สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
มิคาเอล กเรเว
"ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์พิเศษ มิคาเอล กเรเว ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดฟอร์มูลา : คุณมองว่าสถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2558 นี้จะเป็นอย่างไร ? กเรเว : ภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2558 ช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลายฝ่ายมองว่าจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2557 แต่จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังตกลง รวมถึงสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ยังตกลงอย่างต่อเนื่อง แต่จากปัจจัยและสิ่งแวดล้อมในหลายด้าน คาดว่าคงจะไม่ตกลงไปกว่านี้อีก ปีนี้ถือเป็นปีที่ยากอีกปีหนึ่งของอุตสาหกรรมรถยนต์ ทั้งในเรื่องยอดขายในประเทศ และการผลิตที่รวมถึงการส่งออก จะเห็นว่าแต่ละบริษัทมีความท้าทายอย่างมากที่จะสร้างยอดขายให้เติบโต สำหรับในปี 2559 หวังว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะดีขึ้น แต่จะดีขึ้นขนาดไหนนั้น ต้องดูที่การเปลี่ยนแปลงว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เพราะถ้าจะดูที่เรื่องของภาษีสรรพสามิต ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2559 นั้น จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร อีกทั้งยังมีปัจจัยและสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่จะเป็นตัวชี้วัดตลาดด้วย แต่อย่างไรก็ตามยังหวังว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะดีขึ้น ฟอร์มูลา : ภาษีสรรพสามิตที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 มกราคม 2559 มีผลกระทบอย่างไรกับ เมร์เซเดส-เบนซ์ หรือไม่ ? กเรเว : ปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน เนื่องจากต้องทำความเข้าใจเรื่อง CO2 และราคาหน้าโรงงาน เกี่ยวกับเรื่องราคาขาย เพราะจนถึงขณะนี้ภาครัฐยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเทคโนโลยี CO2 และนวัตกรรมใหม่ถือว่า เมร์เซเดส-เบนซ์ มีคุณภาพดี และถือเป็นแต้มต่อในการเสียภาษี ซึ่งจุดนี้ไม่น่าจะเกิดผลกระทบแต่อย่างใด ฟอร์มูลา : คุณมองว่าปัจจุบัน เมร์เซเดส-เบนซ์ ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดในประเทศไทย ? กเรเว : ความสำเร็จของ เมร์เซเดส-เบนซ์ หากมองในเรื่องการเติบโตของยอดขายถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เห็นได้จากยอดขายโดยรวมตกลง แต่ เมร์เซเดส-เบนซ์ มียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งในปีที่แล้วมียอดขายถึง 11,0000 คัน ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากลูกค้า ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ เป็นลูกค้าระดับพรีเมียม ไม่ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ อีกส่วนหนึ่งมาจากสินค้าที่ปัจจุบัน เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้มีการขยายกลุ่มสินค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเศรษฐกิจ แต่เปิดตัวสินค้าตามกำหนด นำเสนอความเป็นรถยนต์ระดับพรีเมียมให้ลูกค้าได้รับรู้ และทราบถึงการบริการหลังการขาย การตลาด ซีอาร์เอม การจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมดถือเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จ นอกจากนี้จะเห็นว่าจากการที่ เมร์เซเดส-เบนซ์ ขยายกลุ่มสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้ได้กลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ เป็นครั้งแรกเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยจะเป็นคนที่มีรถคันแรก เข้าใจในบแรนด์มากขึ้นว่าไม่ใช่รถที่เหมาะสำหรับคนสูงอายุเท่านั้น ซึ่งการที่มีกลุ่มคนรุ่นใหม่หันมาใช้รถ เมร์เซเดส-เบนซ์ เพิ่มขึ้นนั้นตรงกับเป้าหมายของบริษัท ฯ ที่ต้องการให้รถ เมร์เซเดส-เบนซ์ เป็นรถสำหรับเจเนอเรชันใหม่ ฟอร์มูลา : คุณวางนโยบาย และทิศทางไว้อย่างไร ? กเรเว : บริษัท ฯ มุ่งเน้นเรื่องการสร้างการเติบโต ซึ่งเป้าหมายของการสร้างการเติบโตให้เพิ่มมากขึ้น บริษัท ฯ จะต้องนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้เป็นเจ้าของได้มากขึ้น เน้นการตอบโจทย์ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย นำสินค้าออกไปให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงบแรนด์ได้ง่ายขึ้น นอกเหนือจากการเดินเข้าไปในโชว์รูม ตัวอย่าง เช่น การเปิด เมร์เซเดส-เบนซ์ คาเฟ ที่ศูนย์การค้า ดิ เอมโพเรียม กิจกรรมการตลาด ที่สร้างสรรค์ขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ BEST CUSTOMER EXPERIENCE ที่ เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้ผสานแนวทางการดำเนินงาน ทั้งในด้านการตลาด การขาย และการบริการหลังการขายเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษ และไม่เหมือนใครให้แก่ลูกค้าแต่ละท่านโดยเฉพาะ ตั้งแต่ก้าวแรกที่ลูกค้าเดินทางมาถึง เมร์เซเดส-เบนซ์ คาเฟ ไปจนถึงการให้คำปรึกษา การทดลองขับขี่ การเลือกซื้อ และการบริการหลังการขาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้นำเสนอกลยุทธ์ทางการขาย และการตลาดหลากหลายรูปแบบที่ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้า รวมถึงการแสดงรถยนต์ในงาน "มหกรรมยานยนต์" และ "มอเตอร์โชว์" ที่ เมร์เซเดส-เบนซ์ ใช้งบประมาณการลงทุนอย่างมาก