ประสาใจ
สายลับ
เดือนแห่งความรักปีนี้ ผมขอแนะนำหนังสือสักเล่ม "สายลับ" พอคเกทบุคฉบับแปลจากต้นฉบับ "THE SPY" ของ เปาโล เควโล ผู้แปล คือ "ติกขปัญญ์ มณีนุ่ม" จัดพิมพ์และจำหน่ายโดย นานมี บุคสโตร์"สายลับ" เป็นเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ "มาตา ฮารี" ผู้ประพันธ์ COELHO ซึ่งดังมากจากหนังสือของเขาเล่มหนึ่งที่ชื่อ THE ALCHEMIST (ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน) ทำลายสถิติขายได้ถึง 65 ล้านเล่ม เขียนชีวิตของ มาตา ฮารี ในรูปแบบนวนิยาย มาตา ฮารี เป็นชีวิตจริง หากพูดว่าเธอเป็นสายลับ เธอก็เป็นสายลับที่น่าตื่นเต้นกว่านักสืบลับ เจมส์ บอนด์ 007 เพราะ มาตา ฮารี เป็นมนุษย์จริงๆ ไม่ใช่สายลับจินตนาการตามตัวหนังสือ รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของ เรย์มงด์ ปวงคารี-ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส อยู่ในตำแหน่งระหว่าง 18 กุมภาพันธ์ 1913-18 กุมภาพันธ์ 1920 จับกุม มาตา ฮารี ด้วยข้อหาสายลับในปี 1917 และประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน มรณกาลของ มาตา ฮารี จึงมีอายุครบ 100 ปีเมื่อปี 2017 คริสตศักราชที่หนังสือเล่มนี้ออกวางจำหน่าย หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องเล่าจากบันทึกของ มาตา ฮารี ที่เธอเขียนถึงศาสตราจารย์กลูเนต์ ทนายความของเธอในทัณฑสถานหญิงกรุงปารีส เขียนนานถึง 7 วัน ซึ่งเป็น 7 วันสุดท้ายของชีวิต และเมื่อเขียนเสร็จแล้ว ก็ส่งมอบให้ทนายความ วานให้ช่วยส่งต่อถึงลูกสาวคนเดียวของเธอด้วย มาตา ฮารี ถูกนำตัวสู่ลานประหาร ซึ่งโดยปกติทั่วไปนักโทษประหารก็จะได้รับการผูกตาก่อนถูกยิงเป้า แต่ มาตา ฮารี ไม่พึงประสงค์ รวมถึงการผูกมัด เธอยืนจังก้าสายตามองไปยังพลแม่นปืน 12 นาย แถมยังส่งจูบให้คนเหล่านั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน ผมถือว่านวนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายแห่งความรัก ซึ่งความรักของ มาตา ฮารี เริ่มตั้งแต่บรรทัดที่เธอเขียนว่า ท่านศาสตราจารย์กลูเนต์ (ทนายความของเธอ) ทราบดีอยู่แก่ใจว่า ไม่มีพยานหลักฐานใดพอที่จะชี้มูลความผิดฉันได้-เว้นแต่เอกสารอันเป็นเท็จ แต่ถึงอย่างไร ท่านก็คงไม่ยอมเผยกับสาธารณชนว่า ท่านยินดีให้ผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งถูกประหารชีวิต "ผู้หญิงบริสุทธิ์ ?" บางทีมันก็ไม่ใช่คำที่ถูกต้องนะคะ ฉันไม่เคยเป็นหญิงผู้บริสุทธิ์ นับตั้งแต่เหยียบเมืองนี้ (ปารีส) เมืองที่ฉันหลงรักมันล้นเหลือ เช่นนั้นแล้ว มาตา ฮารี เป็นใคร ? เมื่อใดที่สังคมตราหน้าฉันเป็น "ผู้หญิงใจง่าย" พ่อฉันก็จะเขียนหนังสือปกป้อง-เป็นงานที่พ่อไม่เคยทำมาก่อน ฉันรู้สึกสบายตัวในทุกสิ่งที่กระทำ พ่อจะเขียนหนังสือยังไงก็เขียนไป แต่เรื่องที่ฉันสนใจมากหน่อย คือ ข้อเขียนของพ่อเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่า ฉันเป็นนางกะหรี่ และอีตอแหล ก็ใช่นะ ฉันเป็นโสเภณี-หากคำนี้หมายถึง การที่คนใดคนหนึ่งรับไมตรีจิต และเพชรนิลจินดาแลกเปลี่ยนกับความใคร่และความปรารถนา ใช่อีกนั่นแหละ ฉันคืออีตอแหล ชอบหลุดง่ายๆ ชอบลืมคำพูด เอาแต่ "พอ" ไม่เป็น "หยุดไม่ได้" กระทำทุกสิ่งตามแรงผลักดันทางจิต หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองแบบ "องุ่นเปรี้ยว" มาตา ฮารี มีแม่ คำสอนของแม่ที่มีค่ายิ่งต่อชีวิตของเธอ คือ วันที่ฉันอำลาเมืองห่วยแตก แม่เรียกให้ไปรับเมล็ดพันธุ์พืช ฉันถามแม่ว่าเมล็ดพันธุ์พืชอะไร "เมล็ดดอกทิวลิพ มรดกทางวัฒนธรรมของชาติเรา" แม่ตอบ "แต่ที่สำคัญกับลูกก็คือ มันเป็นตัวแทนของความจริงที่ลูกจำเป็นต้องเรียนรู้" "ดอกทิวลิพแม้จะเรียกชื่ออื่นใด มันก็จะเป็นดอกทิวลิพอยู่เสมอ มันไม่เคยกลายพันธุ์เป็นกุหลาบ หรือทานตะวัน ไม่ว่ามันจะอยากมากน้อยเท่าใด มันก็เป็นดอกทิวลิพ เพราะถ้ามันแตกเหล่าแตกกอ มันจะต้องพบชีวิตของมันเป็นความขมขื่นแล้วก็ตาย" "ดังนั้น ลูกต้องเรียนรู้วิถีทางชีวิตอย่างมีความสุข ชีวิตไม่ว่าจะประสบสิ่งใด มันก็เหมือนดอกไม้ ซึ่งเติบโตรับความชื่นชมจากมนุษย์ และเมื่อมันตาย มันก็ทิ้งเมล็ดให้รุ่นต่อไปทำหน้าที่สืบสานงานของพระผู้เป็นเจ้า" "ดอกไม้สอนเราให้รู้จักอนิจจัง ความไม่เที่ยง ไม่ใช่โชว์เพียงความสวยสด และแม้มันหนีความร่วงโรยไม่พ้น แต่มันก็มีเมล็ดสืบพันธุ์" "จำไว้นะลูก ยามใดที่ลูกมีสุข มีเศร้า ความเปลี่ยนแปลงทุกอย่างมันจะผ่านพ้นไปเสมอ ทุกสิ่งมีเกิดย่อมมีแก่ มีตาย แล้วรุ่นใหม่ก็เกิดขึ้นมาแทน" "ต้นไม้ใหญ่โตสูงเสียดฟ้า มันเกิดจากเมล็ดเล็กๆ เหล่านี้ทั้งสิ้น ขอให้ลูกจำไว้ อย่าพยายามกระทำสิ่งใดๆ ด้วยความเร่งรีบ"
ABOUT THE AUTHOR
ข
ข้าวเปลือก
คอลัมน์ Online : ประสาใจ