มุมมองนักออกแบบ
มาซดา 3 สกายแอคทีฟ
แล้วก็ถึงคิวของ มาซดา 3 เจเนอเรชัน 3 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟอันลือลั่นเช่นเดียวกับ มาซดา ซีเอกซ์ 5 เอสยูวีตัวเจ็บที่ออกมาก่อนหน้า โดย มาซดา 3 รุ่นล่าสุดนี้ พัฒนาขึ้นโดยมีจุดหมายให้เป็นรถที่เกินความคาดหวังของลูกค้า เกิดความประทับใจเมื่อแรกเห็นและเมื่อได้สัมผัส พร้อมใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรถกับผู้ขับ เพื่อให้เข้าถึงและตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบถ้วน แต่ทั้งหมดนี้จะประทับใจทีมนักออกแบบของเราหรือไม่ ติดตามได้ต่อไปนี้
ภัทรกิติ์ : สำหรับกลุ่ม ซี-เซกเมนท์ ของบ้านเราขณะนี้ มาซดา 3 น่าจะเรียกว่า "ฮอท" ที่สุด ภายนอก ภายใน ใหม่หมด จัดหนักมาก ให้ของซึ่งไม่เคยอยู่ในรถเซกเมนท์นี้มาก่อน อาทิ ชุดเครื่องเสียงบแรนด์ดัง เครื่องยนต์เทคโนโลยี "สกายแอคทีฟ จี" ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่มีอัตราส่วนกำลังกำลังอัดสูงถึง 14:1 นำมาซึ่งประโยชน์ต่างๆ อาทิ อัตราสิ้นเปลืองต่ำ แต่กลับให้พลังงานสูงเยอะ, มีการใช้จอแบบเดียวกับรถบแรนด์เยอรมนี ดูเท่ดี ในอดีตจอแบบนี้มันจะหลบอยู่โดยมีแผงบัง แต่ปัจจุบันไม่ต้องหลบตั้งโชว์ได้ เพราะไม่กลัวแสงแล้ว เป็นต้น
อภิชาต : ผมมีโอกาสได้ไปร่วมงานเปิดตัวแนวคิด โคโดะ ดีไซจ์น กับทาง มาซดา ก่อนหน้านี้ ทำให้พอทราบคร่าวๆ เกี่ยวกับทีมาทีไปของแนวคิด
การออกแบบที่ต้องการให้ตัวรถดูเคลื่อนไหวในลักษณะที่รวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะดูตอนที่วิ่งหรือจอด นั่นคือ คีย์เวิร์ดของการออกแบบบแรนด์ มาซดา ในอนาคต ตามรอยรถต้นแบบ ชินาริ (SHINARI) ซึ่งเป็นแนวทางของ K. IKUO MAEDA (GENERAL MANAGER OF DESIGN DIVISION ) ที่เคยได้เดินทางมาพรีเซนท์ แนวทางการออกแบบที่เมืองไทยแล้วครั้งหนึ่ง
โดยรวมผมถือว่าเป็นการออกแบบที่เน้นเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ด้านข้าง ที่บริเวณแก้มทั้งด้านหน้าและหลังให้มีจังหวะพื้นผิวสูงขึ้น พร้อมดึงจังหวะเส้นด้านท้ายให้สูงขึ้นเปรียบเหมือนลักษณะมัดกล้ามเนื้อของ เสือซีตาร์ ที่กำลังจ้องตะครุบเหยื่อ โดยมันจะบีบกระชับกล้ามเนื้อที่มันจะใช้ในการวิ่งจับเหยื่อ พร้อมวางตำแหน่งลำตัวของมันให้มีแนวมุมด้านหัวที่ต่ำกว่าด้านท้าย และนี่คือ โคโดะ ดีไซจ์น ที่นำมาใช้เป็นแนวทางการออกแบบของ มาซดา
ภัทรกิติ์ : ผมชอบ ซีดาน เพราะลักษณะการลากเส้นสายหัวท้ายมันดูสมดุลหัวท้ายดี นี่คือ ฟอร์มของรถที่แตกต่างจาก โตโยตา และ ฮอนดา โดยสิ้นเชิง ดูความยาวฝากระโปรงก็รู้แล้ว รูปร่างไม่เหมือนกัน นี่เป็นทรงคลาสสิค กระจกหน้าอยู่ห่างมาก ฝากระโปรงสั้น จริงๆ แล้วรถคันนี้เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า แต่รูปทรงกระจกด้านหน้าจะสั้นกว่าชาวบ้าน กระจกตั้งขึ้นมาก ไม่ได้ลาดยาว โอเวอร์แฮงยาวมาก เขาพยายามทำให้ดูเหมือนเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ดูพรีเมียมมากกว่า
รถคันนี้คุณจะอยากได้มันมาก ถวิลหาอยากนั่งในรถ รูปลักษณ์ภายนอกเซกซีมาก แสงเงาดูตรง ให้ความรู้สึกเหมือนเคลื่อนไหวทั้งๆ ที่จอดอยู่กับที่ กระจังหน้าที่ดูทรงพลัง รถคันนี้สื่อสารให้เรารู้สึกสนุก สะใจ สารพัด บุคลิกดูเป็นพเลย์บอย
