ทดสอบ(formula) 1 Nov 2017
บีเอมดับเบิลยู เอม 2 คูเป
ความสปอร์ทแบบจัดเต็มในระดับที่ “ไม่ธรรมดา” จาก บีเอมดับเบิลยู สัมผัสได้ ตั้งแต่แรกเห็นจากรูปทรงที่ดุดัน เพิ่มความเร้าใจตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ ด้วย ซุ่มเสียงที่ก้องกังวาน นี่คือ เอม 2 คูเป น้องเล็ก สมรรถนะร้อนแรง ภายใต้ตัวถัง สปอร์ทคูเปขนาดเล็ก แต่ฉับไวไม่น้อยหน้าใคร ตามสไตล์รหัส M !
EXTERIOR ภายนอก
บีเอมดับเบิลยู เอม 2 คูเป พัฒนาต่อยอด มาจาก ซีรีส์ 2 สปอร์ทคูเปน้องเล็กประจำค่าย แต่เมื่อถูกสวมจิตวิญญาณตัวธงรหัส M รูปทรง ภายนอกจึงถูกปรับเปลี่ยนให้มีความแตกต่าง โดยสิ้นเชิง เห็นได้ชัดตั้งแต่รูปทรงของกันชน หน้า มีความดุดันมากกว่าเดิม ช่องรับอากาศ ขนาดใหญ่ คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ ขณะขับที่ความเร็วสูง กระจังหน้า “ไตคู่” ติด ตราสัญลักษณ์ M นอกจากนั้นกันชนท้ายก็ได้ รับการปรับเปลี่ยนให้ดุดันยิ่งขึ้น ท่อไอเสียคู่ใน ตำแหน่งฝั่งซ้าย/ขวา สปอยเลอร์ท้ายออกแบบ อย่างลงตัว แม้มีขนาดเล็กแต่สามารถสร้างแรง กดได้มากพอ สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรถสปอร์ท สมรรถนะสูง คือ ล้อแมกวงโต ลายเฉพาะของ M ขนาด 19 นิ้ว หน้ากว้างเป็นพิเศษ ซุ้มโป่งล้อถูก ขยายความกว้างกว่ารุ่นปกติ พร้อมเอกลักษณ์ ของรหัส M บริเวณช่องระบายอากาศ ด้านข้าง ซุ้มล้อด้านหน้า
องค์ประกอบต่างๆ ตามที่กล่าวมาทำให้ เอม 2 คูเป มีความแตกต่างจาก ซีรีส์ 2 ตั้งแต่แรกเห็น เส้นสายดุดัน แต่แฝงความเรียบง่าย หรูหรา สม กับสมรรถนะที่ฉับไวมากกว่ารุ่นธรรมดาหลาย ขุม และทำให้สปอร์ทคูเปคันนี้ พร้อมรูปทรงที่ ดุดันไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง เอม 4 แม้มิติตัวถังจะมี ความแตกต่างกัน
INTERIOR ภายใน
ห้องโดยสาร บีเอมดับเบิลยู เอม 2 คูเป มี พื้นที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 2 คน แม้จะมี เบาะด้านหลัง แต่พื้นที่คับแคบ ไม่สะดวกสำหรับ การโดยสารเท่าใดนัก นับเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับรถสปอร์ท สไตล์คูเป การตกแต่งโดยรวม เรียบง่าย แต่แฝงสัญลักษณ์ M ตามจุดต่างๆ เช่น ขอบประตูด้านล่าง ที่เบาะคู่หน้า รวมถึง บริเวณพวงมาลัย การตกแต่งเน้นโทนสีดำสลับ กับวัสดุอลูมิเนียม และลายคาร์บอนไฟเบอร์ การ ประกอบแน่นหนา ประณีต และสมราคา
เบาะนั่งอยู่ค่อนข้างต่ำ เน้นความรู้สึกกระชับ แน่น ตามแบบฉบับรถยนต์สมรรถนะสูง เบาะ โอบกระชับสรีระได้ดี ทัศนวิสัยโดยรวมค่อนข้าง น่าพอใจ ยกเว้นด้านหลังที่มุมมองอาจแคบเล็ก น้อย พวงมาลัยหุ้มหนัง ทรงสปอร์ท จับได้ถนัด มือ แพดเดิล ชิฟท์ มีขนาดใหญ่ และดูแข็งแรง กว่ารุ่นปกติ ส่วนมาตรวัดมีความเรียบง่ายแบบ ดั้งเดิม เป็นแบบแอนาลอกแยก 2 วง ขอบล่าง แบบดิจิทอลแสดงผลได้หลากหลาย ในจุดนี้เรา มีความรู้สึกว่าทางผู้ผลิตควรเพิ่มลูกเล่นด้าน การแสดงผลของสมรรถนะให้มากกว่านี้ จะเพิ่ม ความเร้าใจให้ผู้ขับได้อีก
