พิเศษ
ลุยป่า หน้าฝน เสริมอะไร ถึงไปรอด !
การขับรถ 4x4 เข้าป่าหน้าฝน ถือเป็นความท้าทายที่วัดใจทั้งคนและรถ สำหรับใครที่ดูแลตัวเองดี ก็หายห่วงไปได้เปลาะหนึ่ง แต่รถคันเก่งของคุณนี่สิ "เฟิร์ม" พอหรือเปล่า เพราะโจทย์ของเรื่องนี้อยู่ที่ "ธรรมชาติ" เราไม่สามารถคาดเดาได้ ว่าสภาพเส้นทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ดังนั้นสิ่งเดียวที่ทำได้ คือ รถต้องพร้อม เพื่อรับกับสถานการณ์อันเลวร้ายที่สุดบางคนเข้าใจผิด ว่าต้องแต่งรถให้เต็มสูตร มีอะไรใส่ไปให้หมด แบบนี้นอกจากหนักและเกะกะแล้ว ยังเป็น "ภาระ" เวลาเข้าป่าอีกด้วย ฉะนั้นแต่งให้น้อยเข้าไว้เป็นดีที่สุด เรายังยืนยันว่า เทคนิค และฝีมือ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ถึงอย่างไร รถที่พร้อมกว่า โอกาสรอดก็มากกว่า ดังนั้นสิ่งที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ คือ ของจำเป็นที่ถือเป็นตัวช่วยตัวจริง ให้คุณเที่ยวป่าหน้าฝน ได้ง่ายขึ้น
1. ยางมัด เทอร์เรน
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า มัด เทอร์เรน (MUD TERRAIN) หรือ MT เป็นยางที่เหมาะกับการลุยน้ำ ลุยโคลน ลักษณะดอกยางเป็นบั้งใหญ่ มีร่องกว้าง เพราะต้องการให้สามารถสลัดดินโคลนออกจากหน้ายางได้ง่าย มีร่องดอกยางขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาสำหรับการตะกุย เพื่อให้เกิดการยึดเกาะพื้นผิวในเส้นทางทุรกันดาร โดยเฉพาะทางโคลนได้ดีกว่า แต่ประสิทธิภาพการยึดเกาะบนถนนลาดยาง หรือทางคอนกรีท คงต้องทำใจ เพราะลักษณะดอกยางเป็นตัวกำหนด ทำให้ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้ ราคาอาจแพงกว่ายางออลล์ เทอร์เรน (ALL TERRAIN) หรือ AT ประมาณ 20-30 %2. วินช์
วินช์ มีไว้เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ติดหล่ม หรือเส้นทางที่ลื่นเป็นดินหนังหมู ใช้เกี่ยวกับต้นไม้ที่มั่นคง หรือรถของเพื่อนร่วมทาง เพื่อช่วยให้หลุดจากอุปสรรค วินช์สมัยก่อนเป็นแบบเพลา ที่ต่อจากเสื้อเพลาของรถยนต์ และส่งต่อกำลังให้กับวินช์แบบรถ จีพ โบราณหน้ากบ ปัจจุบันนิยมใช้เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งมีทั้ง 12 และ 24 โวลท์ โดยมีราคาเริ่มตั้งแต่หลักพัน ไปถึงหลายหมื่นบาท ตามพละกำลัง และชื่อชั้นของบแรนด์ แต่การติดตั้งวินช์ ยังต้องมีองค์ประกอบต่างๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งถาด หรือกันชน ที่ใช้กับวินช์ ซึ่งมีผลต่อน้ำหนักรถช่วงหน้า จะทำให้หน้ารถยุบลงไปอีกเยอะ จนต้องเซทช่วงล่างกันใหม่ เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกหลายบาท3. ไฟตัดหมอก
