ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34" เปิดเผยว่า เป็นที่รู้กันดีว่า ยอดขายรถยนต์บ้านเราในปี 2559 ติดลบ 3.9 % ขณะที่ยอดจองรถในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33” ก็ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่ปีใหม่ จนจบไตรมาสแรก จากการได้พูดคุยกับผู้บริหารบริษัทรถยนต์เกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดในปีนี้ยังเชื่อมั่นว่า ต้องดีกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะบริษัทรถยนต์ที่คาดการณ์เช่นนั้น ยังรวมถึงภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งสภาอุตสาหกรรม และศูนย์วิจัยกสิกรไทย ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดขายรถยนต์ปีนี้จะเพิ่มขึ้น"ผมเองก็เชื่อว่า ตลาดรถยนต์บ้านเราปีนี้จะสดใสเหมือนฟ้าหลังฝน แต่จะดีขึ้น 5-7 หรือ 10 % ตอนนี้อาจยังเร็วไปที่จะฟันธง ต้องรอดูผลช่วงครึ่งปีแรกกันก่อน" สำหรับปัจจัยบวกที่จะทำให้ตลาดขยายตัว มีทั้งปัจจัยทางอ้อมอย่างการที่ราคาสินค้าเกษตรหลายตัวราคาดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นคึกคัก เกิดการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าต่างๆ รวมถึงรถยนต์คันใหม่ และการที่ภาครัฐเริ่มเดินหน้าโครงการสาธารณูปโภคอย่างเต็มตัว ช่วยให้เม็ดเงินหมุนเวียนคล่องตัว และผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น "ส่วนปัจจัยทางตรง ก็คือ การสิ้นสุดเงื่อนไขครอบครอง 5 ปี ของผู้เข้าร่วมโครงการรถคันแรก ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ยังไม่ส่งผลต่อตลาด เนื่องจากเป็นช่วงทุกข์ระทมของคนไทยทั้งประเทศพอดี แต่พอมาปีนี้ เจ้าของรถคันแรกที่พ้นเงื่อนไข จะมองหารถใหม่กันอย่างจริงจัง ตลอด 12 เดือนเต็ม เพราะรถคันแรกซึ่งเป็นรถเล็กราคาถูก จะเริ่มมีปัญหาจุกจิกกวนใจ รวมถึงมีรถรุ่นใหม่ๆ ในตลาดที่เทคโนโลยีทันสมัย และสวยงามเย้ายวนใจมากมาย" ขวัญชัย เผยอีกว่า "เรื่องนี้เป็นปัจจัยที่สำคัญ การที่ตลาดมีรถให้เลือกหลากประเภท และหลายระดับราคา ทำให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถเลือกซื้อได้ตามกำลัง และความจำเป็นในการใช้งานของตนเองอย่างไม่มีข้อจำกัด" ส่วนปัจจัยลบ ขวัญชัย กล่าวว่า "หลายคนกังวลไปถึงนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของ โดนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีป้ายแดงของสหรัฐอเมริกา ว่าจะส่งผลกระทบถึงตลาดส่งออกรถยนต์ของประเทศไทยอย่างไร แต่ผมมองว่าไม่ใช่ประเด็นที่ต้องวิตกทุกข์ร้อน เพราะยังเป็นเรื่องไกลตัว และเป็นไปไม่ได้ที่ค่ายรถยนต์อเมริกันจะย้ายฐานการผลิตที่ลงทุนไปแล้วมากมายไปจากไทย" "ฉะนั้น ปัจจัยลบถ้าจะมีจริงๆ ก็คงเป็นจำพวกเหตุไม่คาดฝัน เช่น ภัยธรรมชาติ และภัยจากความไม่ปรองดองกันในประเทศ"