เผยโฉม เฟียต 500 ใหม่ ผลิตที่โรงงานในโปแลนด์ จะออกจำหน่ายกลางปีนี้ อิตาลี-ยักษ์ใหญ่ของเมืองมะกะโรนี เปิดเผยโฉมหน้าและรายละเอียดของรถ เฟียต 500 (FIAT 500) รุ่นใหม่ ออกมาแล้ว พร้อมประกาศว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอิตาลี วันที่ 4 กรกฎาคม 2007 นี้ และไม่กี่วันหลังจากนั้นก็จะนำออกจำหน่าย ครึ่งศตวรรษพอดิบพอดีหลังจากการเปิดตัวของรถ เฟียต 500 รุ่นดั้งเดิม เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1957 ยักษ์ใหญ่ของเมืองมะกะโรนี ก็สร้างข่าวใหญ่แพร่กระจายไปทั่วโลก ด้วยการเปิดเผยโฉมหน้าของรถ เฟียต 500 รุ่นใหม่ พร้อมให้รายละเอียดว่า รถรุ่นใหม่นี้ เป็นผลงานรังสรรค์ที่ทีมงานออกแบบของ เฟียต ออกแบบขึ้นเอง มีตัวถังเพียงแบบเดียว เป็นตัวถัง 3 ประตูทรง 2 กล่องขนาดเล็กกะทัดรัด ยาว 3.550 ม.กว้าง 1.650 ม. สูง 1.490 ม.และมีช่วงฐานล้อยาว 2.300 ม. รูปทรงองค์เอวของตัวถังภายนอก เหมือนกันแทบจะทุกประการกับรถแนวคิด เฟียต ตเรปิอูโน (FIAT TREPIUNO) ซึ่งปรากฏตัวเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา เมื่อเดือนมีนาคม 2004 มีความแตกเล็กๆ น้อยๆ ที่พอสังเกตเห็นได้อยู่เพียง 2 จุด คือ ที่เปิดประตู กับช่องดักอากาศในกันชนหน้า ส่วนภายในห้องโดยสารมีการเปลี่ยนแปลงอยู่มากมาย ตัวอย่าง คือ แผงหน้าปัดที่ดัดแปลงมาจากรถอนุกรมพี่ คือ เฟียต ปันดา (FIAT PANDA) มีมาตรวัดรูปวงกลมอยู่เพียงมาตรเดียว แต่บอกข้อมูลที่จำเป็นทั้ง 4 อย่าง คือ ความเร็ว รอบเครื่อง ระดับเชื้อเพลิง และเวลา ส่วนรูปลักษณ์ในรถแนวคิดที่ยังคงรักษาไว้ คือ ที่รองรับศีรษะซึ่งมีรูปทรงแปลกไปจากที่เคยเห็นกันทั่วๆ ไป คือ เป็นรูปวงกลม ในระยะแรกที่ออกจำหน่ายในตลาดยุโรป ด้วยค่าตัวเริ่มต้นที่ระดับ 12,000 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 0.56 ล้านบาทไทย จะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้รวม 3 ขนาด คือ เครื่อง SOHC 4 สูบเรียง 1.2 ลิตร 69 แรงม้า เครื่อง DOHC 4 สูบเรียง 1.4 ลิตร 100 แรงม้า และเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1.3 ลิตร 75 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์จะมีให้เลือกสองแบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 หรือ 6 จังหวะ บอกเป็นข้อมูลเพิ่มเติมไว้สักนิดว่า รถขนาด มีนี ฟอร์ด คา (FORD KA) รุ่นใหม่ ซึ่งจะออกจำหน่ายในปี 2008 ก็พัฒนามาพร้อมๆ กับรถ เฟียต 500 รุ่นใหม่นี้ แถมยังจะผลิตจากโรงงานเดียวกัน รวมทั้งจะใช้ชิ้นส่วนหลายชิ้นร่วมกันด้วย เช่น พแลทฟอร์ม เฟียต จะใช้โรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองไทชี (TYCHY) ในโปแลนด์ เป็นที่ผลิตรถรุ่นนี้ โรงงานดังกล่าวมีกำลังผลิตรถยนต์ 540,000 คัน/ปี โดยที่ 250,000 คัน เป็นยอดผลิตของรถ เฟียต ปันดา (FIAT PANDA) ส่วนที่เหลืออีก 290,000 คัน จะแบ่งกันระหว่าง เฟียต 500 และ ฟอร์ด คา ก่อนหน้านี้ คือ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ กลุ่ม เฟียต ออโท (FIAT AUTO) ซึ่งมีรถยนต์อยู่ในเครือข่ายหลายยี่ห้อ ได้ประกาศข่าวการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เฟียต กรุพ ออโทโมบิลส์ เอสพีเอ (FIAT GROUP AUTOMOBILES SPA) รวมทั้งมีการก่อตั้งบริษัทลูกขึ้นใหม่รวม 4 บริษัท คือ เฟียต ออโทโมบิลส์ เอสพีเอ (FIAT AUTOMOBILES SPA) อัลฟา โรเมโอ ออโทโมบิลส์ เอสพีเอ (ALFA ROMEO AUTOMOBILES SPA) ลันชา ออโทโมบิลส์ เอสพีเอ (LANCIA AUTOMOBILES SPA) และ เฟียต ไลท์ คอมเมอร์เชียล เวฮิเวิลส์ เอสพีเอ (FIAT LIGHT COMMERCIAL VEHICLES SPA) ในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งที่ 77 ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-18 มีนาคม ที่ผ่านมา มีการคัดเลือก CABRIO OF THE YEAR หรือ "ยอดรถเปิดประทุนแห่งปี" ดังเช่นที่เคยทำติดต่อกันมาทุกปี นับแต่ปี 1994 ปรากฏว่าในปีนี้ คณะกรรมการผู้ตัดสินซึ่งประกอบด้วยสื่อมวลชนด้านรถยนต์จำนวน 21 คน ได้ตัดสินมอบรางวัลนี้ให้แก่รถเปิดประทุนซึ่งเพิ่งออกจำหน่ายเมื่อปี 2006 คือ โอเพล จีที (OPEL GT) ที่เห็นในภาพ รางวัล "ยอดรถเปิดประทุนแห่งปี" กำหนดกติกาการตัดสินไว้อย่างง่ายๆ เพียง 2 ข้อ โดยระบุว่ารถที่มีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือก ต้องเป็นรถเปิดประทุนซึ่งไม่เคยปรากฏตัวในงานนี้มาก่อน และต้องมีราคาขายในสวิทเซอร์แลนด์ไม่สูงกว่า 60,000 สวิสฟรองศ์ หรือเท่ากับประมาณ 1.75 ล้านบาทไทย นับแต่การตัดสินครั้งแรกในปี 1994 เป็นต้นมา มีรถที่ครอบครองตำแหน่งนี้ไปแล้วรวม 14 แบบ ดังนี้ 1994 เปอโฌต์ 306 (PEUGEOT 306) 1995 เฟียต บาร์เคตตา (FIAT BARCHETTA) 1996 บีเอมดับเบิลยู เซด 3 โรดสเตอร์ (BMW Z3 ROADSTER) 1997 เมร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค (MERCEDES-BENZ SLK) 1998 เชฟโรเลต์ คามาโร คอนเวอร์ทิเบิล (CHEVROLET CAMARO CONVERTIBLE) 1999 ฮอนดา เอส 2000 โรดสเตอร์ (HONDA S2000 ROADSTER) 2000 โอเพล สปีดสเตอร์ (OPEL SPEEDSTER) 2001 เปอโฌต์ 206 เซเซ (PEUGEOT 206 CC) 2002 เอมจี ทีเอฟ (MG TF) 2003 ซีตรอง เซ ตรัวส์ ปลือรีแอล (CITROEN C3 PLURIEL) 2004 โอเพล ทีกรา ทวิน ทอพ (OPEL TIGRA TWIN TOP) 2005 นิสสัน 350 เซด โรดสเตอร์ (NISSAN 350Z ROADSTER) 2006 อัลฟา โรเมโอ สไปเดอร์ (ALFA ROMEO SPIDER) 2007 โอเพล จีที (OPEL GT)