MERCEDES-BENZ EQB

รถคันนี้เป็นดั่งรุ่น GLB ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เบาะนั่ง 7 ตำแหน่ง ที่เก็บสัมภาระมีความจุเหลือเฟือ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา และความอเนกประสงค์ที่อัดแน่น แม้น้ำหนักโดยรวมของตัวรถจะค่อนข้างมาก แต่การขับขี่ยังให้ความรู้สึกนุ่มนวล สะดวกสบาย

ตำแหน่งเบาะนั่งตามสไตล์รถเอสยูวี มีความสูงจากพื้นถนนค่อนข้างมาก มีมุมมองที่กว้างขวาง สิ่งแรกที่ได้สัมผัสเมื่อเข้ามานั่งในห้องโดยสารของ EQB (อีคิวบี) คือ การรายล้อมด้วยการแสดงผลแบบอีเลคทรอนิคตามแบบฉบับค่ายรถจากเมืองชตุทท์การ์ท รูปแบบของเบาะนั่งให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย จัดวางตามแบบฉบับค่าย MERCEDES-BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์) รวมถึงความกว้างขวางที่ใกล้เคียงกับรุ่นเครื่องยนต์สันดาป แผงหน้าปัดมีรูปแบบเหมือนกับบรรดารถยนต์รุ่นเล็กของค่ายรถ รวมถึงการแสดงผลของระบบ MBUX ที่โดดเด่น ช่องแอร์ทรงกลมจำนวน 5 ช่อง ปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ และรักษาความเย็นได้คงที่ เรามีความรู้สึกว่า บรรยากาศโดยรวมใกล้เคียงกับรุ่น GLB (จีแอลบี) จริงๆ กับความเป็นครอสส์โอเวอร์เพื่อใช้งานสำหรับครอบครัวโดยแท้จริง โดย EQB ใช้องค์ประกอบหลายอย่างร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างตัวถัง ระบบความปลอดภัย และรูปทรงที่เน้นเหลี่ยมสัน ขนาดตัวที่ใหญ่พอสำหรับการรองรับเบาะแถวที่ 3 รวมทั้งหมด 7 ตำแหน่ง และที่เก็บสัมภาระความจุรวม 470 ลิตร

 

ประสบการณ์แรกจากการได้ทดลองขับเอสยูวีสุดล้ำสมัยคันนี้ นอกเหนือจากการรองรับผู้โดยสารถึง 7 คน ยังมีระบบอีเลคทรอนิคที่ทันสมัย รวมถึงระบบใช้งานที่ปรับเปลี่ยนการตอบสนองตามรูปแบบการใช้งานในแต่ละวัน แม้น้ำหนักโดยรวมของรถรุ่นนี้จะมากกว่ารุ่นเครื่องยนต์สันดาปเกือบ 420 กก. แต่การขับขี่โดยรวมยังทำได้น่าพอใจ ระบบจัดสรรการหมุนเวียนพลังงานมีประสิทธิภาพดีมาก โดยมีระบบที่น่าสนใจ คือ การคำนวณระยะทำการสูงสุด หลังจากเริ่มการขับขี่ ประเมินระยะทางที่สามารถแล่นได้จนถึงจุดชาร์จประจุไฟฟ้าถัดไป พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบกัน โดยจะพยายามให้อุณหภูมิของชุดแบทเตอรีอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการชาร์จไฟฟ้าที่ใช้เวลาสั้นที่สุด การทำงานลักษณะดังกล่าวอาจเคยพบเจอมาแล้วในรถยนต์รุ่นอื่นๆ แต่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังพิจารณาปัจจัยอื่นๆ แบบเรียลไทม์ นั่นคือ ลักษณะของภูมิประเทศ (เช่น ระดับของทางลาดชันของเส้นทางที่แล่นผ่าน) รวมถึงสภาพอากาศ เพื่อการชาร์จไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (จากความจุของแบทเตอรีสำหรับการใช้งานจริงที่ 66.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง) นอกจากนี้ ยังพิจารณาปัจจัยด้านสภาพการจราจรโดยรวม รวมถึงรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับอีกด้วย

 

