ประสาใจ
เซกซ์ กับโซเชียลมีเดีย
อิทธิพลของโซเชียลมีเดีย การสื่อสารอย่างทันสมัยวันนี้ ครอบคลุมทุกภาคส่วนของชีวิตไปแล้ว แม้แต่ ยอดจำหน่ายหนังสือพิมพ์รายวัน ต้องถูกหั่นลงเพราะผู้คนที่เคยซื้อหนังสือพิมพ์ วันนี้มีมือถือ มีคอมพิวเตอร์ ก็อ่านข่าวได้ทั่วโลก
การสำรวจหลังสุดของมหาวิทยาลัยสวอนซี ในอังกฤษ พบว่านักศึกษาในสัดส่วน 1:5 ใช้ชีวิตเกี่ยวโยงกับอุตสาหกรรมเซกซ์ นั่นหมายถึง เป็นจำนวนนักศึกษาไม่น้อยกว่า 6,750 คนในเมืองผู้ดี
การสำรวจครั้งนี้ มหาวิทยาลัยสวอนซี ใช้ระบบออนไลน์ หนีไม่พ้นโลกโซเชียลมีเดีย
ผลสำรวจเปิดเผยว่า มีนักศึกษาประมาณ 5 % ของจำนวนนี้ มีพฤติกรรมเป็นตัวเป็นตน อยู่กับ อุตสาหกรรมเซกซ์ โดยนักศึกษาชายมีสัดส่วนมากกว่านักศึกษาหญิง
ชื่อนักศึกษาในการสำรวจต่อไปนี้ ล้วนเป็นชื่อสมมติทั้งสิ้น
"ฮอลลี" มีอาชีพเป็นนางแบบทรงเสน่ห์ กำลังเรียนชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมพลเรือนและสิ่งแวดล้อม วางเป้าหมายขออำลามหาวิทยาลัยโดยไม่มีหนี้สินคงค้าง
"ส่วนมากฉันจะทำงานด้วยการเป็นนางแบบภาพถ่ายแต่ก็ทำงานเป็นพนักงานเพื่อนร่วมเดินทาง (เอสคอร์ทเกิร์ล) ด้วย"
"พื้นฐาน คือ ธุรกิจ แต่สิ่งที่มาก่อนก็ต้องเป็นการศึกษา ธุรกิจเป็นแค่การวิ่งเต้นหารายได้"
"ฉันวางแผนออมทรัพย์ อาชีพนางแบบเป็นการแก้ปัญหากู้เงินของนักศึกษา ค่าวิชาหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ของมหาวิทยาลัย เป็นเงินที่ฉันหาได้จากการเป็นนางแบบ"
"ฉันไม่ได้ประพฤติผิดทำนองคลองธรรม ไม่ผิดข้อกฎหมาย ฉันไม่เคยทำร้ายใคร"
"การใช้เงินตนเองโดยไม่ใช้สิทธิ์การกู้ยืมมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องดีเพราะฉันตั้งใจว่าจะไปจากมหาวิทยาลัยโดยมีหนี้สินน้อยที่สุด หรือไม่มีหนี้ค้างเลย"
"เพื่อนๆ ของฉันหลายคนมีความเป็นอยู่ที่รีบเร่ง ต้องทำงานหลังเลิกเรียนเป็นพนักงานรับใช้ อย่างต่ำๆ วันละ 10 ชั่วโมง ฉันไม่เห็นด้วยเพราะคิดว่ามันเป็นงานหนัก"
"อย่าคิดนะคะว่า ฉันเป็นคนแรกและคนเดียวของมหาวิทยาลัยที่มีพฤติกรรมนี้"
คนต่อมา คือ "ลิซา" นักศึกษาปี 3 รับค่าจ้าง 400 ปอนด์ (2 หมื่นบาท) ในคืนแรกที่เธอเปิดบริการสนทนาเซกซ์ทางโทรศัพท์ เป้าหมาย คือ หาเงินชำระหนี้สิน
