ทดสอบ(4wheels) 18 Aug 2018
TOYOTA C-HR 1.8 MID/HV HI
4 WHEELS นำครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีสุดฮอท ค่าย โตโยตา ทั้งรุ่น 1.8 มิด เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 140 แรงม้า และรุ่น เอชวี ไฮ ขุมกำลังแบบไฮบริด 122 แรงม้า มาเปรียบเทียบสมรรถนะกับคู่แข่งอย่าง ฮอนดา เอชอาร์-วี และมาซดา ซีเอกซ์-3 ด้วยผลทดสอบที่เราเคยทำมาก่อนหน้านี้ ส่วนใครจะร้อนแรงกว่ากันนั้น ต้องติดตาม
EXTERIOR ภายนอก
โตโยตา ซี-เอชอาร์ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่ออกแบบหลังคาลาดเทคล้ายกับรถสไตล์คูเป ตามชื่อรุ่น “C-HR” ซึ่งย่อมาจาก COUPE HIGH RIDER มีความยาว/กว้าง/สูง อยู่ที่ 4,360/1,795/ 1,565 มม. และระยะฐานล้อ 2,640 มม. เมื่อนำไปเทียบกับ ฮอนดา เอชอาร์-วี พบว่า ซี-เอชอาร์ จะยาวและกว้างกว่าอยู่เล็กน้อย (66/23 มม.) และมีฐานล้อยาวกว่า 30 มม. แต่มีหลังคาเตี้ยกว่าอยู่ 40 มม. ถ้าเทียบกับ มาซดา ซีเอกซ์-3 มีขนาดใหญ่กว่าทุกมิติ (85/30/15/70 มม. ตามลำดับ)
ไฟหน้าพโรเจคเตอร์แบบแอลอีดี มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟเลี้ยวแบบ แอลอีดี อยู่ในโคมเดียวกัน ในรุ่น เอชวี ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานจะวิ่งไปในทิศทางซ้ายหรือขวา คล้ายกับ เลกซัส เอนเอกซ์ รับกับเส้นสายด้านข้าง ที่เปิดประตูคู่หลังออกแบบไว้ช่วงบนคล้ายกับ ฮอนดา เอชอาร์-วี แต่ต่างกันตรงที่มือเปิดเป็นก้านดึง ซึ่งสามารถจับเปิดได้ทั้งหงาย/คว่ำมือ ทำให้เปิดได้สะดวกทั้งมือซ้าย/ขวา
หลังคาสีดำของ โตโยตา ซี-เอชอาร์ รุ่น เอชวี (ทั้ง ไฮ และมิด) ดูเด่น มากกว่าซันรูฟของ ฮอนดา เอชอาร์-วี รุ่นทอพ อีแอล
ล้อแมกขนาด 17 นิ้ว ของ โตโยตา ซี-เอชอาร์ มีขนาดใกล้เคียงกับของ ฮอนดา เอชอาร์-วี แต่เล็กกว่าล้อขนาด 18 นิ้ว ของ มาซดา ซีเอกซ์-3
INTERIOR ภายใน
ภายในห้องโดยสารสีทูโทน ดำและน้ำตาล แผงคอนโซลหน้าหุ้มวัสดุคล้ายหนัง เนียนนุ่ม ส่วนแผงประตูด้านข้างทั้ง 4 บาน ก็เป็นอีกไฮไลท์ เพราะมีแผงพลาสติคสีน้ำตาลขึ้นรูปเป็นมิติคล้ายเหลี่ยมเพชรขนาดเล็ก หลังคายังบุด้วยฟองน้ำสีดำ มีลวดลายลึกตื้น ทำให้ภายในรถดูลึกมีมิติ เบาะคู่หน้าสปอร์ทกว่าคู่แข่ง แต่น่าจะมีระบบปรับด้วยไฟฟ้ามาให้ (ฮอนดา เอชอาร์-วี รุ่นอีแอล และอาร์เอส มีเบาะปรับไฟฟ้าฝั่งคนขับ)
พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง/จอแสดงข้อมูลการขับ/เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย/ขวา เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ T-CONNECT TELEMATICS ในรุ่น เอชวี สามารถเชคตำแหน่งรถผ่านแอพพลิเคชัน FINE MY CAR หรือ APPLE WATCH รวมไปถึง ติดตั้งระบบ WI-FI เชื่อมต่อได้สูงสุด 9 อุปกรณ์ แต่ช่องเสียบ USB มีให้เพียงช่องเดียวเท่านั้น
สำหรับพื้นที่นั่งด้านหลังคนตัวสูงนั่งได้โดยศีรษะไม่ชนกับเพดาน แต่ถ้ามองออกมาด้านข้างจะรู้สึกอึดอัดบ้าง เพราะมีช่องกระจกที่แคบแบบคูเป พื้นที่เก็บสัมภาระที่มีอยู่ก็ไม่ได้คับแคบอย่างที่คิด เพราะเราสามารถใส่อุปกรณ์ทดสอบทั้ง 4 กล่องได้โดยไม่ต้องพับพนักพิงเบาะ