คุณภาพที่เชื่อถือได้

ขณะขับขี่บนทางหลวง เราเปิดใช้งานระบบครูสคอนทโรลแบบแปรผันความเร็ว (ติดตั้งมากับระบบรักษาตัวรถให้อยู่กลางเลน เป็นชุดระบบช่วยเหลือการขับขี่ระดับที่ 2) จากนั้นก็ปล่อยให้ระบบควบคุมรถโดยอัตโนมัติ ผู้ขับมีเวลาชมวิวทิวทัศน์รอบข้างได้มากขึ้น แต่ไม่นาน สายตาก็เหลือบไปเห็นรายละเอียดบางอย่างของห้องโดยสาร การเลือกใช้วัสดุที่ผสมผสานกันระหว่างผ้าชั้นดี และวัสดุอลูมิเนียมบริเวณรอบแผงหน้าปัด และวัสดุสีดำแวววาวบริเวณคอนโซลเกียร์ ดูสวยงามลงตัวดีมาก แต่ใครที่สวมใส่แหวน กำไลข้อมือ และนาฬิกา อาจต้องระมัดระวังเรื่องรอยขูดขีดกับวัสดุดังกล่าวเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการใช้วัสดุผ้าคุณภาพดีตามจุดใช้งานต่างๆ วัสดุพลาสติคที่ให้ความนุ่มนวล และการประกอบที่ดีมาก ช่องเก็บของต่างๆ ถูกติดตั้งอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น ที่เก็บของขนาดใหญ่ข้างใต้ที่พักแขน และช่องต่อ USB-C สำหรับโทรศัพท์มือถือ และแทบเลท ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เชื่อว่าจะถูกใจเด็กๆ ที่ร่วมโดยสารอย่างแน่นอน สำหรับการใช้งานยามค่ำ แสงไฟเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสารดูสวยงาม (สามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลาย) ช่วยให้บรรยากาศในห้องโดยสารมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น

 

เราขับรถออกจากทางหลวง สู่เส้นทางสมบุกสมบันเข้าสู่ผืนป่า EQB ยังตอบสนองได้อย่างมั่นคง มีการบังคับควบคุมที่ดี แม้การปรับแต่งระบบรองรับจะเน้นความนุ่มนวล มีอาการโคลงเล็กน้อย แต่ยังสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนที่มีความขรุขระได้ดีมาก เอสยูวีรุ่นนี้สามารถเข้าโค้งได้ดังใจ ตอบสนองการบังคับเลี้ยวได้แม่นยำ แม้จะมีน้ำหนักโดยรวมเกือบ 2,600 กก. ก็ตาม

 

แม้ตัวถังจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ประสิทธิภาพของระบบเบรคก็ทำได้ยอดเยี่ยม ความรู้สึกขณะกดคันเร่งมีความหนักแน่น สามารถหน่วงความเร็วในระยะเวลาอันสั้น มีการทรงตัวที่มั่นคงแม้ขณะเบรคอย่างรุนแรง ไม่มีอาการเบรคล้า (แบบที่พบเจอในรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่น) แน่นอนว่า เอสยูวีสัญชาติเยอรมันคันนี้ไม่เหมาะสำหรับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะการขับในภูเขา แต่รถคันนี้สามารถรองรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหา ด้วยพละกำลังที่เพียงพอของขุมพลัง มีการตอบสนองที่ไหลลื่น เน้นความสะดวกสบาย กับยางขนาด 235/45 R20 ติดตั้งมากับรถทดสอบ

 

รูปแบบการชาร์จที่หลากหลาย

การทะยานไปในแต่ละโค้งทำได้อย่างนุ่มนวล อย่างไรก็ตาม เรารู้สึกว่าการตอบสนองของพวงมาลัยเน้นน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา เหมาะกับการใช้งานในตัวเมือง รวมถึงการเข้าจอดรถ และการหักเลี้ยวที่ความเร็วต่ำ สามารถบังคับเลี้ยวได้อย่างเที่ยงตรง ตามองศาการหมุนของล้อรถ ขณะใช้ความเร็วสูงก็มีความมั่นคงที่น่าพอใจ การส่งกำลังส่วนใหญ่จะไปยังล้อคู่หลัง การส่งกำลังมายังล้อคู่หน้าจะเป็นในบางกรณีเท่านั้น อัตราเร่งตีนต้นมีความฉับไว (ที่ 0-100 กม./ชม. ในเวลามากกว่า 6 วินาทีเล็กน้อย) กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา 4MATIC และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 292 แรงม้า อัตราเร่งขณะออกตัวทำได้ดุดัน ส่งกำลังอย่างไหลลื่น ไต่ความเร็วได้อย่างมั่นคง และมีความสปอร์ทในตัว หากใช้โหมดขับขี่แบบเน้นอัตราเร่ง

 

เมื่อเราลองชาร์จประจุไฟฟ้าให้แก่ตัวรถ กับกล่องจ่ายไฟฟ้าทั่วไปที่ 11 กิโลวัตต์ จากข้อมูลของทาง MERCEDES-BENZ ระบุว่าการชาร์จแบทเตอรีเต็มจะใช้เวลาที่ 5 ชม. กับ 45 นาที ในกรณีที่ชาร์จประจุไฟฟ้ากระแสตรงแบบเร่งด่วน จะใช้เวลาเพียง 32 นาที สำหรับการชาร์จที่ 10-80 % หรือเทียบกัน คือ การใช้เวลาชาร์จ 15 นาที จะแล่นได้ไกล 150 กม. อย่างไรก็ตาม EQB รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ 100 กิโลวัตต์เท่านั้น แม้จะถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่คู่แข่งหลายรายรองรับกระแสไฟฟ้ามากกว่านี้