เวลาใดที่ฝนตก การมองเห็นของเราจะด้อยประสิทธิภาพลงอย่างชัดเจน ปัญหานี้ ถ้าติดตั้งไฟตัดหมอกจะช่วยได้มาก เพราะแสงที่สว่างจ้า แถมมีสีออกโทนเหลืองมากกว่าไฟหน้า ช่วยให้แสงที่ตกกระทบวัตถุ สะท้อนกลับมาเข้าตาเราได้มากขึ้น จึงสามารถเห็นทางได้ชัดเจน ทัศนวิสัยดีขึ้นเห็นๆ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นแบบหลอดแอลอีดี มีความสว่างมากกว่าหลอดไส้แบบฮาโลเจน แต่กินไฟน้อยกว่ามาก ราคาก็เริ่มที่หลักร้อยบาท (ของจีน) ไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และชื่อชั้น4. สนอร์เคิล
เข้าป่าหน้าฝน ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้บ้าง เพราะเราคาดการณ์ไม่ได้ว่าเมื่อไรฝนจะตก พายุจะเข้า และน้ำป่าจะไหลหลาก ทำให้น้ำท่วมสูงเกินกว่าระดับฝากระโปรง ซึ่งถ้าหากน้ำเข้ากรองอากาศในห้องเครื่องได้ เครื่องก็ต้องดับแน่ๆ ฉะนั้นการต่อท่อหายใจ (อากาศ) ขึ้นไปไว้บนที่สูงในระดับหลังคารถ หรือที่เรานิยมเรียกว่า สนอร์เคิล จึงเป็นตัวช่วยที่ดีมาก สนอร์เคิลในตลาดนั้น มีทั้งของบ้านเราทำเอง ราคาของไทยอยู่ที่ 4,000-10,000 บาท และของนอกราคา 10,000-30,000 บาท5. ไฮ-ลิฟท์ แจค
ถึงจะเรียกว่า แม่แรง แต่การทำงานของไฮ-ลิฟท์ แจคก็ไม่เหมือนกับแม่แรงทั่วไปที่ใช้ระบบไฮดรอลิค หรือแบบหมุนเกลียว เพราะไฮ-ลิฟท์ แจคจะทำงานด้วยหลักของคานดีดคานงัด และมีสปริงเป็นตัวลอค และที่เรียกกันว่า ไฮ-ลิฟท์ แจค ก็เพราะยกได้สูง เริ่มต้นที่ 48 และ 60 นิ้ว ต่างจากแม่แรงติดรถที่ยกสูงได้ไม่กี่นิ้ว ยกอย่างไรก็ไม่ช่วยให้หลุดจากปลักโคลนไป แถมยังต้องเปลืองแรง และเวลามากกว่าไฮ-ลิฟท์ แจคเยอะ เวลาเข้าป่าแล้วตกลงไปในหลุมปลักขนาดใหญ่ ดิ้นปั่นล้อจนแน่ใจว่าหมดหนทางแล้ว ถ้ามีวินช์ติดมาก็โชคดีไป แต่บางครั้งคนเราก็อาจโชคร้ายกำลังสอง เพราะหาหลักเกี่ยววินช์ไม่ได้ งานนี้ ไฮ-ลิฟท์ แจคเลยได้โอกาสรับบทพระเอกไปเต็มๆ นอกจากยกรถแล้ว ไฮ-ลิฟท์ แจคยังใช้งานได้อเนกประสงค์ ไม่ว่าจะใช้แทนวินช์ด้วย การเพิ่มอุปกรณ์เสริมอย่าง เชือก โซ่ หรือสลิงเข้าไป โดยทำเป็นห่วงคล้องเข้าที่ฐานไฮ-ลิฟท์ แจค และอีกด้านคล้องกับต้นไม้ ส่วนอีกด้านคล้องกับตัวยกของไฮ-ลิฟท์ แจค โดยที่ปลายยึดกับตัวรถ จากนั้นโยกกลับมา เพื่อลดระยะจากปลายทั้ง 2 ด้าน ตัวรถก็จะเคลื่อนจากหล่มได้ ราคาตัวละประมาณ 4,000-5,000 บาท มือสองเหลือตัวละ 1,000 กว่าบาท6. น้ำยาไล่ความชื้น
