รู้ลึกเรื่องรถ
ไขปริศนาน้ำมันเครื่อง เรื่องลับของการหล่อลื่น ?
ในโลกธุรกิจนั้นนักการตลาดต้องหาจุดขายใหม่ๆ เพื่อนำเสนอผู้บริโภคตลอดเวลา และเรื่องราวของความลื่น ก็เป็นจุดขายเจ้าปัญหาในปีนี้ได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่อง “กระทะวิเศษ” บแรนด์เกาหลี ที่อวดอ้างสรรพคุณว่าลื่นจนไม่ต้องใช้น้ำมัน ถึงแม้ว่าจะทำได้จริง แต่ก็ขายเกินราคาที่สมควรไปมากล่าสุดก็มีอีกหนึ่งความลื่นที่โด่งดังของสารเติมแต่ง ราคาแพง ที่อ้างว่า เพิ่มสมรรถนะให้เครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 19.5 แรงม้า แถมมีผลทดสอบจากสถาบันชื่อดังยืนยัน หลังจากโฆษณาได้ไม่นาน ผู้ใช้จำนวนหนึ่งก็ออกมาโวยว่า ใช้แล้วเครื่องยนต์เสียหายในระยะเวลาอันสั้น บางรายวิ่งได้เพียง 30 กม. เท่านั้น ก็พบว่าเครื่องยนต์ของตัวเองได้เดินทางกลับบ้านเก่าไปเสียแล้ว และเมื่อเปิดเครื่องยนต์ออกมาดูภายใน พบว่ามีคราบเหนียวเกรอะกรังพื้นผิวภายในเครื่องยนต์ และเพลาราวลิ้น พอลูกค้าทวงถามความรับผิดชอบไปยังผู้ขายและจัดจำหน่าย ก็ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม กรณีนี้ได้มีนักวิชาการ รวมถึงสื่อมวลชนสายยานยนต์ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งค้นหาว่า “องค์ประกอบสาร” ที่เอามาใช้นั้น คือ อะไรกันแน่ โดยสื่อท่านหนึ่งเผยว่า ได้มีการสุ่มเอาสินค้าประเภทเดียวกันในตลาดอีก 2 ยี่ห้อ มาตรวจหาสารประกอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จนพบว่า ทั้ง 3 ยี่ห้อนี้ ใช้สารเคมีชนิดเดียวกัน ทำให้ตระหนักว่า ในวงการ “สารเติมแต่ง” รถยนต์ขณะนี้เกิดอะไรขึ้น จนถึงเวลาที่ “ฟอร์มูลา” ฉบับนี้วางจำหน่าย ไม่ทราบว่าเรื่องนี้จะลงเอยกันอย่างไร แต่ผู้เขียนจะขอนำเสนอเรื่องของความเข้าใจที่ถูก และผิด เกี่ยวกับน้ำมันเครื่อง และสารเติมแต่ง เพื่อให้ผู้อ่านจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของพ่อค้าหัวใสทั้งหลาย จริงๆ แล้ว มีวัสดุและสารหลากหลายประเภทที่นำมาใช้ในการ “ลดแรงเสียดทาน” ระหว่างวัตถุที่เสียดสีกัน ในยุคโบราณเริ่มตั้งแต่การใช้ไขมันจากพืชและสัตว์ นับมาจนถึงสารสังเคราะห์ในยุคปัจจุบัน และการลดแรงเสียดทานก็ไม่จำเป็นต้องใช้ของเหลวเสมอไป เช่น “ผงกราไฟท์” (GRAPHITE POWDER) ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของธาตุคาร์บอนที่มีการเรียงตัวเป็นชั้นๆ เพื่อเป็นสารลดแรงเสียดทานได้ ดังที่เราจะเห็นได้ว่า ในดินสอดำที่เราใช้เขียนนั้นมีความลื่นอยู่ในตัวมันเอง (มักจะใช้เป็นตัวหล่อลื่นในการทำงานของรูกุญแจ เนื่องจากหากฉีดน้ำมันเข้าไปในรูกุญแจ ความหนืดของน้ำมันจะทำให้ฝุ่นผงมาเกาะติดจนเหนียวเหนอะได้) หรือสารโพลีเมอร์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องความลื่นอย่าง PTFE (POLYTETRAFLUOROETHYLENE) ที่รู้จักกันดีในชื่อทางการค้าว่า “เทฟลอน” (TEFLON) ที่ได้รับความนิยมในการนำมาเคลือบกระทะทำอาหาร
- น้ำมันที่มีคุณสมบัติพิเศษในการทนความร้อนภายในห้องเครื่องยนต์ได้ เลยมีศัพท์เฉพาะเรียกว่า “น้ำมันเครื่อง”
- เครื่องยนต์แบบเก่า หรือรถที่ใช้งานมานานแล้ว มักจะใช้งานได้ดีกับ น้ำมันเครื่องที่หนืดมากกว่า
เรื่องโดย : ภัทรกิติ์ โกมลกิติ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2560
คอลัมน์ Online : รู้ลึกเรื่องรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/202181