สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ชาญชัย ตระการอุดมสุข
"มาซดา" ถือเป็นบแรนด์รถยนต์ที่แรงที่สุดในปีนี้ หลังจากที่กล้าลงทุนเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ในประเทศไทย รวมถึงการทุ่มทุนลุยกลยุทธ์การตลาดแบบไม่ยั้ง จนทำให้ปีนี้ถือเป็นปีประวัติศาสตร์ "ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์พิเศษ ชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดฟอร์มูลา : คุณมองภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ไว้อย่างไร ? ชาญชัย : ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงครึ่งปีแรก ตลาดกลับมาคึกคักมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา เห็นได้จากที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายบแรนด์ต่างขับเคลื่อน ด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ การจัดพโรโมชัน เพื่อกระตุ้นความต้องการให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดาวน์น้อย ดอกเบี้ยต่ำ และบำรุงรักษาฟรี จนทำให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือด เข้มข้น ส่งผลให้ตลาดรถยนต์คึกคัก ทำให้ตลาดมีแนวโน้มการขยับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ ตลาดรถยนต์โดยรวมมียอดขายอยู่ที่ 410,00 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 11 % เมื่อเทียบกับยอดขายโดยรวมกับปีที่ผ่านมา 368,630 คัน ทำให้ มาซดา คาดว่ายอดขายโดยรวมปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นถึง 820,000 คัน หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 7-10 % สำหรับ มาซดา ได้มีการปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นอีก 1,000 คัน จากเดิมเมื่อต้นปี ตั้งเป้ายอดขายโดยรวมไว้ที่ 50,000 คัน แต่หลังจากผ่านไป 6 เดือน ยอดขายปรับขึ้นเป็น 51,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้น ปี 2559 จาก 18 เป็น 20 % ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6 % โดยปี 2559 มาซดา มียอดขายประมาณ 42,537 คัน มาซดา มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 5.5 % จากยอดขายโดยรวม 51,000 คัน แบ่งออกเป็น มาซดา 2 จำนวน 27,500 คัน มาซดา 3 จำนวน 5,500 คัน มาซดา ซีเอกซ์-3 จำนวน 6,000 คัน มาซดา ซีเอกซ์-5 จำนวน 4,500 คัน และพิคอัพ บีที-50 พโร จำนวน 7,500 คัน ฟอร์มูลา : สำหรับรถยนต์ มาซดา 6 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ? ชาญชัย : 6 เดือนที่ผ่านมา มาซดา ได้แนะนำรถยนต์ใหม่ออกสู่ตลาด 4 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ทำให้ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายครึ่งปีแรกของ มาซดา ทะลุ 23,893 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 13 % นำโดย มาซดา 2 ซิทีคาร์ขวัญใจวัยรุ่น ที่มียอดขายพุ่งถึง 14,284 คัน ตามมาด้วยพิคอัพ มาซดา บีที-50 พโร 3,099 คัน มาซดา 3 จำนวน 2,677 คัน มาซดา ซีเอกซ์-3 จำนวน 2,219 คัน มาซดา ซีเอกซ์-5 จำนวน 1,604 คัน และสปอร์ทโรดสเตอร์ มาซดา เอมเอกซ์-5 จำนวน 10 คัน ครองอันดับ 3 ตลาดรถยนต์นั่งไว้อย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทย เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งมาจากหลายปัจจัย เช่น การส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ มีทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกข้าว และสินค้าทางการเกษตรอื่นๆ การเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการ มาตรการของภาครัฐที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร อาทิ การส่งเสริมให้ใช้นวัตกรรมแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า มาตรการส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม หรือ SME การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผนวกกับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งประชาชนภายในประเทศยังคงมีความต้องการสินค้าอุปโภค-บริโภค