จากที่กล่าวมาทำให้ เอม 2 คูเป เน้นสมรรถนะ การขับโดยแท้จริง บรรดาอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยไม่ ถูกนำมาติดตั้ง สิ่งต่างๆ ภายในห้องโดยสาร ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ มากกว่าเรื่องความสะดวกสบาย ถึงอย่างนั้นใน แง่ของการขับขี่ทางไกล เอม 2 คูเป สามารถ รองรับได้ดีเกินคาด แต่ยังมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ ใช้สอย และพื้นที่เก็บสัมภาระ
ENGINE เครื่องยนต์
บีเอมดับเบิลยู เอม 2 คูเป วางเครื่องยนต์ เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง ทวิน เพาเวอร์ เทอร์โบ กำลังสูงสุด 370 แรงม้า ที่ 6,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 47.4 กก.-ม. ที่ 1,400- 5,560 รตน. หากกดคันเร่งสุดทันทีทันใด จะมี แรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นมาเป็น 51.0 กก.-ม. ชั่ว ขณะหนึ่ง เพื่อเพิ่มสมรรถนะที่ฉับไวทันใจ ส่วน ระบบเกียร์เป็นแบบอัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ของ M รูปแบบของคันเกียร์ต้องใช้ความคุ้นเคย สักเล็กน้อย ทรงของคันเกียร์โค้งมน กระชับสั้น การเปลี่ยนเกียร์ทำได้ไหลลื่น ไม่ว่าจะเป็นโหมด อัตโนมัติ หรือโหมดสปอร์ทที่ผู้ขับต้องเปลี่ยน เกียร์ด้วยตนเอง
ความเร้าใจจากสมรรถนะของเครื่องยนต์ รหัส M รับรู้ได้ตั้งแต่การสตาร์ท เสียงเครื่องยนต์ แผดดัง ทุ้มต่ำ แต่บ่งบอกพละกำลังที่พร้อม ปลดปล่อยออกมาได้ทุกเมื่อ ผ่านท่อไอเสียคู่ที่ ติดตั้งระบบวาล์วเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า นับเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ เอม 2 คูเป จนเราอยากแนะนำ ว่า ใครก็ตามที่ได้ขับรถรุ่นนี้ ควรหาโอกาสเปิด กระจกขณะขับขี่ เพื่อสัมผัสกับซุ่มเสียงที่เร้าใจ ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยเฉพาะขณะทำ อัตราเร่ง ช่วยเพิ่มอรรถรสความสนุก และเร้าใจ จากรถสปอร์ทรุ่นนี้อีกอักโข !
หันมาดูตัวเลขสมรรถนะ เรานำรถสปอร์ท อีก 1 บแรนด์ ที่เน้นอารมณ์ขับสนุก อัตราเร่ง ฉับไว แม้รูปแบบตัวถังจะต่างกันเล็กน้อย รวม ถึงลักษณะการจัดวางเครื่องยนต์ นั่นคือ โพร์เช 718 บอกซ์สเตอร์ เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 6,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 38.8 กก.-ม. ที่ 1,950-4,500 รตน. เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. บีเอมดับเบิลยู เอม 2 คูเป ทำได้ที่ 5.6 วินาที ขณะที่ทาง โพร์เช 718 บอกซ์สเตอร์ คือ 5.4 วินาที เรียกได้ว่า สมรรถนะการออกตัวหนีไม่พ้นกันเลยทีเดียว ถัด มาที่ความเร็วตีนปลาย อัตราเร่งระยะ 0-1,000 ม. เอม 2 คูเป ทำเวลาที่ 24.6 วินาที (219.6 กม./ ชม.) ส่วน 718 บอกซ์สเตอร์ ทำได้ที่ 24.1 วินาที (224.2 กม./ชม.) สปอร์ทคูเปของ บีเอมดับเบิลยู ตามติดสปอร์ทพันธุ์แท้ของ โพร์เช ได้ไม่ห่างกัน ในทุกช่วงความเร็ว
