เนื่องจากปก(formula)
MITSUBISHI ALL NEW TRITON DOUBLE CAB
MITSUBISHI ALL NEW TRITON DOUBLE CAB
รถกระบะ 4 ประตู อเนกประสงค์โฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ท ภายในกว้างขวาง สะดวกครบครัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และระบบควบคุมอุณหภูมิภายในแยกปรับอุณหภูมิซ้าย/ขวา ระบบกุญแจอัจฉริยะ พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 43.8 กก.-ม. ที่ 2,500 รตน. ประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 20 % และลดมลพิษลงได้ถึง 17 %
MITSUBISHI ALL NEW TRITON พิคอัพอเนกประสงค์แบบสปอร์ท ที่รวมเอาฟังค์ชันการใช้งาน ความสะดวกสบายของรถยนต์นั่งไว้ในรถพิคอัพที่มีสมรรถนะในการบรรทุก โดยมี 3 รูปแบบ ให้เลือกตามสภาพการใช้งาน ได้แก่ รุ่น 4 ประตู DOUBLE CAB รุ่น 2 ประตู มีแคบ MEGA CAB และรุ่น 2 ประตู SINGLE CAB
ภายนอก
โฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ท ในดีไซจ์นเฉพาะตัว
MITSUBISHI ALL NEW TRITON ยังคงมาพร้อมแนวคิด "รถกระบะอเนกประสงค์แบบสปอร์ท" โดยได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่น โฉบเฉี่ยวและลงตัวมากยิ่งขึ้น กันชนหน้า หลังคาให้โค้งมน ตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำสุดในรถระดับเดียวกันเพียง 0.42
รุ่น DOUBLE CAB ยังคงมาพร้อมการออกแบบสไตล์ J-LINE ที่แบ่งพื้นที่ระหว่างห้องโดยสารกับพื้นที่กระบะบรรทุก ซึ่งทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่มากขึ้น และลงตัวกับดีไซจ์นของพื้นที่กระบะ
กระจังหน้าโครเมียมสไตล์สปอร์ท มาพร้อมไฟหน้าดีไซจ์นใหม่ แบบพโรเจคเตอร์ HID (HIGH INTENSITY DISCHARGED) ทั้งไฟสูงและไฟต่ำ สไตล์โฉบเฉี่ยว พร้อมปุ่มปรับระดับไฟหน้า 5 ระดับ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LIGHT) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ในรุ่น DOUBLE CAB PLUS GLS, DOUBLE CAB PLUS GLS NAVI และ DOUBLE CAB 4WD GLS-LTD
ด้านหลังมีความโค้งมนทันสมัย ชุดไฟท้ายมาพร้อมการออกแบบสไตล์รถเก๋งให้ทอดยาวไปจนถึงด้านข้างของกระบะ พร้อมการซีลขึ้นรูปชิ้นเดียว เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองเข้าโคมไฟ ติดตั้งไฟเบรคดวงที่ 3 บริเวณฝาท้ายกระบะ ช่วยให้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมกล้องจับภาพหลังขณะถอยออกแบบให้มีขนาดเล็กสวยงาม กลมกลืนกับท้ายกระบะ ในรุ่น DOUBLE CAB GLS NAVI และ DOUBLE CAB GLS-LTD กันชนหลังดีไซจ์นใหม่ ทันสมัยลงตัว สามารถเป็นบันไดและเป็นกันชนได้ในชิ้นเดียวกัน
ล้ออัลลอยสไตล์สปอร์ท ขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น DOUBLE CAB PLUS GLS และ DOUBLE CAB 4WD GLS-LTD
ภายใน
กว้างขวาง ลงตัว สะดวกครบครัน
ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ลงตัวด้วยภายในแบบทูโทน สีดำและเทา ให้อารมณ์สปอร์ท โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างสีดำแบบ PIANO BLACK กับสีเงิน SILVER DECORATION ที่บริเวณคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ แผงสวิทช์ควบคุมหน้าต่าง และสวิทช์การปรับโหมดขับขี่
พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน ติดตั้งชุดควบคุมเครื่องเสียง และสวิทช์ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CRUISE CONTROL) มาตรวัดแบบ COMBINATION METER สามารถปรับแสงสว่างหน้าปัดได้ 8 ระดับ ดูง่ายชัดเจน แจ้งข้อมูลต่างๆ ครบครัน พร้อมจอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์ (MULTI-INFORMATION DISPLAY) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมไปถึงการเตือนต่างๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ
วิทยุ/ซีดี/เอมพี 3/ดีวีดี พร้อมจอภาพแบบระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (BLUETOOTH) ระบบนำทางในรถ (NAVIGATOR SYSTEM) และช่อง USB สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ในรุ่น DOUBLE CAB GLS และระบบควบคุมอุณหภูมิภายในแยกปรับอุณหภูมิซ้าย/ขวา ในรุ่น DOUBLE CAB GLS NAVI
เบาะนั่งคู่หน้าโอบรับกับสรีระ ด้านคนขับปรับสูง/ต่ำ และปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับรุ่น DOUBLE CAB 4WD GLS-LTD
ระบบกุญแจอิมโมบิไลเซอร์ ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS (KEYLESS OPERATION SYSTEM) ลอค/ปลดลอคประตู รวมทั้งสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้าแบบขึ้น/ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบ SAFETY (ด้านคนขับ) รวมไปถึงกระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยวปรับและระบบพับเก็บ/กางกระจกมองข้างอัตโนมัติ เมื่อกดลอค/ปลดลอค กล้องมองหลังแสดงภาพบนจอเดียวกับจอแสดงระบบนำทางในรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง พร้อมเส้นกะระยะการถอยเพื่อเพิ่มความสะดวกในการถอยจอด และที่พักแขนสำหรับผู้โดยสารตอนหลังพร้อมช่องวางแก้วน้ำ และที่วางขวดน้ำขนาดใหญ่ข้างประตู
เครื่องยนต์
ดีเซล 2.4 ลิตร วีจี เทอร์โบ แรงจัด
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 43.8 กก.-ม. (430 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,500 รตน. ประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 20 % และลดมลพิษลงได้ถึง 17 % พร้อมการทำงานของเครื่องยนต์ที่เงียบขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้
เครื่องยนต์เป็นอลูมินัมอัลลอยบลอค น้ำหนักเบา ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีการลดน้ำหนัก ช่วยให้สามารถลดน้ำหนักของเครื่องยนต์โดยรวมได้ถึง 35 กก. แต่ยังคงความแข็งแกร่งและทนทาน ระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิง นอกจากนี้การใช้กระบอกสูบแบบเหล็กกล้า และการติดตั้งโซ่ไทมิง จะให้ความทนทาน ช่วยยืดอายุการใช้งาน และลดค่าใช้จ่ายเรื่องการบำรุงรักษาได้เป็นอย่างดี
เทอร์โบแปรผัน (VG TURBO) ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังสูงทั้งในรอบต่ำ รอบกลาง และรอบสูง อย่างต่อเนื่อง ตอบสนองการขับขี่ได้ทันใจในทุกรอบความเร็ว
ครั้งแรกในรถพิคอัพกับการติดตั้งระบบ MIVEC (MITSUBISHI INNOVATIVE VALVE TIMING ELECTRONIC CONTROL SYSTEM) ลิขสิทธิ์เฉพาะ MITSUBISHI กับระบบควบคุมการปิด/เปิดวาล์วไอดี และวาล์วไอเสียแบบแปรผัน ที่ทำงานสอดคล้องกับความเร็วของเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ และได้แรงม้ามากยิ่งขึ้นในรอบสูง ให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม เผาไหม้หมดจด ลดมลพิษ
เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะพร้อมสปอร์ทโหมด รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบ ES4 (EASY SELECT 4WD) ที่สะดวกด้วยสวิทช์ปรับหมุนควบคุมด้วยไฟฟ้า โดยสามารถปรับโหมดขับขี่จาก 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ ได้อย่างง่ายดายในขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. โดยสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ 2H สำหรับเส้นทางปกติใช้ความเร็วสูงได้ หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ 4H สำหรับเส้นทางสมบุกสมบันใช้ความเร็วสูงได้ และ 4L สำหรับเส้นทางลุย
