ชีวิตอิสระ(4wheels)
โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว คาราวาน ทริพ มหัศจรรย์สุวรรณภูมิ
4 WHEELS ได้เข้าร่วมคาราวาน "โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว คาราวาน ทริพ...ผู้นำทุกเส้นทาง บนเส้นทางมหัศจรรย์สุวรรณภูมิ" เดินทางท่องเที่ยวทางรถยนต์ผ่าน 4 ประเทศอาเซียน ได้แก่ ไทย-ลาว-เวียดนาม-กัมพูชา รวมระยะทางกว่า 3,395 กม. ฉบับนี้เรากำลังเดินทางออกจากประเทศ สปป. ลาว เพื่อเข้าสู่ประเทศเวียดนาม และประเทศกัมพูชา บรรยากาศจะเป็นอย่างไร ติดตามได้จากรายงานวันที่ 5 ยาลาย-บวนเมทวด-ดาลัด ระยะทาง 403 กม. การเดินทางเข้มข้นขึ้น จาก สปป. ลาว เรามุ่งหน้าสู่เวียดนาม ระยะทางกว่า 400 กม. ถ้าเป็นเส้นทางตรง ตลอดระยะทางคงไม่มีปัญหา แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง เส้นทางแถบนี้จึงเป็นแบบ ขึ้นเขา-ลงเขาเกือบตลอดเวลา มิหนำซ้ำทางยังแคบแบบ 2 เลนสวน จึงใช้ความเร็วได้ไม่มาก กว่า 10 ชม. คาราวานจึงเดินทางมาถึงเมืองตากอากาศที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของประเทศเวียดนาม คือ "ดาลัด" หรือ ดาหลาต ภูมิประเทศแวดล้อมไปด้วยขุนเขา พื้นที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,500 ม. อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี ประมาณ 18 องศาเซลเซียส ที่นี่ได้รับขนานนามว่าเป็น "ปารีสตะวันออก" จากสถาปัตยกรรมตะวันตกที่พบเห็นตามบ้านเรือน งานเลี้ยงยามค่ำคืนจัดอย่างอลังการโดยการท่องเที่ยวแห่งเมืองดาลัค การแสดงพื้นบ้านถูกอกถูกใจ พวกเรายิ่งนัก วันที่ 6 ดาลัด-มุ่ยเน่ ระยะทาง 270 กม. เช้าวันนี้เรารีบตื่นมารับไอหมอกที่ปกคลุมไปทั่วเมือง ทำให้หายใจออกมาเป็นไอ สมกับเป็นเมืองตากอากาศอย่างแท้จริง อากาศที่นี่เย็นสบายมาก และที่สำคัญวันนี้ คาราวานตื่นเต้นเป็นที่สุดที่จะได้ไปตะลุยขับรถบนทะเลทราย "มุ่ยดิน" ที่เป็นความใฝ่ฝันของนักขับหลายคนที่จะต้องไปพิชิตให้ได้สักครั้ง การเดินทางวันนี้สบายๆ การขับลงจากภูเขาตัดเข้าถนนไฮเวย์ ความเร็วเริ่มไต่ระดับไปที่ประมาณ 100-120 กม./ชม. ใช้เวลาเดินทางร่วม 4 ชม. ก็มาถึงจุดพักรถและรับประทานอาหารกลางวันที่เมืองฟานราง ในฐานะผู้มาเยือนจากแดนอื่น ทางร้านต้อนรับด้วยการนำอาหารที่เด็ดสุดประจำท้องถิ่นมาเสิร์ฟ ด้วยหวังว่าจะสร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนจำแบบไม่รู้ลืม จานแรกก็ดูธรรมดาไม่มีอะไร เป็นของขบเคี้ยวเล่นๆ ต่อด้วยสุกี้แพะ มีเนื้อ มีผัก มีไข่...แต่ไข่ไม่ใช่ไข่ธรรมดา มันคือ ไข่ข้าว ที่ไม่เหมือนอย่างบ้านเรา วินาทีที่หิวกันจัดๆ ไปถึง ตอกไข่ลงหม้อ ภาพยังจำติดตา สีแดงเลือดจากไข่ข้าว ถูกตอกลงในหม้อ และมีตัวลูกไก่อ่อนๆ ลอยวนอยู่ในหม้อร้อนๆ สุดแสนน่ากลัว หลังจากพักสุกี้ ก็มีเมนูหนึ่งคล้ายไก่ย่างบ้านเรา เพื่อนชิมไปบอกอร่อยดี เราก็ไปดูใบเมนูที่ตั้งไว้บนโต๊ะว่าคืออะไร ภาษาอังกฤษ GRILLED SAND LIZARD ภาษาไทยคือ กิ้งก่าทะเลทราย ฟังแล้วคงเหมือนกิ้งก่าเมืองไทย (มั้ง) หลังจากไกด์ท้องถิ่นนำภาพมาให้ดู เป็นอันเลิกกินอาหารทุกอย่างบนโต๊ะทันที !?! จากเมืองฟานรางขับรถกินลมลัดเลาะริมทะเลชายฝั่งตะวันออกถึงเมืองฟานเที๊ยต เมืองหลวงของจังหวัดบิงห์ถ๋วน (BINH THUAN PROVINCE) ถึงไฮไลท์ นั่นคือ มุ่ยดิน และมุ่ยเน่ ในอดีตเป็นที่หลบภัยของชาวประมงพื้นบ้านในการหลบพายุช่วงฤดูมรสุม