MERCEDES-AMG SL 63 4MATIC+ โฉมใหม่ของสุดยอดรถสปอร์ทติดตราดาวสามแฉก

ปิด “ระเบียงรถใหม่” ในเดือนแห่งการชุมนุมรถสปอร์ทสายเลือดซามูไร รถสปอร์ทสายพันธุ์อเมริกัน และรถสปอร์ทจากเมืองเบียร์ ด้วย MERCEDES-AMG SL 63 4MATIC+ (เมร์เซเดส-เอเอมจี เอสแอล 63 4 เมทิค พลัส) รถสปอร์ทเร็วสุดๆ แรงสุดๆ และแพงสุดๆ ของค่าย “ดาวสามแฉก” ยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์เริ่มนำรถสปอร์ทรหัส SL ออกสู่ตลาดเมื่อปี 1954 เป็น GULLWING DOORS SPORTS CAR (กัลล์วิง ดอร์ สปอร์ทส์ คาร์) หรือรถสปอร์ทประตูปีกนกนางนวล ซึ่งมีรหัสโรงงาน W198 และมีชื่อโมเดลว่า 300 SL ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร รถรุ่นนี้อยู่ในสายการผลิตจนถึงปี 1963 แล้วก็มีรถใหม่มาแทนที่ รหัส SL ที่ใช้กับรถสปอร์ทอนุกรมนี้ เป็นที่ถกเถียงกันมานานว่าย่อมาจากอะไร ? เพราะบ้างก็ว่ามาจาก SUPER LEICHT ในภาษาเยอรมัน ซึ่งตรงกับ SUPER LIGHT ในภาษาอังกฤษ และบ้างก็ว่ามาจาก SPORT LEICHT ในภาษาเยอรมัน ซึ่งตรงกับ SPORT LIGHT ในภาษาอังกฤษ ปล่อยให้ถกให้เถียงกันไปจนถึงปี 2017 แล้วบริษัทก็ยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามาจากคำแรก คือ SUPER LEICHT รถรุ่นที่ 2 ซึ่งมีรหัสโรงงาน W113 ตามมาในปี 1963 รถรุ่นที่ 3 ซึ่งมีรหัสโรงงาน R107 ตามมาในปี 1971 รถรุ่นที่ 4 ซึ่งมีรหัสโรงงาน R129 ตามมาในปี 1989 รถรุ่นที่ 5 ซึ่งมีรหัสโรงงาน R230 ตามมาในปี 2001 รถรุ่นที่ 6 ซึ่งมีรหัสโรงงาน R231 ตามมาในปี 2012 และล่าสุด คือ รถรุ่นที่ 7 ซึ่งมีรหัสโรงงาน R232 เพิ่งเปิดตัวแบบ “ครั้งแรกในโลก” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2021 และเป็นการเปิดตัวอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า DIGITAL WORLD PREMIERE ซึ่งผู้ชมไม่มีโอกาสสัมผัสตัวจริงเสียงจริงของรถ รถรุ่นใหม่สร้างสิ่งใหม่ให้แก่รถสปอร์ทอนุกรมนี้หลายรายการ คือ (1) เป็นรถรุ่นแรกที่ติดป้ายยี่ห้อ MERCEDES-AMG (เมร์เซเดส-เอเอมจี) ไม่ใช่ MERCEDES-BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์) เหมือนรุ่นก่อนๆ ทุกรุ่น (2) เปลี่ยนจากที่เคยติดตั้งประทุนหลังคาแบบแข็ง ในรถรุ่นที่ 4 รุ่นที่ 5 และรุ่นที่ 6 เป็นประทุนหลังคาซึ่งทำจากผ้าแฟบริค 3 ชั้น และมีน้ำหนักเบากว่าประทุนแข็ง 21 กก. เปิด/ปิดด้วยระบบ ELECTRO-HYDRAULIC (อีเลคทรอ-ไฮดรอลิค) และบังคับควบคุมโดยการกดปุ่มขณะรถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. การเปิด หรือปิดประทุนแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 15 วินาที (3) เป็นรถรุ่นแรกที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนทุกล้อ และ (4) เป็นรถรุ่นแรกที่ติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวด้วยล้อหลังควบคู่ไปกับการบังคับเลี้ยวด้วยล้อหน้า รถรุ่นที่ 7 นี้ เป็นรถ 2 ประตู เปิดประทุน 2+2 ที่นั่ง มีตัวถังยาว 4.705 ม. กว้าง 1.915 ม. และสูง 1.353 ม. เมื่อเริ่มการจำหน่ายในปี 2022 นี้ จะมีรถให้เลือกเพียง 2 โมเดล คือ MERCEDES-AMG SL 55 4MATIC+(เมร์เซเดส-เอเอมจี เอสแอล 55 4 เมทิค พลัส) กับ MERCEDES-AMG SL 63 4MATIC+ (เมร์เซเดส-เอเอมจี เอสแอล 63 4 เมทิค พลัส) โมเดลแรกติดตั้งเครื่องยนต์ไบเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง วี 8 สูบ 3,982 ซีซี 350 กิโลวัตต์/476 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 295 กม./ชม. ส่วนโมเดลหลังที่นำมาบรรจุไว้ใน “ระเบียงรถใหม่” เดือนนี้ ติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกัน คือ เครื่องไบเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง วี 8 สูบ 3,982 ซีซี แต่กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 430 กิโลวัตต์/585 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รตน. และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 800 นิวตัน-เมตร/81.6 กก.-ม. ที่ 2,500-5,000 รตน. ส่วนระบบเกียร์ก็ใช้เหมือนกัน คือ เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G รถโมเดลนี้มีน้ำหนักตัวพร้อมขับรวมผู้ขับ 1,970 กก. ใช้เวลาเพียง 3.6 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำความเร็วสูงสุด 315 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 11.8-12.7 ลิตร/100 กม. หรือ 7.9-8.5 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 268-288 กรัม/กม. โดยเฉลี่ย   MERCEDES-AMG SL 63 4MATIC+ รุ่นที่ 7 ของสุดยอดรถสปอร์ทติดตราดาวสามแฉก มิติตัวถัง 4.705x1.915x1.353 ม. น้ำหนักรถพร้อมขับรวมผู้ขับ 1,970 กก. เครื่องไบเทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 8 สูบ 3,982 ซีซี 430 กิโลวัตต์/585 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อนทุกล้อ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 315 กม./ชม.