แม้สภาพการจราจรในกรุงเทพมหานครจะไม่ได้เลวร้ายติดอันดับทอพเทน เมื่อเทียบกับเมืองหลวง หรือเมืองใหญ่อื่นๆ ในโลก แต่ก็นับว่าอยู่ในขั้นติดบรรลัย ไม่เลือกวัน และเวลา
ยิ่งกว่านั้น ทุกวันนี้ แทบทุกเส้นทางไม่เพียงติดเหมือนเดิม เพิ่มเติม คือ สามารถติดแบบผิดปกติได้ โดยไม่มีสาเหตุแน่ชัด ซึ่งต่างจากเมื่อก่อน ถ้ารถติดหนักเมื่อใด สันนิษฐานเบื้องต้นได้เลยว่า ข้างหน้าต้องมีอุบัติเหตุ หรือเหตุด่วนเหตุร้ายอะไรสักอย่าง
ส่วนปัจจุบัน สาเหตุที่ได้ยินเป็นประจำทาง จส. 100 คือ “รถมาก” และเป็นอย่างนั้นจริงๆ เสียด้วย เพราะพอผ่านช่วงรถติดไปได้ก็ไม่เห็นมีอะไร (นอกจากตำรวจจราจร (ฮา)
อย่างไรก็ตาม นอกจากรถมากแล้ว ผมว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้การจราจรในกรุงเทพ ฯ กลายเป็นอัมพฤกษ์ ทั้งๆ ที่ “ไม่เห็นมีอะไร” คือ พฤติกรรมการขับรถที่ไม่เคารพกฎจราจร
ไม่เชื่อลองสังเกตดีๆ ครับ เวลารถติดไม่มีเหตุผลเหมือนอารมณ์มนุษย์ป้านั้น จริงๆ แล้วมันมักมีเหตุจากคนมักง่าย หรือคนเห็นแก่ตัวบางคน หรือหลายๆ คน ทำผิดกฎจราจร เช่น วิ่งผิดเลน สวนเลน คร่อมเลน เปิดเลนพิเศษ เบียดคอสะพาน กลับรถในที่ห้าม จอดรถในที่ห้าม ฝ่าไฟแดง ฯลฯ
พฤติกรรมเหล่านี้ สามารถชมคลิพจากกล้องหน้ารถในยูทูบ ได้แทบทุกวัน ยิ่งถ้าเป็นรถใหญ่ อย่างรถประจำทาง หรือรถสิบล้อ ทำผิดแค่คันเดียว อาจส่งผลให้รถติดยาวเป็นกิโลได้ง่ายๆ
ที่สำคัญ ผลจากการทำผิด คือ ได้ไปเร็วกว่าพวกเราที่มัวแต่เคร่งครัดกับกฎจราจรหลายปีแสง แถมยังไม่ถูกจับลงโทษใดๆ แม้จะกระทำต่อหน้าป้ายอิงค์เจท “เขตกวดขันวินัยจราจร” และ “5 จริง 5 จอม” อันลือลั่น
ด้วยเหตุนี้ จึงขอถามลอยๆ ตามสมัยนิยมว่า “กฎจราจรมีไว้ทำไม ?” แต่จะไม่ถามหรอกครับว่า “ตำรวจจราจรมีไว้ทำไม ?” เพราะกลัวบรรดา “นักต้มมาม่า” ในโลกโซเชียล จะส่งภาพตำรวจเข็นรถเมล์เสีย จูงคนแก่ข้ามถนน หรือทำคลอดเด็กในรถแทกซี มาเป็นคำตอบ !
Model | Start Price (THB) |