เพื่อการแนะนำสินค้าใหม่ รวมถึงนวัตกรรมที่แสดงถึงเทคโนโลยีของ เมร์เซเดส-เบนซ์ และการออกบูธแสดงสินค้าในศูนย์การค้า หรืองานแสดงต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ของบแรนด์ในทุกช่องทางการสื่อสาร สำหรับในส่วนของตัวแทนจำหน่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้มีการปรับปรุง และปรับโฉมโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการให้มีความทันสมัย บ่งบอกถึงความเป็น เมร์เซเดส-เบนซ์ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยการนำรูปแบบของเทคโนโลยี ความทันสมัยไฮเทค เข้ามาใช้ในเรื่องการขาย การบริการ เป็นต้น ฟอร์มูลา : การเปิด เมร์เซเดส-เบนซ์ คาเฟ จะมีอีกหรือไม่ ? กเรเว : การสร้างกิจกรรมการตลาดใหม่ๆ จะมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จะอยู่ในรูปแบบไหนนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะเป็นอย่างไร หรืออาจจะทำเป็นแบบ เมร์เซเดส-เบนซ์ คาเฟ ก็ได้ แต่โดยคอนเซพท์ต้องการสร้างประสบการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนใคร อยู่ใจกลางเมือง ย่านธุรกิจ แฟชัน เพื่อที่จะเข้าไปหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรูปแบบจะเน้นไปในการสร้างความตื่นเต้น มากด้วยเทคโนโลยี และความทันสมัย คาดว่าจะได้เห็นอีกครั้งในปีหน้า ฟอร์มูลา : กลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขัน และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ? กเรเว : เมร์เซเดส-เบนซ์ เป็นรถยนต์ระดับพรีเมียม ลูกค้าของ เมร์เซเดส-เบนซ์ ส่วนใหญ่จะไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการเงิน เพราะฉะนั้นในการสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าจะต้องนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง พร้อมสะท้อนคุณค่าหลักของบแรนด์ ไม่ทำให้บแรนด์ดูด้อยลง มีราคาสมเหตุสมผล มีราคาขายต่อที่ดี มอบข้อเสนอพโรแกรม MYSTAR จาก เมร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิง นวัตกรรมทางการเงินที่มอบสิทธิประโยชน์ และทางเลือกแบบใหม่ คือ การคืนรถให้กับบริษัท หรือการเลือกจ่ายเงินจำนวนที่เหลือทั้งหมด แล้วเป็นเจ้าของรถ หรือเลือกที่จะรีไฟแนนศ์แล้วผ่อนชำระต่อ ทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ฟอร์มูลา : ปีนี้คุณตั้งเป้ายอดขายไว้เท่าไร ? กเรเว : นับตั้งแต่ เมร์เซเดส-เบนซ์ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย 110 ปี ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และนับตั้งแต่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฯ ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยกว่า 14 ปี เมร์เซเดส-เบนซ์ ครองเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถพรีเมียม และในปี 2557 เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของการทำยอดขายสูงสุดตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท 11,328 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2556 12 % ซึ่งในปี 2558 บริษัท ฯ ยังคงตั้งเป้ายอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้นเพื่อคงความเป็นผู้นำในตลาดรถพรีเมียม พร้อมการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากกว่า 15 รุ่น ครอบคลุมทุกเซกเมนท์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ฟอร์มูลา : รถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" มีกี่รุ่น ? กเรเว : ปี 2558 เมร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งเป้าเดินเกมรุกด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 15 รุ่น ซึ่งได้เริ่มทยอยเปิดตัวไปแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สำหรับในช่วง "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32" ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2558 เมร์เซเดส-เบนซ์ จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างแน่นอน เพราะการแสดงยานยนต์ครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ถือเป็นกลยุทธ์หลักในการนำสินค้าไปให้ลูกค้าได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับแผนการผลิตรถพิคอัพของ เมร์เซเดส-เบนซ์ ? กเรเว : การศึกษาผลิตรถพิคอัพ เป็นแผนของบริษัทแม่ ไดมเลร์ เอจี ซึ่งแผนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับประเทศไทยังไม่มีแผน และผมมองว่า เมร์เซเดส-เบนซ์ เป็นรถยนต์ระดับพรีเมียม การวางแผนการผลิต หรือการทำตลาดจะต้องมีการศึกษาว่าจะทำอย่างไรให้ลงตัวมากที่สุด และยังรักษาภาพลักษณ์ความเป็นพรีเมียม ซึ่งจะออกมาเป็นรูปแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับบริษัทแม่เป็นผู้ตัดสินใจ ฟอร์มูลา : เมร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวหลากหลายรุ่น แต่ไม่มีนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีใหม่ เช่น รถไฟฟ้า เป็นต้น คุณมีความคิดเห็นอย่างไร ? กเรเว : เมร์เซเดส-เบนซ์ มองว่า เทคโนโลยี ไฮบริด เป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานได้ดีที่สุดในโครงการพื้นฐานของประเทศไทย พร้อมยังเหมาะสมกับโครงสร้างภาษีใหม่ มอเตอร์ ไฟฟ้า มลพิษน้อยลง เพราะถึงแม้ว่าอนาคตโลกยานยนต์จะเน้นไปที่ไฟฟ้า แต่ในขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2558
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/105429