โดยเฉพาะรถยนต์ที่กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินชีวิต ฟอร์มูลา : จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น มาซดา เตรียมแผนรองรับไว้อย่างไรบ้าง ? ชาญชัย : นอกจากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาซดา ยังมุ่งมั่นในการปรับภาพลักษณ์และการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ภายใต้คอนเซพท์ใหม่ MAZDA CORPORATE IDENTITY เพื่อยกระดับบแรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า เมื่อได้สัมผัสความเป็น มาซดา ซึ่งในปัจจุบันมีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการทั้งหมด 147 แห่ง ซึ่งจะปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 และเตรียมขยายเพิ่มอีก 20 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ มาซดา ยังเน้นการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ทั้งด้านการขายและการบริการ โดยจะติดตามผลการประเมินความพึงพอใจอย่างใกล้ชิด รวมถึงยังมีการพัฒนาคุณภาพฝีมือช่างบริการให้ก้าวทันเทคโนโลยีใหม่อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงยังได้มีการจัดแข่งขันทักษะช่างเทคนิค และการบริการ เพื่อพัฒนามาตรฐานคุณภาพของบริการหลังการขายทุกปีอย่างต่อเนื่อง ฟอร์มูลา : คุณมองว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์จะทวีความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ และมาซดา วางแผนรองรับการแข่งขันไว้อย่างไร ? ชาญชัย : บริษัทฯ มองว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มฟื้นตัว โดยวัดผลจากการส่งออกที่เริ่มมีการขยายตัวตั้งแต่ปลายปี 2559 ต่อเนื่องมาถึงช่วงปี 2560 และคาดว่าจะมีการขยายตัวต่อในช่วงครึ่งปีหลัง เช่นเดียวกับการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ที่เริ่มฟื้นตัวตามสภาวะการส่งออก ประกอบกับราคาสินค้าเกษตร มีราคาขยับขึ้น ผู้บริโภคจึงมีรายได้ในการจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือนมากขึ้น มีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจไทยตลอดปี 2560 ขยายตัวได้ประมาณ 3.5 % ซึ่งจะสูงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยตลาดรถยนต์คือหนึ่งในปัจจัยหลักสำคัญที่ชี้วัดตัวเลขทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี คาดการณ์ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์คงจะเข้มข้นมากขึ้น เพราะแต่ละค่ายต้องเร่งแนะนำรถรุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน สำหรับ มาซดา ได้เตรียมกลยุทธ์หลักที่จะผลักดันให้ก้าวสู่ความสำเร็จ เพื่อบรรลุเป้าหมายในช่วงครึ่งปีหลังไว้หลายปัจจัย ประกอบด้วย 1. การนำเสนอรถรุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่ง 1 ใน 2 คือ มาซดา ซีเอกซ์-5 เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพิ่มทางเลือกให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น 2. การขยายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ ภายใต้คอนเซพท์ MAZDA CORPORATE IDENTITY ที่ตั้งอยู่บนแนวคิดหลัก 3 ประการ คือ สะท้อนภาพลักษณ์ของบแรนด์ สร้างคุณค่าทางอารมณ์ให้กับรถยนต์ มาซดา และสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างบแรนด์และลูกค้า ตั้งแต่ก้าวแรก พร้อมการเปลี่ยนแปลงที่ลูกค้าสัมผัสได้ รวมไปถึงการวางระบบบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพกับ MAZDA ACTIVE SERVICE ที่มาพร้อมกับการสร้างความพึงพอใจด้านความสะดวกสบาย คือ การบริการศูนย์ซ่อมสีและตัวถังแบบครบวงจร ห้องรับรองลูกค้าที่อบอุ่น หรูหรา ช่องทางพิเศษการให้บริการแบบเร่งด่วนไม่เกิน 2 ชม. FAST ที่จัดเตรียมสำรองอะไหล่ที่จำเป็น การอนุมัติงานซ่อมแบบเร่งด่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุ การจัดส่งอะไหล่ที่รวดเร็ว และตลอด 24 ชั่วโมง ที่สร้างมาตรฐานและประสิทธิภาพเดียวกันทุกโชว์รูม พร้อมกับราคาที่สบายกระเป๋า และโปร่งใส