X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ชีวิตคือความรื่นรมย์
2 Dec 2015
กระทงอธิษฐาน
กาลเวลาช่างเดินทางได้รวดเร็ว-ตามความรู้สึกของผู้สูงอายุ ตรงกันข้ามกับตอนที่ยังเป็นเด็ก เราต่างกระหายว่าทำไมวันเวลาช่างชักช้านัก ต้องบ่นว่าเอาไว้ขอเป็นผู้ใหญ่ก่อนเถอะ...แล้วก็เฝ้านับวันนับคืน ที่เป็นเช่นนั้น อาจเป็นเพราะในวัยเยาว์ เรามีความสุขมากโดยไม่รู้ว่าเวลาเดินไปอย่างไร มาบัดนี้ เมื่อถึงท้ายปีเมื่อไร ก็รู้สึกว่าทำไมปีหนึ่งๆ มันเร็วจัง เผลอเดี๋ยวเดียวก็ถึงคริสต์มาส และปีใหม่อีกแล้ว ตอนทำงานก็ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ จนไม่มีวันลาหยุดปลายปีอย่างคนอื่น เพราะหน้าที่ "สื่อมวลชนสัมพันธ์" นั้น ตอนท้ายเดือนธันวาคมต้องหอบของขวัญ และปฏิทินไปแจกตามสำนักงานหนังสือพิมพ์ต่างๆ ไปร่วมงานส่งท้ายปีเก่า-รับปีใหม่ของสื่อสำนักต่างๆ ให้เสร็จสิ้น ระลึกถึงตอนวันเก่าๆ ที่เพื่อนฝูงอยู่พร้อมหน้า จำได้ว่าเมื่อสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทย คือ สถานีโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหมเกิดขึ้น พวกนักกลอนหนุ่มสาวได้รับการชักชวนไปออกรายการที่เรียก ลับแลกลอนสด เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เรารวมกันตั้งชมรมนักกลอน เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2502 ซึ่งกลายมาเป็นสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย จากนั้นจึงเกิดแรงบันดาลใจให้มีการก่อตั้งชุมนุมวรรณศิลป์มากมาย โดยเกิดที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแรก และในเวลาใกล้กันก็เกิดชุมนุมวรรณศิลป์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นก็มีในสถานศึกษาอื่นๆ และกลุ่มกวีอิสระ ร่วมประชันกาพย์กลอนทางตามวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ต่อมา มีการฟื้นฟูการแสดงสักวาตามสถาบันการศึกษาต่างๆ งานสำคัญของชมรมนักกลอน นอกจากนัดพบปะเสวนากันแล้ว มีการนัดแนะชุมนุมเรียกว่า "ลอยลำไปกับเรือเพลง" บางครั้งไปกันถึงสุพรรณบุรี บางปีไปถึงพระนครศรีอยุธยา การลอยเรือ และการนัดแนะชุมนุมนั้น ที่สำคัญทำให้เราได้บุคลากรทางวรรณศิลป์ที่มีคุณภาพมาเสริมสร้างวงการมากมาย เช่น เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นิภา บางยี่ขัน ทวีสุข ทองถาวร ดวงใจ รวิปรีชา ศิริพงษ์ จันทน์หอม วรา จันทกูล ฯลฯ มี "ชุมนุมน้ำชาวันอาทิตย์" จัดพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือเชิญผู้มีประสบการณ์มาปาฐกถา หรือเสวนา มีผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรม คือ หนังสือรวมกลอน ชื่อ นิราศกรุงเก่า ซึ่งรวมบทกลอนจากการรวมตัวกันไปทัศนาจรที่กรุงศรีอยุธยา แล้วนักกลอน 48 คน 52 นามปากกา