วัดระดับเสียงรบกวนจากความเร็วคงที่ 60/ 80/100/120 กม./ชม. โตโยตา ซี-เอชอาร์ 1.8 มิด ทำได้ 61/63/66/68 เดซิเบล อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี พอๆ กับคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน อย่าง ฮอนดา เอชอาร์-วี ที่ทำได้ 61/64/67/69 เดซิเบล
ส่วนตัวไฮบริด รุ่น เอชวี ไฮ ทำได้ 60/62/66/ 69 เดซิเบล อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี แต่มีระดับเสียงรบกวนมากกว่า มาซดา ซีเอกซ์-3 2.0 เอสพี อยู่เพียงเล็กน้อย และเมื่อเทียบกับตัวเลข 52/56/60/66 เดซิเบล ของ ซีเอกซ์-3 เครื่องยนต์ดีเซล รุ่น 1.5 เอกซ์ดีแอล นั้นต่างกันมากพอสมควร ซึ่งนั้นน่าจะเป็นผลจากมีระบบดูด อากาศจากห้องโดยสารเพื่อระบายความร้อนแบทเตอรีไฮบริด
ENGINE เครื่องยนต์
โตโยตา ซี-เอชอาร์ 1.8 มิด ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 140 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 17.8 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. รองรับน้ำมัน อี 85 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติซีวีที (CVT) 7 จังหวะ ถ้าเทียบกับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 141 แรงม้า ของ ฮอนดา เอชอาร์-วี พบว่า 2 คัน ตอบสนองอัตราเร่งใกล้เคียงกัน แต่ ซี-เอชอาร์ โดดเด่นกว่าตรงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ส่วนเมื่อเทียบกับ มาซดา ซีเอกซ์-3 ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ซี-เอชอาร์ เป็นรองในเรื่องอัตราเร่ง เนื่องจากเครื่องยนต์มีขนาดเล็กกว่า
ส่วนรุ่น เอชวี ไฮ ใช้ระบบไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว 98 แรงม้า ที่ 5,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. ที่ 3,600 รตน. รองรับน้ำมัน อี 20 ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร 72.1 แรงม้า เมื่อทำงานพร้อมกันให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า เทียบกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ของ มาซดา ซีเอกซ์-3 ที่เน้นความประหยัด ซี-เอชอาร์ ไฮบริด ประหยัดกว่าช่วงความเร็วต่ำ แต่ข้อได้เปรียบนี้จะค่อยๆ ลดลง เมื่อความเร็วเพิ่มสูงขึ้น
อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. 0-400 ม. และอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. โตโยตา ซี-เอชอาร์ รุ่น 1.8 มิด ทำได้ 12.2/18.7/33.5 วินาที ตามลำดับ ช้ากว่า ฮอนดา เอชอาร์-วี ที่ทำไว้ 11.5/18.4/32.7 วินาที เล็กน้อย และใกล้เคียงกับ มาซดา ซีเอกซ์-3 ดีเซล ที่ทำไว้ 12.2/18.5/33.9 วินาที
ส่วน โตโยตา ซี-เอชอาร์ รุ่น เอชวี ไฮ ทำได้ 13.1/19.0/34.4 วินาที ตามปิดท้าย และปล่อยให้ มาซดา ซีเอกซ์-3 รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ขึ้นนำในกลุ่มนี้ด้วยเวลา 10.1/ 17.2/26.9 วินาที
