ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์(formula)
งานใหญ่ส่งท้ายปีทอง
ABOUT THE AUTHOR
ข
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2560
คอลัมน์ Online : ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์(formula)
ขณะที่ “ฟอร์มูลา” ฉบับนี้วางตลาด งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” คงกำลังดำเนินอยู่อย่างคึกคักจนถึงวันที่ 11 ธันวาคมจะไม่ให้คึกคักได้อย่างไร ในเมื่อปีนี้มีผู้ผลิตรถยนต์ จักรยานยนต์ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องที่เชื่อมั่นสภาพเศรษฐกิจ และเชื่อถือมาตรฐานของผู้จัดเข้าร่วมแสดงงานมากมาย โดยแบ่งเป็น รถยนต์ 34 ผู้ผลิต จาก 9 ประเทศ รถจักรยานยนต์ 20 ผู้ผลิต จาก 8 ประเทศ และเครื่องเสียง อุปกรณ์ตกแต่ง ฯลฯ อีกกว่า 300 ราย ที่สำคัญ รถแนวคิด และรถรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในงานเรา ล้วนแต่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับคำขวัญของงานที่ว่า “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” (NEW AGE VEHICLES…A DISTANT DREAM COME TRUE) ทั้งสิ้น นั่นคือ เพียบพร้อมไปด้วยความสวยงาม และสมรรถนะที่ดีเยี่ยม รวมถึงความประหยัด ความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใครที่เติบโตตั้งแต่ก่อนยุคมิลเลเนียม คงทราบดีว่า รถยนต์ในช่วงทศวรรษ 60-90 นั้น ต้องมีคุณสมบัติแบบ “ได้อย่างเสียอย่าง” เสมอ เช่น เครื่องแรง แต่ซดน้ำมันเป็นว่าเล่น หรือช่วงล่างเกาะถนนแน่นหนึบ แต่แข็งกระด้าง นั่งไม่สบายตัว ยังไม่นับการปล่อยมลพิษสู่บรรยากาศอย่างมากมาย ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการก่อปัญหาโลกร้อนที่เรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน แม้คุณทรัมพ์ ณ ยูเอสเอ จะบอกว่าโลกร้อนเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระก็ตาม ขณะที่รถยุคใหม่ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง วิศวกรและผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องอดทนกับการได้อย่างเสียอย่างอีกต่อไป รถที่ทั้งแรง ประหยัด ปลอดภัย ทรงตัวดี นั่งสบาย และปล่อยมลพิษต่ำในคันเดียวมีจริงแล้วครับ แต่ถ้าอยากได้พโรโมชันดีๆ ด้วย ต้องไปซื้อในงานของเราเท่านั้น นอกจากนี้ ผมอยากให้จับตาดูความเคลื่อนไหวของเครื่องยนต์ระบบสันดาปภายใน ซึ่งใครๆ ก็เชื่อว่ากำลังจะถูกแทนที่ด้วยระบบไฟฟ้า แต่บรรดาผู้ผลิตกลับยังคงพัฒนาเครื่องยนต์ที่อยู่กับเรามานับร้อยปีนี้ต่อไป เพื่อให้มีสมารรถนะเพิ่มขึ้น แต่ประหยัด และปล่อยมลพิษน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เหตุที่ให้จับตาดู เพราะผมเชื่อว่า รถเครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังคงมีอนาคตในบ้านเรา และอีกหลายประเทศในโลกไปอีกนานพอสมควร ฉะนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องขีดเส้นตายให้เครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล เพื่อเร่งรัดให้คนไทยหันไปใช้รถพลังไฟฟ้า ในขณะที่องค์ประกอบหลายส่วนยังไม่มีความพร้อมแต่อย่างใด ส่วนเรื่องยอดขายรถในงานนี้ แม้จะยังไม่ทราบ แต่คาดได้ว่าจะมากกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน โดยอนุมานเอาจากตัวเลขยอดขายในตลาดที่อยู่ในแดนบวกมาตลอด จนน่าจะนับว่าเป็นปีทองของตลาดรถเมืองไทยได้ หลังจากที่ลุ่มๆ ดอนๆ ติดต่อกันมาหลายปี สรุปแล้ว “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” เป็นงานใหญ่ส่งท้ายปีทอง ที่ใครยังไปทันขอให้รีบไปนะครับ เพราะถ้าพลาดแล้ว ต้องรอถึงหลังเลือกตั้งปีหน้า (ถ้ามี) กันเลยทีเดียว !
บทความแนะนำ