บทความ
แข่ง "ซิ่ง"
นึกว่าพฤติกรรมก่อกวนความสงบสุขของสังคมของบุคคลกลุ่มหนึ่งจะสูญหายตายจากหรือทุเลาเบาบางไปจากการรับรู้และรับกรรมของบุคคลอื่นที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่จะหมดไปแล้ว
ที่ไหนได้ พฤติกรรมที่ว่านี้ยังคงมีอยู่อย่างยั่งยืน ต่อเนื่อง และซ้ำซากเหมือนกันสืบสานสันดานระยำกันไม่มีที่สิ้นสุด
ก็พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่นิยมนำเอารถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงเสริมแต่งสมรรถนะและอุปกรณ์ให้ผิดเพี้ยนเพิ่มพูนไปจากมาตรฐานเดิม แล้วก็นัดหมายกันมาเป็นจำนวนร้อยๆ คันยึดเอาถนนหลวงเป็นที่ประลองความเก่งกล้าและความซ่าของตัวเองโดยไม่ไยดีต่อกฎหมายของบ้านเมืองและไม่นึกอนาทรต่อความเดือดร้อนรำคาญของบุคคลอื่นที่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
ทุกคืนวันศุกร์ วันเสาร์ในช่วงดึกสงัด หรือบางทียังไม่ทันดึกด้วยซ้ำไป บนถนนเหล่านี้ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ถนนพระราม 3 ถนนรัชดาภิเษกช่วงบุคคโล-ท่าพระ ถนนอุทยาน และถนนอื่นๆ อีกหลายสายจะกลายเป็นสนามแข่งประลองความระยำกันเป็นประจำ
รถมอเตอร์ไซค์จับกลุ่มกันเป็นจำนวนร้อยๆ คัน แล้วก็จับคู่หรือจับหมู่กันประลองความเก่งกาจ
เสียงเครื่องยนต์แผดลั่นสนั่นหวั่นไหว
ใช้พื้นที่ของถนนขับกันอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องแยแสกับใครที่จำเป็นจะต้องใช้พื้นที่ถนนเพื่อการสัญจรไปมาแต่อย่างใด
อุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นประจำระหว่างนัก "ซิ่ง" ด้วยกัน และนัก "ซิ่ง"กับบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องแต่เผอิญเข้าไปมีส่วนร่วมใช้ถนนด้วยในขณะนั้น
เมื่อไม่กี่วันมานี้ โทรทัศน์ช่องหนึ่งได้ไปบันทึกภาพพฤติกรรมการ "ซิ่ง"รถมอเตอร์ไซค์ของบุคคลกลุ่มนี้ออกมาตีแผ่ให้เห็น
เห็นภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งพยายามปฏิบัติหน้าที่พยายามจับกุมและระงับพฤติกรรมของบุคคลกลุ่มนี้แต่เห็นแล้วมันสุดที่จะทุเรศแก่สายตา
มันเหมือนดูการ์ตูนทอมแอนด์เจอร์รียังไงยังงั้น แมวไล่จับหนูแล้วก็ถูกหนูเยาะเย้ยที่แมวไม่สามารถจะทำอะไรหนูได้จนแล้วจนรอด
ที่ทุเรศหนักเข้าไปอีก ก็เมื่อเห็นตำรวจพยายามที่จะคาดคั้นและยัดเยียดความเป็น "แพะ"ให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่พลัดหลงเข้าไปในเขตนั้นด้วยความจำเป็นต้องใช้ถนน ทั้งๆที่เห็นอยู่ชัดเจนในทั้งสภาพบุคคลและสภาพรถว่าไม่น่าจะเป็นผู้เข้าร่วมอยู่ในขบวนการนั้นอย่างแน่นอน
มีการสัมภาษณ์นัก "ซิ่ง" เพื่อค้นหาจิตสำนึกในพฤติกรรม แต่คำตอบที่ได้รับมีอยู่เพียงแค่มันคือความสะใจมันอารมณ์ ลำพองและความเย้ยหยันที่มีต่อเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย
กับคำถามที่ไม่คิดกันบ้างหรือว่าพฤติกรรมอย่างนี้มันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญใจให้กับผู้ที่กำลังจะหลับจะนอน กำลังต้องการพักผ่อนแต่ต้องมาทนกับเสียงแผดก้องของเครื่องยนต์และความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นกับผู้ร่วมใช้เส้นทางบนถนนสายนั้นโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย คำตอบกันแสนยโส มีเพียงว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้...ก็แค่นั้น
กับทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่จับกุม มีเพียงการส่ายหน้า ไม่รู้จะจัดการกับพวกเหล่านี้ได้อย่างไร ทั้งๆที่ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว ถ้าจะทำอะไรให้รุนแรงมากไปกว่าการไล่สกัดจับ ก็จะถูกมองว่าทำอะไรที่เกินกว่าเหตุ
สรุปแล้วมันคือความหมดหวังที่จะขจัดกลุ่มบุคคลที่ก่อกวนความสงบเรียบร้อยของสังคมเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปค่อนข้างแน่นอน
เมื่อไม่กี่วันมานี่เอง ก็มีข่าวที่มีการประชาสัมพันธ์ให้ได้รับรู้กันทางหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ตำรวจสามารถจับกุมนักซิ่งบนท้องถนนพวกนี้ได้จำนวนหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะราว 140คนพร้อมรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการแข่ง "ซิ่ง"จัดการส่งฟ้องศาลและก็มีการตัดสินคดีในฐานขับขี่รถในลักษณะเป็นที่หวาดเสียวและเป็นอันตราย
ศาลตัดสินจำคุกผู้กระทำผิดเหล่านี้ด้วยการจำคุกโดยไม่มีการรอลงอาญาแต่ก็ยังปรานีให้เปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นแค่กักขังเป็นเวลา 1 เดือน ส่วนรถของกลางให้ริบ
โทษจำคุกเปลี่ยนเป็นกักขังเอาไว้ตามสถานีตำรวจ เพียงพอที่จะทำให้นัก "ซิ่ง" เหล่านี้รู้สำนึกในความผิดแค่ไหนนั้นอย่าให้พูดเลย ที่เห็นล้วนแต่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของนัก "ซิ่ง" อย่างชื่นบาน โล่งอกทั้งคนทำผิดและพ่อแม่ผู้ปกครองนัก"ซิ่ง"
ไปพักผ่อนอยู่บนโรงพักเพียงแค่ไม่กี่วันแล้วก็ออกมา "ซิ่ง" ต่อได้สบายใจเฉิบ
ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกริบนั้น เชื่อเถอะ หลังจากนี้อีกไม่กี่วันบริษัทเจ้าของรถที่พวกเวรเหล่านี้ไปผ่อนซื้อเอาออกมาก็คงจะไปร้องขอรับรถคืน เพราะเขาเป็นเจ้าของรถและไม่รู้ไม่เห็นไม่มีส่วนกระทำความผิดด้วย และก็คงจะได้รับรถคืนไปตามสิทธิทางกฎหมาย
มาตรการเท่าที่ปรากฏอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางด้านตำรวจหรือมาตรการทางด้านศาลเห็นทีจะสร้างสำนึกที่ดีให้กับบุคคลกลุ่มนี้ได้ยาก มันบางเบาและไม่สาสมเอาเสียเลย
เห็นทีจะต้องขอแรงขอความเด็ดขาดและขอความเอาจริงเอาจังจากบุคคลผู้มีอำนาจเหล่านี้เสียแล้ว
พลตอ. สันต์ ศรุตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพลตต. วงกต มณีรินทร์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร
และคนสุดท้าย รตอ. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รัฐมนตรีมหาดไทย ผู้ช่ำชองในการ "จัดระเบียบ" ที่ลือชื่อช่วยทีเถอะ ช่วยขจัดสวะสังคมเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปเสียที บ้านเมืองจะได้น่าอยู่น่าอาศัยขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เสียที
ABOUT THE AUTHOR
ห
หลวงเลียบเมือง
ภาพโดย : -นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2545
คอลัมน์ Online : บทความ