ทั้งมุ่ยดินและมุ่ยเน่มีจุดเด่นที่ SAND DUNE หรือสันทรายกว้างใหญ่ริมทะเลจีนใต้ จุดที่ยาวที่สุดมีระยะมากถึง 16 กม. ณ ทะเลทรายมุ่ยดิน ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ดที่ผู้เข้าร่วมเดินทางหลายๆ ท่านตั้งตารอ และเตรียมความพร้อมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ นั่นคือ การขับรถบนทะเลทราย สถานีทดสอบนี้ผู้จัดได้เตรียมเส้นทางไว้ให้นักขับได้ประลองฝีมือ โดยใช้รถ โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว รุ่นทอพ เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นพาหนะ ก่อนหน้าที่จะได้ขับมีการอบรมจากวิทยากรและขั้นตอนการเตรียมรถเพื่อจะใช้บนทะเลทราย สรุปได้ว่า ควรปล่อยลมยางให้อยู่ระหว่าง 15-18 ปอนด์ และขณะอยู่ในพื้นที่ทราย ควรหมุนพวงมาลัยไปมา และที่สำคัญไม่ควรหยุด เพราะถ้าหยุดจะจมทันที ข้อดีของ โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว จะมีโหมด POWER เพื่อเสริมกำลังเครื่องยนต์ รวมถึง AUTO DIFF-LOCK ที่ถือเป็นอาวุธลับ เรียนรู้การขับขี่ ถึงเวลานั่งหลังพวงมาลัยจริงสักที ปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ 4H จะทำให้การควบคุมเป็นไปได้ด้วยดี การทรงตัว การเลี้ยว ระบบส่งกำลังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ระยะทางเพียง 3 กม. ที่วิ่งบนทะเลทราย เป็นประสบการณ์ใหม่ที่หาไม่ได้ในเมืองไทย หลังจากที่ทดสอบกันเสร็จสิ้น คาราวานเดินทางไปทะเลทรายมุ่ยเน่ ที่อยู่ห่างไปเพียง 40 กม. เพื่อชมความสวยงามของพระอาทิตย์ตกพ้นขอบทะเลทราย วันที่ 7 มุ่ยเน่-โฮจิมินห์ ระยะทาง 220 กม. มุ่งหน้าสู่โฮจิมินห์ ระยะทางไม่ไกลนัก แต่ความพลุกพล่านของประชากรมอเตอร์ไซค์ และภูมิประเทศ ส่งผลให้ทำความเร็วกันได้ไม่มากนัก แต่ไม่นานเราก็มาถึงโฮจิมินห์ นำโดยขบวนบิกไบค์ เข้าสู่ "อนุสาวรีย์โฮจิมินห์" ผู้ปลดลอคเวียดนามจากการปกครองของฝรั่งเศส เราเปลี่ยนพาหนะเป็นรถบัส เนื่องจากที่จอดรถหายาก เพื่อสะดวกต่อการเที่ยวชมเมืองหลวงเก่าของเวียดนามใต้ เริ่มตั้งแต่ "พิพิธภัณฑ์สงครามโบสดึ๊กบ่า" ซึ่งได้เก็บรวบรวมร่องรอยของความสูญเสียจากสงครามที่เต็มไปด้วยความหดหู่ และสะเทือนใจ จากนั้นจึงไปต่อที่ "ไปรษณีย์กลาง" ที่ได้รับการออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศส ตกแต่งอย่างงดงามด้วยกระจกสี เมื่อปี 2439 และสำเร็จในปี 2444 ใกล้กันจะมี "โบสถ์นอร์เตอดาม" ซึ่งเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวเวียดนามที่นับถือศาสนาคริสต์ รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักเดินทางผลัดเปลี่ยนเข้าเยี่ยมชมกันเนืองแน่น นครโฮจิมินห์ หรือ โฮจิมินห์ซิที ชื่อเดิมคือ ไซ่ง่อน เป็นเมืองหลวงของประเทศเวียดนามตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนามประชากรส่วนใหญ่เดินทางโดยรถจักรยานยนต์เป็นหลัก วันที่ 8 โฮจิมินห์-พนมเปญ ระยะทาง 248 กม. คาราวานเดินทางมุ่งหน้าสู่ประเทศที่ 4 แล้ว จากประเทศเวียดนามสู่กัมพูชา ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง "บาเว็ต" เส้นทางทุรกันดารลงไปอีก คาราวานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ สะพานเนียะเลิง งบลงทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นกว่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ ระยะทางของสะพาน ยาว 2,200 ม. กว้าง 13 ม. สูง 37.5 ม. กลางสะพานมีลวดสลิงขนาดใหญ่ยึดอยู่ การเดินทางใช้เวลาประมาณ 3 ชม. เราจึงถึงที่พัก วันนี้ ได้พักที่ CAMBODIANA HOTEL โรงแรมระดับ 5 ดาวที่สวยและหรูที่สุดกลางกรุงพนมเปญ ค่ำคืนเป็นงานเลี้ยงรับรองจากรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชา การแสดงและอาหารถูกจัดมาต้อนรับอย่างเต็มที่ วันที่ 9 พนมเปญ–เสียมเรียบ ระยะทาง 314 กม. จากพนมเปญ สู่เมืองเสียมเรียบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม. ถึงเมืองเสียมเรียบ และแล้วก็มาถึงโบราณสถานที่เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก นครวัด-นครธม ก่อนเข้าชมความงามได้ลงมาทำพาสสปอร์ท เพื่อเข้าสู่ภายใน มีใบหน้านักท่องเที่ยวอยู่ที่บัตรผ่าน สามารถเก็บเป็นที่ระลึกได้ด้วย เมืองนครวัด นครธม เป็นชื่อที่คนไทยถนัดเรียก ชื่อจริงคือ เมืองพระนคร เป็นมรดกโลกแห่งแรกของอินโดจีน ตั้งแต่ปี 2535 เมืองพระนครอยู่ในเมืองเสียมเรียบ ไม่ไกลจากชายแดนประเทศไทย ในอดีตที่แห่งนี้รุ่งเรืองมาก ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ถึง 15 ราวๆ 600 ปี ในยุครุ่งเรืองอาณาจักรนี้ปกครองดินแดนอินโดจีนตอนใต้ทั้งหมด สิ่งที่เป็นภาพลักษณ์ของอารยธรรมเขมรโบราณ คือ ปราสาทหิน ที่สร้างจากหินซึ่งสกัดมาเป็นแท่งๆ ขนาดใหญ่ มีการสลักลวดลายลงบนหินเป็นเรื่องราวต่างๆ รูปเทพ รูปนางอัปสรา ถ้าจะให้ชมโบราณสถานทั้ง 72 แห่งของเมืองพระนครนั้น คงต้องใช้เวลากันเป็นเดือน นครวัด สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ในสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิครุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลก ปราสาทนครวัด มีขนาดถึง 200,000 ตรม. ตัวปราสาทสูง 60 ม. ยาว 100 ม. และกว้าง 80 ม. มีแผนผังที่ถือว่าเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดยอดของปราสาทขอม ด้วยการมีปราสาท 5 หลังตั้งอยู่บนฐานสูงตามคติของศูนย์กลางจักรวาล มีกำแพงด้านนอกยาวด้านละ 1.5 กม. วันสุดท้าย เสียมเรียบ-ปอยเปต-กรุงเทพ ฯ-ดุสิตธานี ระยะทาง 453 กม. วันสุดท้ายในประเทศเพื่อนบ้าน จากโรงแรมที่เสียมเรียบ คาราวานมุ่งหน้าสู่ด่านปอยเปต ใช้เวลาเดินทางไม่นาน แต่ด้วยเหตุผิดพลาดบางประการ ทำให้คณะเสียเวลาที่ด่านนานพอสมควร แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ก่อนจะทำเวลามุ่งสู่ โรงแรมดุสิตธานี ด้วยความปลอดภัย ตลอดระยะทาง 10 กว่าวัน รวม 3,400 กม. กับการขับรถเปิดเส้นทางประวัติศาสตร์ต้อนรับ AEC 4 ประเทศ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา จบลงอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นบทพิสูจน์สมรรถนะของ โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว ถึงความแข็งแรง และความประหยัดได้เป็นอย่างดี นอกจากที่เรายังได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนตลอดสองข้างทางทั้ง 4 ประเทศ เป็นประสบการณ์ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ยากจะลืมเลือน ขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
เรื่องโดย : ปาร์จารีย์ ทัศนชลีจิระโชติ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2559
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/117081