วิถีตลาดรถยนต์
เริ่มปี 2561 ปัจจัยบวกเพียบ
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม 2018/2017
ตลาดโดยรวม,+16.2 % รถยนต์นั่ง,+28.7 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+27.1 % รถอเนกประสงค์ (MPV),-6.1 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+8.9 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,-2.4 % อื่นๆ,-6.2 % [/table] วงรอบการซื้อขายรถยนต์ใหม่ในประเทศประจำปี 2561 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยปี 2561 นี้คาดว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศอย่างเป็นทางการน่าจะแตะอยู่ที่ประมาณ 900,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ผ่านมาราวๆ 3.4 % พร้อมกับคาดหวังว่าจะเป็นปีทองอีกปีหนึ่ง เพราะมีหลากหลายปัจจัยบวกที่เอื้อต่อการทำมาค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่เริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น หรือดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในการบริโภคสินค้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 นี้ถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยลบติดสอยห้อยตามมาอยู่บ้าง แต่นักการตลาดนักวิเคราะห์เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าการขายรถยนต์มากนัก ในปี 2560 ที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่เบอร์ 1 โตโยตา ถึงแม้ว่าจะยังครองตำแหน่งแชมพ์ยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทุกประเภท แต่ก็สูญเสียตำแหน่งแชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดไปในตลาดเช่นกัน โดยรถยนต์นั่งยังไม่สามารถกลับมานั่งแท่นเบอร์ 1 ได้ จำใจปล่อยให้ ฮอนดา คว้าตำแหน่งแชมพ์ไปครองอีกปีหนึ่ง เช่นเดียวกับตลาดรถเอสยูวีที่ ฮอนดา คว้าไปเชยชมอีกหนึ่งตลาด ขณะที่ตลาดใหญ่อย่างพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ต้องสละตำแหน่งแชมพ์ยอดจำหน่ายให้กับ อีซูซุ ไป ดังนั้นคาดว่าเกมการตลาดของ โตโยตา จะต้องเร่าร้อนรุนแรงกว่าที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพื่อแย่งตำแหน่งแชมพ์ในตลาดต่างๆ ที่เสียไปกลับคืนมา ซึ่งตลาดรถเอสยูวีไม่น่าจะพลาด เพราะได้ ซี-เอชอาร์ ใหม่ มาเป็นขุนพลหลักอีก 1 โมเดล ซึ่งโมเดลใหม่นี้ว่ากันว่ากระแสแรงมากจริงๆ ยอดจองล้นหลาม ซึ่งจะเริ่มส่งมอบกันตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ก็ต้องถามไปทาง ฮอนดา ด้วยว่าจะยอมคืนตำแหน่งแชมพ์รถยนต์กลุ่มนี้ให้กับ โตโยตา หรือไม่ ซึ่งหัวหอกหลักในตลาดรถเอสยูวีขนาดกลางที่ ฮอนดา ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็น เอชอาร์-วี ที่ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว อยู่ที่ว่า ฮอนดา เมืองไทยพร้อมที่จะนำ เอชอาร์-วี ใหม่มารับมือกับความร้อนแรงของ โตโยตา ซี-เอชอาร์ เมื่อไหร่ โดยเฉพาะในเรื่องของระบบไฮบริดที่มีมาให้เลือกใน โตโยตา ซี-เอชอาร์ ด้วยแต่ ฮอนดา เอชอาร์-วี ที่จำหน่ายอยู่ในบ้านเรายังไม่มีชอยศ์นี้ให้เลือก แต่ก็มีอยู่ใน เอชอาร์-วี ใหม่ที่จำหน่ายในญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ขณะเดียวกันในหมวดหมู่ของรถเอสยูวี ปี 2561 จะได้เห็นบทบาทของเอสยูวีหน้าใหม่เข้ามาร่วมแบ่งปันส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น ซึ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นรถเอสยูวีของค่าย เอมจี รวมถึงโมเดลใหม่ของทางค่าย มาซดา ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้รถเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน ในส่วนของตลาดใหญ่พิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ ปี 2561 ซึ่งแชมพ์ในปี 2560 ได้แก่ รถพิคอัพตระกูล ดี-แมกซ์ ของค่าย อีซูซุ ที่โกยยอดจำหน่ายนำหน้ารถพิคอัพตระกูล ไฮลักซ์ รีโว ของ โตโยตา มาตั้งแต่เริ่มฤดูกาลค้าขายปี 2560 ถึงแม้ว่า โตโยตา จะพยายามแก้เกมในช่วงโค้งสุดท้ายด้วยการออก รีโว รอคโค ใหม่ ที่ปรับโฉมใหม่โดนใจนักเลงรถพิคอัพมากขึ้น แต่ก็ไม่ทันการณ์ จำเป็นต้องปล่อยตำแหน่งแชมพ์ยอดจำหน่ายพิคอัพให้กับ อีซูซุ ไป ในปี 2561 ต้องตามดูกันว่า โตโยตา จะเดินหมากอย่างไรกับการช่วงชิงตำแหน่งแชมพ์ยอดจำหน่ายพิคอัพที่ตัวเองถือครองเป็นกรรมสิทธิ์มาอย่างยาวนานกลับคืนมา แต่ที่แน่ๆ อีซูซุ ไม่ปล่อยให้ โตโยตา เอาคืนไปง่ายๆ เพราะเพียงแค่เดือนแรกของปี 2561 อีซูซุ ก็ปล่อย ดี-แมกซ์ เวอร์ชันใหม่ เอกซ์-ซีรีส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ออกมาตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดอีกเวอร์ชันหนึ่ง คงไม่ใช่งานง่ายเสียแล้วกับการฝากความหวังไว้กับ รีโว รอคโค ในการชิงตำแหน่งแชมพ์ในตลาดนี้ของ โตโยตา อีกทั้งคู่แข่งขันรายอื่นๆ ก็จะมีพิคอัพรุ่นใหม่ๆ หรือรุ่นที่มีจำหน่ายอยู่แต่เพิ่มออพชันใหม่ๆ ออกมาเสริมแนวรุกดึงกลุ่มลูกค้า ทั้งที่เป็นลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า กันอีกหลายยี่ห้อหลายรุ่น สำหรับปี 2561 อย่างที่เกริ่นไว้ว่า ปีนี้ปัจจัยบวกหลากหลายที่จะทำให้การค้าการขายรถใหม่สดใสซาบซ่ามากขึ้น ซึ่งก็เห็นได้อย่างเด่นชัดตั้งแต่เดือนแรกของปีกันเลยทีเดียว โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา รถยนต์ใหม่ที่มีการซื้อขายกันในเดือนนี้ รวมถึงส่วนหนึ่งเป็นรถยนต์ที่สั่งจองในงาน MOTOR EXPO ปลายปี 2560 ที่เริ่มทยอยส่งมอบกันในเดือนมกราคมนี้ มีจำนวนรวมกันทั้งสิ้น 66,545 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่สูงกว่าในเดือนมกราคม ปี 2559 ถึง 16.2 % ซึ่งในด้านของยอดจำหน่ายรวมนี้ โตโยตา ไม่พลาดที่จะออกสตาร์ทด้วยการรั้งตำแหน่งจ่าฝูงในทันที โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 17,094 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 25.7 % ตามด้วยยอดจำหน่ายของรถยนต์ อีซูซุ 12,233 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 18.4 % ฮอนดา 9,109 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 13.7 % มิตซูบิชิ ทำยอดจำหน่ายรวมอยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยยอดจำหน่าย 5,878 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 8.8 % และฟอร์ด ที่ทำยอดจำหน่ายแซง นิสสัน เข้ามาอยู่ใน 5 อันดับแรก ด้วยยอดจำหน่ายรวม 4,968 คัน รับส่วนแบ่งการตลาดไป 7.5 % พิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ ประเดิมเดือนแรกของปี 2561 ด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องมาจากปี 2560 เดือนมกราคม 2561 จำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 26,216 คัน เพิ่มขึ้น 8.9 % เมื่อเทียบกับมกราคม 2560 อีซูซุ ยังคงความเป็นเบอร์ 1 ต่อไป ถึงแม้ว่ายอดจำหน่ายเดือนนี้เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2559 จะลดน้อยถอยลง แต่ก็ยังพอเพียงที่จะรักษาอันดับ 1 ไว้ ทำยอดจำหน่ายได้ 9,778 คัน เท่ากับ 37.3 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด ขณะที่ โตโยตา ตามมาในอันดับที่ 2 ทำตัวเลขยอดจำหน่ายห่างจาก อีซูซุ อยู่เหมือนกัน โดยจำหน่ายได้ 6,206 