"ฉันมียอดเบิกเงินเกินธนาคารเป็นจำนวนมหาศาล ฉันไม่มีคนอุปถัมภ์ คุณสมบัติก็ไม่ครบถ้วนต่อสิทธิ์การกู้ยืม เงินที่พ่อแม่ให้ก็เล็กๆ น้อยๆ การหางานพิเศษทำจึงเป็นการบังคับทางอ้อม"
"การจ้างนักศึกษามีปัญหา เพราะนายจ้างรู้ดีว่า นักศึกษาต้องกลับภูมิลำเนาในเทศกาลคริสต์มาส ภาคฤดูร้อน"
"รายได้พิเศษที่เกิดขึ้น ว่าไปแล้วมันก็ไม่ยาก"
"คืนแรกที่ฉันหารายได้ มีโทรศัพท์เข้ามาหลายราย ตื่นเต้นดี เพราะมันไม่ใช่เสียงพูดคุยอย่างธรรมดาทั่วไป"
"ฝ่ายผู้ชายก็ตื่นเต้นในประสบการณ์ใหม่ โทรศัพท์ฉันดังไม่หยุด ฉันคิดว่ามันคงเหมือนๆ กับการเปิดร้านอาหารแห่งใหม่ ที่ใครๆ ก็อยากจะลอง"
"สำหรับฉันเมื่อมาคิดๆ ดู ได้เงิน 400 ปอนด์ และได้นอนตอนตีหนึ่ง ปัญหาหนี้สินของฉันคงบรรเทา"
"เรื่องนี้เป็นเรื่องของการใช้อำนาจเป็นอำนาจที่เกิดจากซุ่มเสียงศิลปินนักแสดงใช้การแสดงเป็นอำนาจ แต่สำหรับฉัน แค่เสียงที่เปล่งออกไปก็มีอำนาจแล้ว"
"ฉันเริ่มมีเงินออม ภาคฤดูร้อนที่ผ่านมาฉันมีเงินออมถึง 3,000 ปอนด์ (1แสน5หมื่นบาท โดยประมาณ) มันนอนนิ่งอยู่ในบัญชีโดยฉันไม่ได้ไปแตะมันเลย"
"ต้นทุนของฉันอยู่ที่ความน่าเบื่อ โคตรเบื่อเลยทีเดียว ตอนแรกฉันคิดว่า "เอาอยู่" แต่แล้วที่แท้มัน คือ เอาไม่อยู่"
"ฉันไม่ทำงานประเภทนี้ไปจนตายหรอกค่ะคุณ"
"พอสซี" คือ คนถัดมา อายุ 18 ปี เป็นนักศึกษาภาควิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เลือกทำงานเป็น เอสคอร์ทเกิร์ล หารายได้เพิ่มพิเศษเป็นค่าเล่าเรียน
"ฉันไม่รังเกียจผู้ชาย แต่ไม่ชอบความจริงที่ว่า ผู้ชายชอบแสดงว่าเป็นเจ้าของชีวิตเรา ต้องการใช้เราให้คุ้มกับเงินที่จ่ายเรามา"
"มหาวิทยาลัยต้องการเงิน และฉันก็มีเงินไม่พอสำหรับมหาวิทยาลัย นี่คือเหตุผลที่ฉันต้องหารายได้พิเศษ"
"เอสคอร์ท เอเจนซี มีผู้หญิงเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งฉันเห็นว่าไม่มีพิษภัย เมื่อฉันไปถึงและกดสัญญาณประตู ผู้ชายที่เปิดประตูถึงกับผงะที่พบฉัน"
"ฉันเข้าไปภายใน เขาเสิร์ฟไวน์แก้วหนึ่งให้ฉัน เขาให้ฉันดูดีวีดี เสร็จแล้วก็เข้าห้องนอน ฉันน้ำตาไหล เคราะห์ดีที่ดับไฟเขาจึงไม่เห็นน้ำตาของฉัน"
"ฉันได้ค่าจ้าง 150 ปอนด์ (ประมาณ 7,500 บาท) ไม่รวมค่าทิพพิเศษจากเขา ฉันคิดได้อย่างเดียว นี่เป็นเงินก้อนโตสำหรับฉัน ในรถแทกซีขณะกลับที่พัก ฉันร้องไห้ไม่เลิก"
