ทดสอบ(formula) 2 Dec 2016
มาซดา เอมเอกซ์-5
เทคโนโลยีด้านยานยนต์มีความก้าวหน้าไปมาก รถยนต์แต่ละรุ่นสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่ เครื่องยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิง และระบบความปลอดภัยต่างๆ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับต้องการจากรถยนต์คันหนึ่ง นั่นคือ “ความสนุกจากการขับขี่” ที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในปัจจุบัน ครั้งนี้เรามาทดสอบรถยนต์ที่มีความโดดเด่นในแง่ดังกล่าว พร้อมกับการคว้ารางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศญี่ปุ่น ประจำปี 2558” มาแล้ว ! จะสมศักดิ์ศรีแค่ไหน มาดูกันเลย กับ มาซดา เอมเอกซ์-5
EXTERIOR ภายนอก
มาซดา เอกเอกซ์-5 เป็นสปอร์ทสไตล์โรดสเตอร์ขนาดกะทัดรัด สืบทอดกันมายาวนานถึงปัจจุบันเป็นทายาทลำดับที่ 4 แล้ว เส้นสายแบบ “โคโดะ” ถูกนำมาใช้ตามแบบฉบับรถยนต์ยุคปัจจุบันของ มาซดา ทำให้ เอมเอกซ์-5 รุ่นล่าสุด มีรูปทรงที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าที่เน้นความเรียบง่าย โค้งมน เปลี่ยนมาเป็นความคมเข้ม โฉบเฉี่ยว ดุดัน รอบคัน เห็นได้ชัดตั้งแต่ไฟหน้าทรงเรียว แหลมคม (รุ่นก่อนหน้านี้จะเน้นไฟหน้าทรงกลมโค้ง) พร้อมไฟตัดหมอกแบบแอลอีดี ดุยิ่งขึ้นด้วยสันเหลี่ยมบนฝากระโปรง เน้นความพลิ้วไหวของตัวถังส่วนหน้า ตามแบบฉบับโรดสเตอร์ขนานแท้ ไหลลื่นต่อเนื่องกับขอบประตูจรดตัวถังส่วนท้าย เมื่อเปิดประทุนจะทำให้ เอมเอกซ์-5 มีเส้นสายที่ไหลลื่นเป็นพิเศษ ไฟท้ายทรงกลม กับทรงเรียวถูกวางตำแหน่งติดกัน และช่วยให้ด้านท้ายปราดเปรียวกว่าเดิม
โรดสเตอร์จาก มาซดา รุ่นนี้เป็นแบบประทุนผ้าใบ ทำให้ความโดดเด่นจะเห็นได้ชัดเมื่อเปิดประทุน อย่างไรก็ตามประทุนผ้าใบที่ติดตั้งมาให้มีความกลมกลืนอย่างน่าพอใจ ประกบได้แนบสนิทกับเสา เอ เพดานของผ้าใบมีลักษณะราบเรียบ ส่วนโครงของประทุนติดกับส่วนที่เก็บแนบกับฝากระโปรงท้าย (เมื่อเปิดประทุน) ขณะที่ล้อแมกมีขนาด 17 นิ้ว รมดำ และดูสปอร์ทไม่เบา
INTERIOR ภายใน
ภายในของ เอมเอกซ์-5 มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด รองรับผู้โดยสาร 2 คน นับเป็นเรื่องธรรมดาของสปอร์ทโรดสเตอร์ แต่เราพบว่าเบาะนั่งมีตำแหน่งสูงขึ้นมาเกินคาด ผนวกกับกระจกหน้าต่างมีขนาดใหญ่ ทำให้ขณะขับขี่ ความรู้สึกปลอดโปร่ง และไม่อึดอัดเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ แต่น่าเสียดายที่เบาะผู้ขับไม่สามารถปรับระดับสูง/ต่ำได้ ตำแหน่งขาของผู้ขับโดยรวมจะอยู่ในแนวราบ พวงมาลัยทรงเรียว ให้อารมณ์ย้อนยุคเล็กน้อย แต่ไม่กระชับมือเท่าที่ควร แผงหน้าปัดแบบดั้งเดิมมองเห็นได้ชัดเจน ตรงกลางเป็นมาตรวัดโดยรอบเครื่องยนต์ หัวเกียร์ทรงกลม ให้ความรู้สึกคล้ายเกียร์ธรรมดาดั้งเดิม และก้านเบรคมือติดตั้งติดกับผู้ขับ (อาจเอาใจผู้ที่ชอบ “ดริฟท์” พอหอมปากหอมคอด้วยการใช้เบรคมือเข้าช่วย !)
