X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รู้ทันเทคนิค
18 Dec 2014
MIVEC CLEAN DIESEL
ทุกวันนี้ในกลุ่มรถกระบะ ต้องบอกเลยว่ามีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด รถกระบะไม่ใช่แค่รถเพื่อการพาณิชย์เพียงอย่างเดียว แต่มันยังกลายเป็นรถอเนกประสงค์ของคนทั่วโลก ที่ใช้ได้ทั้งการโดยสาร และการบรรทุก ที่น่าสนใจมากกว่านั้น คือ เรื่องของเทคโนโลยีที่บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ใส่ให้มานั้น มันมากมายเหลือเกิน ทำให้วันนี้รถกระบะรุ่นทอพมีราคาทะลุล้านไปแล้ว
กระบะยุคใหม่
อัดเทคโนโลยีเต็มพิกัด
มีความจำเป็นขนาดไหนถึงได้ใส่เทคโนโลยีมากมายในรถกระบะ ต้องบอกว่ามีความจำเป็นหลายประการ ประการแรก คือ เรื่องของการแข่งขันในตลาดโลก รถที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง และใช้งานได้จริง จะช่วยให้ประสิทธิภาพการขับขี่สูงขึ้น แน่นอนว่าก็ต้องขายได้ดีตามไปด้วย ประการที่ 2 คือ การออกแบบและพัฒนารถกระบะ มันต่อยอดไปถึงกลุ่มรถ PPV หรือรถอเนกประสงค์ที่ใช้พื้นฐานจากรถกระบะ และประการที่ 3 คือ เรื่องของข้อกำหนดด้านมลพิษ ที่ทำให้ต้องพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถผ่านเรื่องมลพิษต่างๆ ให้ได้ และต้องทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะสูงมากขึ้น เพราะพื้นฐานตัวรถยุคใหม่รองรับแรงม้าสูงๆ ได้สบาย อีกเหตุผล คือ บ้านเราเป็นฐานการผลิตรถกระบะที่ใหญ่มากๆ การลดต้นทุน คือ การใช้ไลน์ผลิตเดียวกัน สำหรับรถที่ขายในประเทศและส่งออก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยย่อยอื่นๆ ร่วมด้วยอีกหลายประการ
เจ้าแรก
เทคโนโลยีวาล์วแปรผัน
มาตรฐานมลพิษ คือ ข้อกำหนดที่ทำให้ต้องพัฒนาเครื่องยนต์ให้ทันสมัย เพราะข้อกำหนดที่เข้มข้น ทำให้ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงกับเครื่องยนต์ ผลพวงที่ตามมาก็คือ เรื่องของสมรรถนะสูงขึ้น เมื่อสมรรถนะสูงขึ้น ส่วนอื่นๆ ก็ต้องปรับปรุงและพัฒนาตามให้เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องยนต์ที่ต้องพัฒนาหลายๆ ด้านร่วมกัน เทคโนโลยีที่เราจะพูดถึงกันต่อไปนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีมานานแล้ว แต่ในกลุ่มรถกระบะเองเพิ่งจะนำมาใช้งานอย่างจริงจัง และมิตซูบิชิ ถือเป็นเจ้าแรกในบ้านเรา ที่นำเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน มาใช้ในรถกระบะ เทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า MIVEC (MITSUBISHI INNOVATION VALVE ELECTRONIC CONTROL) ซึ่งมีมานานแล้ว แต่จะอยู่ในเครื่องยนต์เบนซิน ทำไมเทคโนโลยีนี้จึงมักอยู่ในเครื่องยนต์เบนซิน เพราะเทคโนโลยีวาล์วแปรผันจะช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดเพิ่มขึ้น ในช่วงรอบกลางถึงสูง เนื่องจากธรรมชาติของเครื่องยนต์เบนซิน จะมีแรงบิดน้อย และมาในรอบสูง การจะเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ คือ การเพิ่มแรงบิดในรอบกลางถึงสูง ในเครื่องที่ไม่มีเทอร์โบชาร์จ การเพิ่มแรงบิดให้มากขึ้นได้ คือ การปรับจังหวะการเปิดของวาล์วไอดี ไอเสีย ให้แปรผันได้ตามความต้องการจริงของเครื่องยนต์ นั่นเป็นที่มาของระบบวาล์วแปรผันที่มีใช้กันอยู่ทั่วไป
อัตราเร่งดีขึ้น
ตอบสนองฉับไว
เครื่องยนต์ดีเซลที่มีแรงบิดสูงในรอบต่ำ และคงที่ไปถึงรอบปานกลาง อย่างเครื่องที่มีเทอร์โบแปรผัน ทำไมต้องหันมาใช้ระบบวาล์วแปรผันให้ต้นทุนมันสูงขึ้นไปอีก นั่นก็เพราะว่า ต้องทำให้เครื่องยนต์มีมลพิษต่ำตามมาตราฐาน EURO ที่ขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ วันนี้หลายๆ ประเทศจะประกาศใช้มาตรฐานระดับ 5 กันแล้ว ลักษณะเด่นในการทำงานของเครื่องยนต์ MIVEC คือ มีระบบควบคุมระยะการเปิดวาล์วด้านไอดี ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ของเครื่องยนต์ เพื่อตอบสนองกำลังของเครื่องยนต์ให้กับผู้ขับขี่อัตโนมัติ การควบคุมของชุดกระเดื่องวาล์ว ที่ปรับระยะการกดวาล์วจากกลไกที่ถูกสั่งงานจากแรงดันน้ำมันเครื่อง ที่ควบคุมโดยกล่องคอมพิวเตอร์ของเครื่องยนต์ เพื่อให้อากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้เพียงพอกับความต้องการของเครื่องยนต์จริง ผลที่ตามมาก็คือ การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะให้พลังงานเต็มที่และมลพิษต่ำ ด้านวาล์วไอเสียก็เช่นกัน ต้องมีการปรับองศาการเปิด/ปิดให้เหมาะสมในแต่ละช่วงรอบเครื่อง ซึ่งการทำงานจะเป็นการแปรผันตลอดเวลา โดยใช้ระบบอีเลคทรอนิคควบคุมการเปิด/ปิดของวาล์ว ทั้งด้านไอดีและไอเสียโดยอิสระต่อกัน ช่วยให้มีอัตราเร่งที่ดีขึ้น เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างทันท่วงที มีการเผาไหม้ที่หมดจด ทำให้ได้กำลังสูงสุดที่สมบูรณ์ เต็มสมรรถนะในทุกช่วงความเร็ว ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และทำให้มลภาวะต่ำลง นอกจากนี้ เครื่องยนต์ตัวใหม่รหัส 4N15 ยังเป็นเครื่องที่ใช้อัลลอยทั้งฝาสูบและเสื้อสูบ ทำให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักเบา เก็บเสียงได้ดีขึ้นด้วย เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 2.4 ลิตร ให้กำลัง 181 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร หรือ 43.8 กก.-ม. ที่ 2,500 รตน.
อ่านต่อ
เรื่องโดย : พหลฯ 30
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2558
คอลัมน์ Online : รู้ทันเทคนิค
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/15785
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
รู้ทันเทคนิค
รู้ทันเทคนิค
22 Dec 2023
HONDA SENSING ELITE ระบบความปลอดภัยยุคใหม่
รู้ทันเทคนิค
22 Nov 2023
หน้าจอรูปตัว V เทคโนโลยีจาก CONTINENTAL ใน HYUNDAI KONA 2023
รู้ทันเทคนิค
19 Oct 2023
TWIN TURBO กลับมาใช้อีกครั้ง ในรอบ 20 ปี