งที่ 5 ในรอบแรกสามารถแซงขึ้นมาอยู่ที่ 4 แต่วิ่งอยู่ได้เพียงแค่ 5 รอบ ก็ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย สปอร์ท แกรนด์ แชมเพียน รุ่นสุดท้ายซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานนี้คือ สปอร์ท แกรนด์ แชมเพียน มีรถแข่ง 18 คัน ขับเคี่ยวกันถึง 30 รอบ สายฝนได้ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่รุ่นกรุพ เอน จบลง ขณะที่ออกสตาร์ท ก็ยังมีฝนโปรยปรายอยู่ นายสนามได้ประกาศเป็น "WET RACE" นักแข่งสามารถเลือกใช้ยาง สลิคหรือยางฝนก็ได้ และกติกาที่ให้รถแข่งทุกคันต้องเข้ามาเปลี่ยนยางอย่างน้อย 2 เส้น ตั้งแต่รอบที่ 11-26 เพื่อเป็นการพัฒนาทีมเซอร์วิศเป็นอันยกเลิก หลังได้รับสัญญาณออกสตาร์ท รอบแรก ขจรศักดิ์ ศักดิ์ศิริเวชกุล ซึ่งอยู่ที่ 3 แซง สันต์ ภิรมย์ภักดี ซึ่งออกสตาร์ทหัวแถวขึ้นมานำ ตามมาด้วย วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ และปิติ ภิรมย์ภักดี แต่ขจรศักดิ์ เครื่องยนต์มีปัญหาต้องจอดในรอบที่13 วุฒิกร สามารถแซงขึ้นมาเป็นที่ 1 ในรอบที่ 12 ครองตำแหน่งไปจนจบการแข่งขัน ส่วนที่ 2 ได้แก่ ปิติ จากทีมเบียร์สิงห์ ฮาโวลีน ธนะวุฒิ ภิรมย์ภักดี แซงจากที่ 6 ขึ้นมาจนถึงที่ 3 ได้สำเร็จตั้งแต่ในรอบที่ 16 และเป็นผู้ทำเวลาต่อรอบดีที่สุด คือ 1.06.279 นาที ในระหว่างแข่งขันหลายทีมได้เปลี่ยนยางจากยางสำหรับพื้นเปียกมาเป็นยางสลิค เนื่องจากถนนเริ่มแห้งเพื่อที่จะทำความเร็วเพิ่มขึ้น การตัดสินใจของทีม เซอร์วิศค่อนข้างจะมีความสำคัญต่อการแข่งรายการนี้ ทีจีทีซี สนามที่ 2 ซึ่งจะย้ายจาก พัทยา ไปสู่สนามแข่งเฉพาะกิจ ที่สนามบินกองบิน 2 จ. ลพบุรี ในวันที่ 22-23 มิถุนายน ส่วนสนามที่ 3 จะแข่งกันที่ลพบุรีในวันที่ 10-11 สิงหาคม รับประกันความมันโดย เอม เรสซิ่ง โปรเจ็ค