ได้ร่วมกันเขียนกลอนนิราศในนิราศต่อกันเป็นเรื่องเดียว ซึ่งเสมือนอนุสรณ์แห่งกวีร่วมสมัยในช่วง 2 ทศวรรษปี 2500-2520 ที่ไม่เคยมีมาก่อน และหลังจากนั้นก็ไม่มีการรวมกันได้เช่นนั้น เพราะคนที่เป็นศูนย์กลางอย่าง สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์ ด่วนจากไปก่อนวัยอันควร หรือผลงานที่เป็นรูปธรรมอีกอย่าง คือ บทกลอนที่เราจัดประกวดในปีหนึ่ง กลายมาเป็นบทเพลงอมตะนาม เพลง หยดน้ำเจ้าพระยา (บทกลอนที่ชนะการประกวดสำนวน ศิริพงษ์ จันทน์หอม ที่ครู เอื้อ สุนทรสนาน นำไปใส่ทำนอง) ให้นักร้องนักดนตรีคณะสุนทราภรณ์ขับร้องและบรรเลง โด่งดังเป็นเพลงที่คุ้นหูจับใจคนทั้งหลายมานาน ในวาระเช่นนี้ ในยามที่เพลงลอยกระทงก้องไปทั่วบ้านเมือง และทุกห้วงน้ำ ที่ผ่านมา ทำให้ผู้เขียนอดคิดถึงกิจกรรมสำคัญในวันเพ็ญเดือนสิบสองไม่ได้ แม้ไม่ได้ไปลอยกระทงที่ใด ก็ขออธิษฐานด้วยความรู้สึกทั้งหลายดังนี้ “ลอยกระทงลงน้ำค่ำวันนี้ ตั้งจิตพลีอธิษฐานแด่ธารใส ขอขมาแม่น้ำก้ำเกินไป บูชาชัยรอยบาทพระศาสดา ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ถวายชัยวงศ์กษัตริย์–ศาสนา อวยพรชัยไทยทั้งชาติ-ราษฎร์ประชา ชื่นชีวาไกลโศกไร้โรคภัย “ลอยเหล่านัก “โกงเมือง” เรืองอำนาจ ใครฉ้อราษฎร์บังหลวงจงกษัย ใครโกงวัดสัตว์นรกฉกตัวไป มีดวงไฟเผาชีวิตนิจนิรันดร์ ใครโกงหุ้น-ให้ทุนหายไปชั่วโคตร โกงโฉนด-ไร้แผ่นดินสิ้นสุขสันต์ ใครคิดแยกแดนดินถิ่นสัมพันธ์ ให้ไร้ที่ซุกชีวันนับวันวาย ใครโกงข้าวขอให้ข้าวจงขาดหม้อ ชีวิตรอแต่วันดับลับสลาย โกงรถไฟ-ให้สิ้นทางตราบวางวาย ทำงานหนักจมปลักตายยิ่งควายวัว ใครโกงสายการบินกินเงินชาติ ให้ชีพขาดไร้เงินทองได้ของชั่ว ใครโกงเงินผู้ชราพาพันพัว เงินทองตัวต้องใช้หนี้อย่ามีรวย “ ใครโกงชาติเชิงนโยบายเฉกขายชาติ อย่าแคล้วคลาดจงจมทุกข์จุกเจ็บป่วย ใครชักศึกเข้าบ้านพาลมอดม้วย ให้ชีพ “ซวย” อย่าสมหวังใดทั้งมวล ใครกินนมเด็กนักเรียนชีพเหียนหัน ทุกคืนวันโรครุมเร้าเข้าปั่นป่วน ใครโยงใยข่ายกินเมืองเรืองร่วมก๊วน จงแล้วล้วนลอยกระทงลงนรก “ตรงกันข้ามใครทำดีมีศีลสัตย์ จงวิวัฒน์ด้วยความดีที่ป้องปก ชีวิตรอดปลอดภัยไม่เวียนวก ตลอดศกสุขสันต์นิรันดร์เทอญ @
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ประยอม ซองทอง
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/111885
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
ชีวิตคือความรื่นรมย์
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Dec 2017
ทบทวนเรื่องเกี่ยวกับวันภาษาไทยแห่งชาติ (1)
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Nov 2017
รำลึกพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Oct 2017
ตามรอยพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