ระบบรองรับ
ช่วงล่างแกร่ง ระบบความปลอดภัยสูง
แชสซีส์เหล็กกล้าขนาดใหญ่แบบชิ้นเดียวขึ้นรูปประกบ 2 ชั้นไร้รอยต่อ พร้อมเพิ่มความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วยคานเหล็กกันกระแทกด้านหน้า เพื่อลดความเสียหายและแรงปะทะจากการชนด้านหน้า พร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE BODY ที่ใช้เหล็กกล้าที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ HIGH TENSILE STEEL เพื่อความปลอดภัยสูง และมีน้ำหนักเบา
รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง ได้รับการปรับปรุงช่วงล่างใหม่พร้อมการติดตั้งคานเหล็กกันกระแทกเพิ่มความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ แบบปีกนก 2 ชั้น และระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนติดตั้งเหนือเสื้อเพลา พร้อมชอคอับไขว้ขนาดใหญ่ และการออกแบบจุดยึด รวมทั้งปรับตั้งแหนบใหม่ จึงให้การขับขี่ที่นุ่มนวล และยึดเกาะถนนดีขึ้น
รัศมีวงเลี้ยวที่แคบสุดในรถระดับเดียวกันเพียง 5.9 เมตร พร้อมการลดระยะการหมุนของพวงมาลัยที่น้อยลงจากซ้ายสุด/ขวาสุด ที่ 3.8 รอบ ช่วยให้สามารถควบคุมรถได้ดีที่ความเร็วต่ำ และการควบคุมแม่นยำที่ความเร็วสูง รวมทั้งง่ายต่อการกลับรถหรือถอยจอดในเมือง เหมือนขับรถเก๋ง ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมรัศมีวงเลี้ยวสุด 5.7 เมตร
ระบบเบรคมั่นใจยิ่งกว่าด้วยระบบเอบีเอส (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรคแบบอีเลคทรอนิค (EBD) เพิ่มประสิทธิภาพในการเบรคสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง ด้วยจานเบรคหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน ช่วยให้ประสิทธิภาพการเบรคดีขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และดุมเบรคหลัง
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASTC (ACTIVE STABILITY & TRACTION CONTROL) ซึ่งประสานการทำงานของระบบ ASC ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในสภาวะที่รถเสียสมดุล เพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง และ ATC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล ช่วยควบคุมการหมุนของล้อทั้ง 4 อย่างสมดุล
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (HILL START ASSIST) เพื่อป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรครถบนทางชันและต้องออกตัวอีกครั้ง
ระบบเสริมแรงเบรค BA (BRAKE-ASSIST) ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรคเมื่อเหยียบเบรคกะทันหัน ช่วยให้การหยุดรถเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยตามแบบฉบับของ MITSUBISHI (ETACS: ELECTRONIC TIME AND ALARM CONTROL SYSTEM)
มี 7 สีให้เลือก โดยมาพร้อมสีใหม่ เขียว (EARTH GREEN) และเงิน (STERLING SILVER) สะท้อนฟังค์ชันการใช้งานของรถกระบะ และความประณีตในการออกแบบอย่างรถ เอสยูวี ขาว (SOLID WHITE) ขาวมุก (WHITE PEARL) เทาดำ (TITANIUM GRAY) ดำ (PYRENESS BLACK) และน้ำตาล (QUARTZ BROWN)
เรื่องโดย : ธนสาร เสาวมล
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2558
คอลัมน์ Online : เนื่องจากปก(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/13553