ทั้งราคาอะไหล่แต่ละชิ้นต้องมีการประกาศให้ลูกค้ารับทราบ ราคาค่าแรงในการให้บริการ ราคาค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง และราคาที่สามารถเปรียบเทียบกับตลาดได้ 3. หลังจากการปรับภาพลักษณ์ ยกระดับมาตรฐานใหม่ของการให้บริการ สิ่งที่ต้องเดินหน้าเต็มกำลัง คือ สื่อสารทางการตลาด สร้างการรับรู้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในบแรนด์ พร้อมแสดงศักยภาพในด้านการบริการหลังการขาย นำเสนอการบริการที่ดีที่สุดเกินความคาดหมาย ทั้งด้านคุณภาพ และประสิทธิภาพ 4. เพิ่มช่องทางการสื่อสารแก่ลูกค้าให้มากขึ้นด้วยพโรแกรม CUSTOMER CARE MENU ผ่านเวบไซท์ www.mazda.co.th เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลกับลูกค้าในทุกเรื่องราวที่เป็นประโยชน์สูงสุด 5. การเพิ่มโอกาสให้เป็นเจ้าของรถได้ง่ายยิ่งขึ้น คือ การจัดแคมเปญพโรโมชัน ที่จัดอย่างต่อเนื่อง เช่นจัดแคมเปญพิเศษ MAZDA SKYACTIV CELEBRATION 100,000+ ขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นในเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ มากกว่า 100,000 คัน ที่นอกจากจะมีพโรโมชันพิเศษแล้ว พร้อมลุ้นเป็นผู้โชคดีรับบัตรกำนัลมูลค่า 100,000 บาท รวม 20 รางวัล ระหว่างวันที่ 8-27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา 6. ความปลอดภัยในการขับขี่สำหรับลูกค้าที่ใช้รถ มาซดา ทุกรุ่น ด้วยการเข้ารับบริการตรวจเชครถฟรี 20 รายการ และตรวจเชครถด้วยระบบคอมพิวเตอร์ MAZDA MODULAR DIAGNOSTIC SYSTEM (M-MDS) ที่ละเอียดแม่นยำ พร้อมรับส่วนลดค่าอะไหล่ ผ้าเบรค ชอคอับ ยางหุ้มเพลาขับ สายพานขับ สูงสุด 40 % เปลี่ยนยางราคาเริ่มต้นเพียง 2,300 บาท/เส้น แถมฟรี ยางปัดน้ำฝน 1 คู่ แบทเตอรีราคาเริ่มต้น 1,700 บาท ตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา 7. มาซดา จัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดพิเศษ ที่จะถ่ายทอดและแบ่งปันเรื่องราวความประทับใจ และประการณ์จริงจากลูกค้าที่ใช้งาน ที่จะเป็นการตลาดแบบ WORDS OF MOUTH หรือการบอกต่อปากต่อปากโดยผู้มีประสบการณ์จริง มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในยุคของการสื่อสารในปัจจุบัน ถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้สึก ผ่านการเขียนรีวิว หรือแชร์ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะโลกการสื่อสารของผู้คนในสังคมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยผ่านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย 8. อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้สัมผัสกับตัวตนของบแรนด์ มาซดา คือ การออกบูธจัดแสดงรถยนต์ในพื้นที่ต่างๆ หรือ ROAD SHOW ที่เปรียบเหมือนการเดินเข้าไปหาลูกค้าถึงหน้าบ้าน เจาะกลุ่มลูกค้าแต่ละพื้นที่ จะมีความแตกต่างด้วยวิถีชีวิต รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า เดินหน้าจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีรูปแบบของกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม เสริมสร้างบแรนด์ ภาพลักษณ์ให้แข็งแกร่ง ตรงใจลูกค้าจะทำให้ มาซดา เติบโตอย่างยั่งยืนเช่นกัน ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าความสำเร็จของ มาซดา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นจากสิ่งใด ? ชาญชัย : ที่ผ่านมา มาซดา พยายามสร้างความแตกต่าง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สร้างความมั่นใจและความประทับใจด้วยการปรับปรุงการให้บริการ นอกจากนี้ด้วยความเอื้อของโครงสร้างองค์กรต่อการทำงาน มีเอกลักษณ์ ทำงานร่วมกันกับซัพพลายเออร์ และดีเลอร์ สร้างสิ่งแตกต่างของบแรนด์ พร้อมการลงทุนเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง จนทำให้บริษัทแม่มั่นใจในศักยภาพและความสำคัญของประเทศไทย นับจนวันนี้มียอดขายอันดับ 1 ในอาเซียน
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2560
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/197112