เหมาะสำหรับคนใช้เครื่องยนต์เบนซิน ใครที่เคยขับรถลุยน้ำแล้วดับคงเข้าใจดี เพราะคุณต้องเปิดประตูออกมาจนน้ำทะลักเข้ารถ เดินลุยน้ำท่วม ทิ้งรถไว้ รอให้น้ำลด แล้วให้ช่างมาตรวจสอบ สาเหตุเกือบร้อยทั้งร้อยเกิดจากการลัดวงจรของระบบไฟจุดระเบิด ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการฉีดน้ำยาอเนกประสงค์ (ครอบจักรวาล) ยี่ห้ออะไรก็ได้ ฉีดทิ้งไว้ในอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น คอยล์ จานจ่าย สายหัวเทียน และกล่องควบคุมอีเลคทรอนิคส์ รวมทั้งจุดเชื่อมสายไฟต่างๆ ช่วยลดการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ หากเครื่องยนต์ดับ ให้ลากรถไปจอดในที่แห้ง และใช้สเปรย์ฉีดไล่ความชื้นบริเวณขั้วปลั๊กต่างๆ ถอดปลั๊กคอยล์ หรือจานจ่ายออกมา ใช้กระดาษทิชชูซับน้ำออก แล้วฉีดน้ำยาบริเวณที่เกี่ยวข้อง ทิ้งไว้สักครู่ ประกอบกลับเข้าไปตามเดิม สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้7. กันสาด
ข้อนี้ไม่สำคัญกับระบบกลไกของรถขับเคลื่อน 4 ล้อเลย แต่ถ้าฝนตก เราคงไม่ติดเครื่องเปิดแอร์ให้เปลืองน้ำมันเป็นแน่ ทีนี้จะเปิดกระจกก็ไม่ได้ ปิดกระจกก็อึดอัด แถมฝ้าขึ้นอีกต่างหาก กันสาดพลาสติคราคาคู่ละ 1,000 กว่าบาทนี่แหละ ช่วยเราได้ มันช่วยให้คุณไม่ต้องปิดกระจกขึ้นทั้งหมด เพียงแค่เปิดแง้มไว้สักนิ้วสองนิ้ว ก็เพียงพอต่อการหายใจเวลานั่งแกร่วอยู่ในรถ ตอนฝนตกหนักกลางป่า 8. ใบปัดน้ำฝน รถคันไหนๆ ก็มีใบปัดน้ำฝนกันทั้งนั้น แต่เวลาที่คุณขับรถเข้าป่าหน้าฝน แน่นอนอยู่แล้วว่า จะต้องมีละอองโคลนจากรถเรา หรือรถคันหน้ากระเด็ดมาติดอยู่เสมอ แล้วก็ต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนปัดออกเพราะมองไม่เห็นทาง ตอนนี้เองที่คราบเกล็ดหยาบในโคลน ที่ฉาบอยู่บนกระจกจะทำลายความเรียบของยางใบปัดน้ำฝน ทำให้การปัดครั้งต่อๆ ไป ของคุณไม่เกลี้ยง เผื่อไว้อีกสักชุดก็ไม่เสียหายหรอกครับ คู่ละ 100 บาทเท่านั้นก็ใช้ได้แล้ว9. ผ้ายางกันฝน
บางคนเตรียมอุปกรณ์ไว้ครบครัน แต่ดันลืมผ้ายางคลุมสิ่งของกันฝนเสียได้ เรื่องง่ายๆ ที่มักคิดกันเป็นลำดับสุดท้าย และมักลืมเสียทุกที (เพราะตอนขับรถออกจากบ้าน ฝนมันไม่ตก) ไม่ว่าจะบรรทุกไว้บนแรคหลังคา หรือใส่ไว้กระบะท้าย ราคาไม่กี่ร้อยบาทABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการบทความและสารคดี 4wheels
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2560
คอลัมน์ Online : พิเศษ(4wheels)