จังหวะเร่งแซงช่วงในเมือง 60-100 กม./ชม. และนอกเมือง 80-120 กม./ชม. รุ่น 1.8 มิด ทำได้ค่อนข้างดี ใช้เวลา 6.1/7.9 วินาที พอๆ กับตัวเลข 6.2/7.8 วินาที ของ ฮอนดา เอชอาร์-วี ส่วนรุ่น เอชวี ไฮ ทำได้ 7.1/9.4 วินาที ตามหลัง มาซดา ซีเอกซ์-3 ดีเซล ที่ทำไว้ 6.2/7.8 วินาที โดยมี มาซดา ซีเอกซ์-3 เบนซิน ที่ใช้เครื่องยนต์บลอคใหญ่ อยู่หัวแถวด้วยตัวเลข 5.1/6.4 วินาที
เมื่อวัดอัตราสิ้นเปลืองจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. รุ่น 1.8 มิด ทำได้ 26.5/22.0/17.2/14.1 กม./ลิตร ดีกว่า ฮอนดา เอชอาร์-วี ทุกช่วงความเร็ว (23.1/20.1/16.6/13.0 กม./ลิตร) ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ของ มาซดา ซีเอกซ์-3 (27.3/21.6/17.8/13.8 กม./ลิตร)
ส่วนรุ่น เอชวี ไฮ ทำได้ 39.1/24.1/16.1/14.4 กม./ลิตร เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ของ มาซดา ซีเอกซ์-3 ที่ทำไว้ 33.7/26.9/19.8/15.9 กม./ลิตร จะเห็นว่าระบบไฮบริดของ โตโยตา ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าดีเซลของ มาซดา ช่วงความเร็ว 60 กม./ชม. ซึ่งเป็นช่วงที่แบทเตอรีและมอเตอร์ได้แสดงฝีมือเต็มที่
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระและด้านหลังแบบปีกนกเซทได้อย่างลงตัว ไม่นุ่มไม่แข็งจนเกินไป การบังคับควบคุมพวงมาลัย เลี้ยวได้มั่นใจ ส่วนระบบเบรคเป็นแบบจานทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้ามีช่องระบายความร้อน พร้อมเอบีเอส และระบบกระจายแรงเบรค อีบีดี ตอบสนองเบรคตามน้ำหนักเท้า มีระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSA เบรคมือแบบไฟฟ้า อยู่ใกล้คันเกียร์ มีระบบ AUTO BRAKE HOLD ป้องกันรถเคลื่อนตัวขณะจอดโดยไม่ต้องเหยียบเบรคค้างไว้ และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
จากผลทดสอบหัวข้อเบรค โตโยตา ซี-เอชอาร์ ทั้งคู่ มีประสิทธิภาพการเบรคโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม โดยเฉพาะรุ่น 1.8 มิด หยุดที่ความเร็วสูง 100-0 กม./ชม. ทำได้ในระยะเพียง 40.1 ม. เท่านั้น ส่วนรุ่น เอชวี ไฮ มีระยะเบรคมากกว่ารุ่น 1.8 มิด อยู่เล็กน้อยในทุกช่วงความเร็ว
โตโยตา ซี-เอชอาร์ เป็นครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีที่ดึงดูดสายตา ด้วยเส้นสายทันสมัย ภายในมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ ขุมพลังที่เลือกได้ทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และแบบไฮบริด เน้นประหยัด และใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
ช่วงล่างขับสบายสไตล์ครอบครัว และควบคุมง่าย รวมทั้งระบบเบรคที่มั่นใจได้ ส่วนต่าง 120,000 บาท ระหว่างรุ่นกลาง เบนซิน ล้วน สมรรถนะพอตัวกับขยับไปรุ่นทอพ ไฮบริด ฟังค์ชันครบและความประหยัดที่มากขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องเลือก