ขณะเปิดประทุน กระจกหน้าต่างขึ้นจนสุด ลมหวนที่ปะทะผู้โดยสารค่อนข้างน้อย กระจกหน้าถูกออกแบบให้มีองศาที่พอเหมาะ ลมที่ปะทะจึงไหลผ่านเหนือศีรษะผู้โดยสาร จะรู้สึกก็เพียงลมที่ผ่านบริเวณปลายผมด้านบนเท่านั้น นับเป็นอรรถรสที่รถยนต์ประเภทอื่นไม่สามารถตอบสนองได้
อย่างไรก็ตามข้อจำกัดของรถสปอร์ทประเภทนี้ยังคงมีให้เห็น นั่นคือ อุปกรณ์ใช้สอยบางอย่างขาดหายไป (แม้จะเป็นรถนำเข้า ราคา 2 ล้านบาทปลายๆ ก็ตาม) เช่น ระบบเนวิเกเตอร์ (เป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้งเพิ่มเติม โดยมีโหมดการใช้งานรองรับไว้แล้ว พร้อมช่องใส่ SD CARD สำหรับแผนที่) สิ่งที่ควรติดตั้งมาให้ อย่างกล้องมองหลัง กลับไม่มี ทำให้เวลาถอยรถต้องใช้ความระมัดระวังมาก เนื่องจากส่วนท้ายที่สั้นของโรดสเตอร์ ทำให้ผู้ขับมองไม่เห็นเมื่อเหลียวหลังมองจากเบาะนั่ง แม้จะมีสัญญาณเตือนขณะถอยมาให้ แต่กล้องมองหลังจะช่วยได้มากกว่า นอกจากนี้ยังไม่มีปลั๊กเสียบไฟฟ้าทรงกลมที่พบเห็นในรถทั่วไป มีเพียงช่อง USB เท่านั้น อาจเป็นปัญหาสำหรับอุปกรณ์เสริมบางอย่างที่ต้องใช้ปลั๊กไฟฟ้าดังกล่าว เช่น อุปกรณ์นำทาง จีพีเอส เป็นต้น นอกจากนี้ช่องเก็บของยังค่อนข้างจำกัด ไม่มีลิ้นชักเก็บของด้านหน้าผู้โดยสารข้างคนขับ แต่มีช่องเก็บของกึ่งกลางเบาะนั่ง และด้านหลังซ่อนอยู่หลังเบาะ ขณะที่ช่องเก็บของถัดจากคันเกียร์เป็นแบบทรงตื้น ใครที่ชอบเดินทางไกล อาจอุ่นใจได้บ้าง เมื่อพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายมากพอสำหรับการจุกระเป๋าโดยสารขนาดเล็กจำนวน 2-3 ใบ เนื่องจากมีความลึกในแนวตั้งพอสมควร
ENGINE เครื่องยนต์
มาซดา เอมเอกซ์-5 รุ่นล่าสุด ได้รับการวางเครื่องยนต์ยุคใหม่ของค่าย นั่นคือ สกายแอคทีฟ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แม้ตัวเลขแรงม้าจะไม่หวือหวา แต่จุดที่น่าสนใจ คือ น้ำหนักโดยรวมเพียง 1,080 กก. ทำให้อาวุธของโรดสเตอร์คันนี้ คือ อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าที่ต่ำ แต่จะส่งผลดีต่อสมรรถนะโดยรวมแค่ไหน มาดูกันเลย กับคู่เปรียบเทียบ คือ อีกหนึ่งรถสปอร์ทเน้นความสนุกของการขับขี่ แม้จะเป็นตัวถัง จีที หลังคาแข็ง นั่นคือ โตโยตา 86 เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 200 แรงม้า น้ำหนักโดยรวม 1,250 กก.
เริ่มด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เอมเอกซ์-5 ทำได้ที่ 8.4 วินาที ส่วน 86 คือ 9.2 วินาที ตามด้วยอัตราเร่งระยะ 0-1,000 ม. เอมเอกซ์-5 ทำเวลาไป 29.6 วินาที (ที่ความเร็ว 176.2 กม./ชม.) ส่วน 86 ทำได้ที่ 30.0 วินาที (ที่ความเร็ว 180.9 กม./ชม.)
