ปิด "ระเบียงรถใหม่" ในเดือนแห่งการชุมนุมรถ เอสยูวี อีกครั้งหนึ่ง ด้วยรถ เอสยูวี ขนาดใหญ่สายพันธุ์วัวกระทิง ซึ่งทำให้จำนวนผู้ผลิตรถยนต์ที่ยังไม่ผลิตรถ เอสยูวี ยิ่งลดน้อยลงไปอีก ทั้งๆ ที่ก็มีน้อยอยู่แล้วในขณะนี้ เท่าที่จำได้ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่ยังไม่ทำรถ เอสยูวี หลงเหลืออยู่ไม่กี่ราย ตัวอย่าง คือ แอสตัน มาร์ทิน (ASTON MARTIN) โรลล์ส-รอยศ์ (ROLLS-ROYCE) แฟร์รารี (FERRARI) โลทัส (LOTUS) และสมาร์ท (SMART) แม้แต่ 3 เจ้าแรก อีกไม่นานก็คงลบชื่อออกได้ เพราะมีข่าวเล่าลือว่ากำลังพัฒนารถประเภทนี้อยู่เหมือนกันลัมโบร์กินี อูรุส (LAMBORGHINI URUS) ซึ่งได้ชื่อรุ่นจากวัวกระทิงเมืองสเปนที่เคยโด่งดังในอดีตเหมือนรถร่วมค่ายรุ่นอื่นๆ เป็นรถ เอสยูวี แบบแรกของค่ายกระทิงดุในช่วงเวลากว่า 2 ทศวรรษ เพราะนับแต่รถ เอสยูวี รุ่นล่าสุดในอดีต คือ ลัมโบร์กินี แอลเอม 002 (LAMBORGHINI LM002) ซึ่งผลิตขายเพียง 328 คัน ในช่วงเวลา 8 ปีที่อยู่ในตลาด (1986-1993) ค่ายนี้ก็ไม่เคยทำรถ เอสยูวี อีกเลย เพิ่งปรากฏตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่โรงงานซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโบโลนญา (BOLOGNA) ของอิตาลี เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2017 พร้อมคำยืนยันสรรพคุณว่า มีดีเอนเอซึ่งบ่งบอกความเป็นรถ ลัมโบร์กินี ที่แท้จริง ทั้งในด้านการออกแบบ สมรรถนะการขับขี่ และการเร้าอารมณ์ของผู้ขับ ผู้โดยสาร รวมทั้งเป็นรถที่ขับใช้งานได้ทุกวัน และในทุกสภาพแวดล้อม ตัวถังที่ออกแบบใหม่ตั้งแต่หัวจรดหาง ใช้พแลทฟอร์มชุดเดียวกันกับรถร่วมเครือหลายรุ่น เช่น เอาดี คิว 7 (AUDI Q7) กับ เบนท์ลีย์ เบนเทย์กา (BENTLEY BENTAYGA) เป็นตัวถังยาว 5.112 ม. กว้าง 2.016 ม. และสูง 1.638 ม. ซึ่งมีช่วงฐานล้อที่ยาวถึง 3.003 ม. หน้าตาและรูปทรงองค์เอวซึ่งเห็นชัดว่าได้รับอิทธิพลเป็นอย่างมากจากรถสปอร์ท ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์ (LAMBORGHINI AVENTADOR) เป็นงานรังสรรค์ชิ้นโบว์แดงของทีมงานซึ่งมี มิทจา โบร์เคิร์ท (MITJA BORKERT) นักออกแบบชาวเยอรมัน วัย 44 ปี เป็นผู้นำ และเป็นตัวถังที่มีน้ำหนักตัวพร้อมขับเบามาก คือ เบากว่า 2,200 กก. ทั้งนี้ เพราะชิ้นส่วนตัวถังหลายชิ้นทำจากวัสดุมวลเบา คือ โพลีเมอร์ เสริมความแข็งแรงด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า CARBON FIBER REINFORCED POLYMER เป็นรถวางเครื่องหน้า/ขับเคลื่อนทุกล้อ ด้วยพลังของเครื่องยนต์ไบเทอร์โบเบนซิน DOHC วี 8 สูบ 90 องศา ความจุ 3,996 ซีซี ที่ค่ายกระทิงดุออกแบบ/พัฒนาขึ้นเองเพื่อใช้กับรถ เอสยูวี รุ่นนี้โดยเฉพาะ ไม่ใช่ได้มาจากต้นสังกัด คือ เอาดี (AUDI) เป็นเครื่องยนต์สมรรถนะสูงซึ่งให้กำลังสูงสุด 478 กิโลวัตต์/650 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 850 นิวตัน-เมตร/86.7 กก.-ม. ที่ 2,250-4,500 รตน. ส่วนอุปกรณ์ส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หลัง คือ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ กับระบบขับทุกล้อ ซึ่งในสภาพปกติจะส่งแรงบิดสู่ล้อหน้า/คู่หลังในอัตรา 40:60 แต่สามารถแปรผันได้สูงสุดจนถึง 70:30 และ 13:87 ขึ้นอยู่กับสภาพการขับและพื้นผิวถนน สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของค่ายกระทิงดุ รถสปอร์ทซึ่งปลอมตัวเป็นรถ เอสยูวี รุ่นนี้ ใช้เวลาแค่ 3.6 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และเพิ่มเป็น 12.8 วินาที ในการทำ 0-200 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุด คือ 305 กม./ชม. อันเป็นตัวเลขที่ยอดผู้ผลิตรถแรงเมืองมะกะโรนีบอกว่า ไม่เคยมีi5 เอสยูวี แบบไหน รุ่นใด ทำได้มาก่อน ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ก็เป็นไปตามธรรมชาติของรถประเภทนี้ เห็นตัวเลขแล้วอาจสะดุดใจนิดหน่อย คือ 12.7 ลิตร/100 กม. หรือ 7.9 กม./ลิตร และ 290 กรัม/กม. ตามลำดับ จะเริ่มการจำหน่ายในฤดูใบไม้ผลิของปีจอไม่จ้อดีกว่า ค่าตัวไม่รวมภาษีของรถที่ซื้อขายกันในอิตาลีอยู่ที่ระดับ 168,852 ยูโร หรือประมาณ 6.75 ล้านบาทไทย และจะเพิ่มเป็น 3,130,000 หยวน หรือประมาณ 16.0 ล้านบาทไทย เมื่อขายในสาธารณรัฐประชาชนจีน