อภิชาต : รถยนต์คันนี้กลับเข้าสู่การแข่งขันได้อย่างสวยงาม จุดที่ทำให้รถยนต์แต่ละรุ่นมีความแตกต่าง คือ การออกแบบกระจังหน้าที่มีลักษณะโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง มาซดา 3 คันนี้ ผมประทับใจกับกระจังหน้า โดยเฉพาะขอบที่มีงานโครเมียมเข้ามาแทรก ทำให้ด้านข้างดูเปล่งประกาย เวลาแสงตกกระทบ นี่คือ จุดขายอีกจุดที่ ลูกค้า มาซดา ชื่นชอบ
สำหรับราคาที่เปิดออกมาน่าจะเป็นตัวบ่งบอกถึงกลุ่มลูกค้า และมันต้องขับเคี่ยวกับคู่แข่งตัวฉกาจทั้ง โตโยตา นิสสัน ฮอนดา แต่ถ้าจะซื้อ มาซดา 3 ต้องเป็นคนชื่นชมความเป็น สปอร์ท และความเร็ว
ภัทรกิติ์ : มาซดา 3 ยกระดับการแข่งขันขึ้นไปอีกขั้น เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบรถที่มีบุคลิกความเป็นสปอร์ทในตัวเอง โดยพยายามยกระดับขึ้นไปเทียบชั้นรถยุโรป ไม่รู้ว่าจะเทียบได้จริงหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าเขาพยายามทำเช่นนั้น
ฟอร์มูลา : การออกแบบในห้องโดยสารเป็นอย่างไร
อภิชาต : แค่มีปุ่มบังคับระบบเอวีที่คอนโซลกลาง ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นยุโรป เพราะของแท้เช่นค่าย บีเอมดับเบิลยู ได้รับการยอมรับจากนิตยสารฝั่งสหรัฐอเมริกาว่าเป็นระบบที่วาง "SEQUENT INTERFACE" ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเปรียบเทียบกับรถบแรนด์อื่นที่มีระบบนี้ เนื่องจากการออกแบบปุ่ม I-DRIVE ที่สมบูรณ์ต้องมากับการออกแบบการเชื่อมต่อที่ใช้ง่าย และไม่ทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสนเวลาใช้งาน แต่ดูแล้วของ มาซดา น่าจะช่วยเรื่องจิตวิทยาในการขายมากกว่า
ภัทรกิติ์ : ห้องโดยสารออกแบบให้กระชับมากขึ้น แต่ผมนั่งเบาะหลังแล้วศีรษะติดหลังคา
อภิชาต : เป็นปัญหามาตลอดที่เราต้องออกแบบรถที่ต้องการสัดส่วนแบบสปอร์ท แต่ต้องคำนึงถึงผู้โดยสารตำแหน่ง 3 กับ 4 ที่ต้องนั่งสบายด้วย และส่วนใหญ่มักเจอปัญหาพื้นที่บริเวณศีรษะอยู่ต่ำเกินไป คนที่สูงเกิน 170 ซม. จะรู้สึกอึดอัด
ภัทรกิติ์ : คาแรคเตอร์ความเป็นสปอร์ทอยู่ตรงมาตรวัดรอบอยู่ตรงกลางนี่ล่ะครับ รถยนต์ที่มาตรวัดรอบอยู่ตรงกลางนี่การันตีในเรื่องสมรรถนะ หลายคนถามว่า การทำให้มาตรวัดความเร็วไม่อยู่ตรงกลาง รถที่มาตรวัดความเร็วอยู่ตรงกลาง คือ รถสำหรับแม่บ้าน จะได้ไม่ขับเร็วเกินไป รถ "ซิ่ง" จริงเขาจะไม่สนใจความเร็ว เขาจะสนใจที่เครื่องจะพังหรือเปล่า ซึ่งต้องดูที่วัดรอบ บุคลิกมันบอกมาอย่างนั้นเลย สำหรับยุคนี้รถญี่ปุ่น สวย แซ่บ เวอร์ สำหรับ พเลย์บอย และพเลย์เกิร์ล ต้องคันนี้
อภิชาต : อย่าลืมว่า มาซดา เจน 1.2 รหัส พโรเจคท์ ซี 1 ซึ่งเป็นการร่วมกันทำรถที่มีขนาดเท่ากันระหว่างค่าย มาซดา, ฟอร์ด และ โวลโว ซึ่งเป็นเรื่องที่เราเข้าใจในแง่การทำธุรกิจ แต่ตอนนี้ มาซดา 3 ที่พูดถึงนี้ไม่ได้อยู่ในโครงการนี้แล้ว ดังนั้นการออกแบบของทางวิศวกรรมยานยนต์ และการออกแบบรูปทรงจึงเป็นการสร้างสรรค์ใหม่เกือบทั้งหมด ถ้า มาซดา ได้รับการยอมรับจากลูกค้าอีกครั้ง ก็ต้องปรบมือให้เลยทีเดียว
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2557
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/17518