"ฉันทำงานได้เฉพาะวันปลายสัปดาห์เพราะฉันเป็นนักศึกษาที่เรียนเต็มวัน เลิกเรียนวันศุกร์ตกกลางคืนก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ขึ้นรถเมล์ไปทำงาน"
"ตอนแรกก็ยุ่งๆ นิดหน่อย ตอนหลังฉันกลายเป็นดารายอดนิยม"
"ความนิยมทำให้ฉันต้องรับงานล่วงเวลาซึ่งถือเป็นเรื่องสามัญเคยเสียแล้วมันก็ไม่ใหญ่โตอะไร นอกจากมัน คือ วันปลายสัปดาห์ที่ฉันมีเงินสดกลับที่พักเป็นจำนวนมาก"
"ฉันตอบไม่ได้ว่า ปีหนึ่งฉันมีรายได้เท่าไร แต่ทุกสัปดาห์ไม่น้อยกว่า 1 พันปอนด์ หรือ 5 หมื่นบาท"
"ฉันอยากเก็บเงิน แต่วันนี้ ฉันอายุ 18 ปีนะคะ"
คนต่อมา คือ "แอมมี" เป็นนักเรียนแนะแนวของมหาวิทยาลัย มีหน้าที่ให้ผู้เรียนตัดสินใจได้ว่าจะศึกษาสาขาใด จะประกอบอาชีพใด หรือจะแก้ปัญหาอย่างไร จึงจะมีประสิทธิภาพ ปรับตัวเอง เจริญก้าวหน้าในชีวิตไม่รู้ผิดพลาดอย่างไร กลายเป็นนักแสดงหนังโป๊ หลังจากเพื่อนชายเห็นลู่ทางที่ไม่มีอะไรยาก
"ครั้งแรก ผู้ชายมารับฉันไปที่บ้านของเขา ซึ่งฉันขอเรียกมันว่า บ้านของเขา เพราะทุกอย่าง คือ บ้านพักอาศัยธรรมดา"
"เว้นแต่ห้องเดียวที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ มีไฟสว่างทั้งห้อง"
"ฉันแทบประสาทกิน เกือบจะเลิกล้มความตั้งใจ แต่เขาแนะนำฉันให้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งในบ้าน เธอเป็นคนพิจารณาว่าฉันจะผ่านงานหรือไม่"
"ระยะเวลา 5 เดือนที่แล้ว ฉันเล่นหนังไปประมาณ 7-8 เรื่อง กับนักแสดงไม่คุ้นหน้า"
"ค่าจ้างเริ่มต้นที่ 50 ปอนด์ ถ้ามีผู้ชายร่วมแสดงด้วยก็เป็น 75 ปอนด์ หรือถ้าเป็นกลุ่มก็แพงกว่านั้น"
"เพื่อนชายของฉันเป็นผู้จัดการ ตอนแรกฉันก็โอเค ตอนหลังฉันเริ่มมีคำถาม จึงรู้ว่ารายได้ที่ฉันได้มันน้อยเกิน"
"เขาจัดการทุกเรื่อง ฉันถูกควบคุมด้วยความเชี่ยวชาญ แม้ฉันรู้แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้"
"ต้นเรื่องนี้ มาจากเพื่อนชายคนเดียวของฉัน ที่ไปเห็นโฆษณาระหว่างนั่งดื่มกาแฟด้วยกันที่มุมเล็กๆ ของร้านเล็กๆ..."
โฆษณาชิ้นนั้นก็เป็นการแจ้งความอย่างธรรมดา "ต้องการคนที่มีมนุษยสัมพันธ์" เออ...ยังงี้ก็ยังมี
มิหนำซ้ำดันมีในเมืองผู้ดีอีกต่างหาก...!!!
เรื่องโดย : ข้าวเปลือก
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2558
คอลัมน์ Online : ประสาใจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/12506