จากตัวเลขในส่วนนี้จะเห็นได้ว่า เอมเอกซ์-5 มีความได้เปรียบในช่วงตีนต้น อาศัยขนาดตัวที่เล็ก น้ำหนักที่เบา มีความกระฉับกระเฉงกว่ารถสปอร์ทขนาดใหญ่กว่าอย่าง 86 แต่ในช่วงความเร็วปลาย 86 ดูจะตีตื้นเข้ามาได้มากขึ้น พร้อมกับความเร็วตีนปลายที่มากกว่าเล็กน้อย โดยการอาศัยแรงม้าที่มากกว่า
อัตราเร่งยืดหยุ่นเสมือนการเร่งแซง ที่ความเร็ว 60-100 และ 80-120 กม./ชม. เอมเอกซ์-5 มีอัตราเร่ง คือ 4.4 และ 5.6 วินาที ขณะที่ 86 ทำได้ที่ 4.8 และ 5.8 วินาที นับว่าสูสีแบบเทียบเท่ากันเลยทีเดียว แต่แสดงให้เห็นว่าการตอบสนองด้านอัตราเร่งของ เอมเอกซ์-5 ทำได้น่าพอใจ ไม่แพ้รถสปอร์ทที่มีพละกำลังมากกว่า ไม่ใช่เพียงอารมณ์ขับสนุกเท่านั้น โดยเฉพาะโหมดสปอร์ท คันเร่งจะตอบสนองได้ฉับไวขึ้น เร้าใจกว่าเดิม
ถัดมา คือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ความเร็ว 60/80/100/120 กม./ชม. เอมเอกซ์-5 ทำตัวเลขออกมาได้ที่ 25.7/23.7/18.6/14.6 กม./ลิตร นับว่าไม่ธรรมดา โดยเฉพาะช่วงความเร็ว 100 กม./ชม. มีตัวเลขที่น่าพอใจมาก เกือบเท่ากับ อีโคคาร์ ด้วยซ้ำ ! แถมในช่วงความเร็วต่ำก็มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยต่ำกว่าระดับ 20 กม./ลิตร แน่นอนว่า เอมเอกซ์-5 รุ่นก่อนหน้านี้ที่เราเคยทดสอบไม่ประหยัดเชื้อเพลิงมากขนาดนี้ ขณะที่ทาง 86 มีตัวเลขที่ 22.6/21.7/17.7/13.4 กม./ลิตร แม้ตัวเลขจะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่โดยรวมยังคงเป็นสปอร์ทยุคใหม่ที่มีการประหยัดเชื้อเพลิงไม่แพ้รถเก๋งใช้งานทั่วไป
SUSPENSION ระบบรองรับ
เดิมที มาซดา เอมเอกซ์-5 มักจะมีจุดอ่อนในแง่ของระบบรองรับในช่วงความเร็วสูง แม้จะขับสนุกในช่วงความเร็วต่ำก็ตาม แต่ใน เอมเอกซ์-5 รุ่นล่าสุด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถูกปรับแต่งให้มีความลงตัวมากขึ้น ด้วยระบบรองรับที่เน้นความหนึบ มั่นคง ทั้งในช่วงความเร็วต่ำ และความเร็วสูง แต่ผสมความนุ่มนวลอย่างพอเหมาะ การขับขี่ทางไกลมีความสะดวกสบายเกินคาด ตัวรถมีความนิ่งที่น่าพอใจ ขับสบายไม่แพ้รถยนต์ขนาดใหญ่ เกาะโค้งได้แม่นยำตามการหักเลี้ยวพวงมาลัย พูดง่ายๆ คือ เอมเอกซ์-5 รุ่นนี้ ตอบสนองได้ทั้งการบังคับควบคุมที่สนุก เชื่องมือ ผสมเข้ากับความมั่นคงในช่วงความเร็วสูง และรองรับหลากหลายการขับขี่
แต่อย่าได้ประมาทโรดสเตอร์คันเล็กรุ่นนี้ อย่าลืมว่า นี่คือ สปอร์ทฐานล้อสั้น ขับเคลื่อนล้อหลัง แม้จะติดตั้งระบบความปลอดภัยตามสมัยนิยม เช่น ระบบป้องกันการลื่นไถล และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ หากผู้ขับเข้าโค้งมุมแคบ และเติมคันเร่งมากเกินไป อาการโอเวอร์สเตียร์จะปรากฏออกมาได้อย่างไม่ยากเย็น หากมองในแง่ของการขับขี่แบบ “โชว์ฝีมือ” อาจไม่เป็นไร แต่สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการกลับรถแบบ ยู-เทิร์น ผู้ขับต้องระมัดระวังการกดคันเร่งให้ดี ไม่เช่นนั้น เอมเอกซ์-5 รุ่นนี้อาจออกอาการ “ซุกซน” เกินเหตุ
หลังจากทดสอบ มาซดา เอมเอกซ์-5 ในหัวข้อต่างๆ เรามีความรู้สึกว่า โรดสเตอร์ยุคใหม่รุ่นนี้มีความหลากหลายกว่าเดิมมาก ไม่ใช่เป็นเพียงรถขับสนุกเท่านั้น ความโดดเด่นรอบด้าน นับตั้งแต่ รูปทรงที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย เครื่องยนต์สมรรถนะดี พร้อมการประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าพอใจ รวมไปถึงระบบรองรับ และการบังคับควบคุมที่หนึบแน่น ขับสนุก แต่มั่นคงในช่วงความเร็วสูง เท่านี้ก็มากพอที่จะหายสงสัยว่า รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศญี่ปุ่น ประจำปี 2558 นั้น “ไร้ข้อกังขา” แสดงให้เห็นว่า รถสปอร์ทขับสนุก ยังเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่หลายคนต้องการ สิ่งที่ต้องทำใจสำหรับโรดสเตอร์คงหนีไม่พ้นเรื่องอรรถประโยชน์ด้านการใช้สอยอาจจำกัดอยู่บ้าง แต่ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับ มาซดา เอมเอกซ์-5 รุ่นล่าสุด