อัตราเร่งยืดหยุ่นช่วงความเร็ว 60-100 และ 80-120 กม./ชม. เอม 2 คูเป ทำได้ 2.5 และ 2.9 วินาที ขณะที่ 718 บอกซ์สเตอร์ ที่ 2.7 และ 3.1 วินาที นับว่าการตอบสนองเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังของ เอม 2 คูเป ทำได้ดี มาก สามารถกลับมาชนะสปอร์ทเปิดประทุน เครื่องยนต์วางกลางลำอย่าง 718 บอกซ์สเตอร์ ได้ นอกเหนือจากความเร้าใจของซุ่มเสียงแล้ว สมรรถนะเครื่องยนต์รหัส M สามารถเทียบ เคียงรถสปอร์ทพันธุ์แท้ได้อย่างไม่น้อยหน้า เลยทีเดียว
ในหัวข้ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เราไม่ ได้ทำการทดสอบด้วยเครื่องมือวัดสมรรถนะ ดาทรอน ข้อมูลจากทางผู้ผลิตระบุมาว่า เอม 2 คูเป อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 12 กม./ลิตร อาจดูเป็นตัวเลขที่น่าพอใจสำหรับรถ
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบช่วงล่างของ เอม 2 คูเป ถูกปรับแต่ง มาโดยเฉพาะ ระยะฐานล้อที่สั้น รวมถึงระยะ โอเวอร์แฮงที่กระชับ ทำให้รถรุ่นนี้ตอบสนองการ หักเลี้ยวค่อนข้างไว รวมถึงอาการของล้อคู่หลัง ที่พร้อมจะส่งผ่านพละกำลังถึงระดับ “ท้ายปัด” ได้ไม่ยากเย็น แต่หากเปิดระบบช่วยเหลือแล้ว การควบคุม และแก้ไขอาการดังกล่าวสามารถ ทำได้ง่าย หากผู้ขับมีทักษะมากพอ ขณะที่การ ปิดระบบช่วยเหลือต่างๆ เพื่อเน้นความเร้าใจ แบบจัดเต็ม ควรทำในสนามแข่ง หรือบริเวณที่มี พื้นที่มากพอ จากบุคลิกที่ “ซุกซน” เอาเรื่องของ รถสปอร์ทพลังแรงรุ่นนี้
ประสิทธิภาพด้านระบบเบรค ผลตัวเลข ออกมาตามนี้ กับการเบรคที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. บีเอมดับเบิลยู เอม 2 คูเป มีระยะเบรค ที่ 13.1/23.4/36.5 ม. เมื่อเทียบกับ โพร์เช 718 บอกซ์สเตอร์ มีระยะเบรคที่ 12.9/22.4/35.5 ม. รถสปอร์ทเครื่องยนต์วางกลางลำ พร้อมระบบ เบรคประสิทธิภาพสูง ทำตัวเลขได้ดีกว่าเล็กน้อย แต่ถือว่ารถสปอร์ทคูเป เครื่องยนต์วางด้านหน้า อย่าง เอม 2 คูเป มีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน
เรามีความรู้สึกว่า รถสปอร์ทคูเปคันนี้ มี สมรรถนะเทียบเคียงรถสปอร์ทพันธุ์แท้หลาย รุ่น มีความคล่องตัว ขับสนุก ตอบสนองฉับไว ผนวกกับซุ่มเสียงที่เร้าใจในทุกขณะที่กดคันเร่ง โดยไม่คำนึงถึงเรื่องระบบอำนวยความสะดวก มากจนเกินไป ในแง่ของการใช้งานทั่วไป อาจ รองรับได้ดีในระดับหนึ่ง แต่รถคันนี้เหมาะสม กับการเป็นรถขับสนุกในวันหยุดเป็นครั้งคราว มากกว่า ภายใต้ค่าตัวที่ 5,939,000 บาท จัดว่าสูง พอสมควร แต่ใครที่เงินถึง และต้องการสัมผัส สมรรถนะที่เร้าใจในแบบฉบับรหัส M ถือว่าไม่ แพงจนเกินไป กับอัตราเร่งที่ไม่น้อยหน้าบรรดา รุ่นพี่ตัวแรง ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ขับจะ “ใจถึง” พร้อมปลดปล่อยสมรรถนะจากรถคันนี้มากน้อย แค่ไหนเท่านั้นแหละ !?!