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 23.7 % อันดับ 3 ยังเป็นของ ฟอร์ด เหมือนในปีที่ผ่านมา ฟอร์ด ออกสตาร์ทปี 2561 ด้วยยอดจำหน่าย 3,595 คัน เท่ากับ 13.7 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด มิตซูบิชิ และนิสสัน ยังคงเส้นคงวากับอันดับที่ 4 และ 5 เหมือนเดิม มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 2,792 คัน นิสสัน 1,676 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 10.6 % และ 6.4 % ตามลำดับ พิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลาดนี้ออกสตาร์ทไม่ค่อยแจ่มเท่าไร ปรับตัวลดลง 2.4 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปี 2560 ยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาดอยู่ที่ 2,444 คัน อันดับความนิยมของรถพิคอัพสายพันธุ์นี้ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่ผ่านมา นำโดยโตโยตา 1,215 คัน กวาดส่วนแบ่งตลาดไปถึง 49.7 % ตามด้วย อีซูซุ 561 คัน ส่วนแบ่งตลาด 23.0 % ฟอร์ด 341 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.0 % มิตซูบิชิ 240 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.8 % และนิสสัน 51 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 2.1 % รถเอสยูวี เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นตลาดที่น่าจับตามองมากที่สุดตลาดหนึ่ง เนื่องจากจะมีโมเดลใหม่ๆ ทยอยเข้าสู่ตลาดอีกหลายโมเดล จากหลายยี่ห้อ และการแย่งชิงตำแหน่งหัวแถวของตลาด โดยตลาดนี้เริ่มต้นปี 2561 ด้วยยอดจำหน่ายรวมที่ปรับตัวสูงขึ้นถึง 27.1 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ปี 2560 โดยจำหน่ายได้รวมทั้งหมด 9,026 คัน คู่ชิงแชมพ์ โตโยตา กับ ฮอนดา ทำตัวเลขยอดจำหน่ายได้คู่คี่สูสี และเป็น โตโยตา ที่คว้าอันดับ 1 ไปครองก่อนด้วยยอดจำหน่าย 1,796 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 19.9 % มากกว่า ฮอนดา เพียง 7 คันเท่านั้น โดย ฮอนดา จำหน่ายได้ 1,789 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 19.8 % อันดับ 3-5 ก็มียอดจำหน่ายที่สูสี มีสิทธิ์พลิกเปลี่ยนแปลงอันดับในเดือนต่อๆ ไปได้เช่นกัน สำหรับเดือนมกราคมนี้ อันดับ 3 เป็นของ มาซดา ด้วยยอดจำหน่าย 1,152 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.8 % อันดับ 4 ฟอร์ด 1,013 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.2 % และอันดับ 5 น้องใหม่มาแรง เอมจี ได้ไปจากยอดจำหน่าย 930 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10.3 % รถเอมพีวี เป็นอีกตลาดหนึ่งที่เปิดเดือนแรกไม่ค่อยงาม เพราะจำหน่ายได้รวม 1,292 คัน เทียบกับเดือนมกราคม ปี 2560 แล้วติดลบไป 6.1 % อย่างไรก็ตาม เป็นอีกตลาดที่ ฮอนดา กับ โตโยตา ต้องแย่งอันดับ 1 กัน โดยในเดือนแรกนี้อันดับ 1 เป็นของ ฮอนดา ด้วยยอดจำหน่าย 565 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 43.7 % อันดับ 2 โตโยตา 537 คัน ส่วนแบ่งตลาด 41.6 % อันดับ 3 เกีย จำหน่ายได้ 108 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 8.4 % อันดับ 4 ซูซูกิ จำหน่ายได้ 49 คัน ส่วนแบ่งตลาดได้ไป 3.8 % และอันดับ 5 ฮันเด จำหน่ายได้ 26 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.0 % รถยนต์ประเภทอื่นๆ ยกเว้นรถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2561 จำหน่ายได้รวม 2,701 คัน ลดลง 6.2 %เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2561
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/221542