 

ขณะที่รอการชาร์จไฟฟ้า เราหันมาพิจารณาเบาะนั่งด้านหลัง พนักพิงหลังของเบาะแถวที่ 2 สามารถปรับมุมเอนได้ ช่วยให้การเดินทางไกลมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตัวเบาะสามารถเลื่อนหน้า/หลังได้สูงสุด 140 มม. ช่วยให้มีพื้นที่ของผู้โดยสารมากขึ้น และมีพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มขึ้นอีก 190 ลิตร ในกรณีที่มีผู้โดยสาร 7 คนทุกที่นั่ง พื้นที่เก็บสัมภาระจะเหลือเพียงพอสำหรับกระเป๋าเดินทางไม่กี่ใบ หรือกระเป๋าเดินทางขนาดไม่ใหญ่มาก เราขอแนะนำว่า เบาะนั่งแถวที่ 3 เหมาะสำหรับเด็กเล็กเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับการโดยสารของผู้ใหญ่ นอกจากนี้ ตัวเบาะมีที่พักแขนเพิ่มเติม เหมาะสำหรับเด็กเล็ก (จุดติดตั้งเบาะนั่งเด็กเล็กแบบ ISOFIX มีให้ทุกตำแหน่งของเบาะนั่ง) เบาะนั่งมีความสะดวกสบายสำหรับผู้ใหญ่ที่มีความสูงไม่เกิน 165 ซม. หากผู้ใช้งานนิยมที่จะแวะซื้อเฟอร์นิเจอร์เป็นประจำ EQB สามารถพับเก็บเบาะด้านหลังลงได้ทั้งหมด จะได้ความจุสูงสุดถึง 1,710 ลิตร พื้นห้องโดยสารจะมีลักษณะราบเป็นแนวเดียวกัน

 

ระบบเนวิเกเตอร์ชั้นดี

เมื่อชาร์จแบทเตอรีเต็ม เราก็ออกเดินทางอีกครั้ง เวลาต่อมา เราลองเปิดใช้งานระบบเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชัน การแสดงผลระบุว่า อุณหภูมิของห้องโดยสารอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส เทียบเท่าสภาพอากาศช่วงฤดูใบไม้ผลิ การแสดงผลของ EQB มีความคมชัด สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลายจากการกดใช้งานไม่กี่ครั้ง จุดเด่น คือ การแสดงผลสะท้อนกระจกหน้ามีสีสันหลากหลาย และระบบแสดงผลตามสภาพความเป็นจริงของระบบเนวิเกเตอร์บนจอแสดงผลบนคอนโซลกลาง ทำให้เลี้ยวไปตามโค้งได้อย่างแม่นยำ

 

การใช้งานต่างๆ มีความทันสมัยตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม แป้นใช้งานบริเวณคอนโซลเกียร์ สำหรับใช้งานระบบความบันเทิงบนหน้าจอ (รองรับการใช้งานระบบสัมผัส) ดูล้าสมัยไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ทางผู้ผลิตยังติดตั้งแป้นใช้งานระบบดังกล่าวเอาไว้ เนื่องจากพบว่าการใช้งานบนหน้าจอสัมผัสยังไม่สะดวกเท่าที่ควรในบางกรณี สุดท้ายแล้ว เรามีความพอใจที่พบว่า รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบเสียงสังเคราะห์ ดูราวกับเป็นรถในภาพยนตร์โลกอนาคต ผู้โดยสารมีเพียงเสียงรอบข้างที่เงียบขณะแล่นไปบนถนน สิ่งที่ขัดจังหวะความรื่นรมย์ต่างๆ มีเพียงการหยุดชาร์จประจุไฟฟ้าตามความจำเป็นเท่านั้น

 

การชาร์จแบทเตอรีจนเต็ม สำหรับกล่องชาร์จประจุไฟฟ้าจากครัวเรือนจะใช้เวลาไม่ถึง 6 ชม. สำหรับการชาร์จกระแสไฟฟ้าตรงแบบเร่งด่วน จะใช้เวลาเพียง 32 นาที จาก 10-80 % ภาพด้านข้าง แสดงให้เห็นจุดเด่นของส่วนหน้ารถจากส่วนประกอบที่ใช้วัสดุสีดำแวววาว และเสริมด้วยชุดไฟแบบ แอลอีดี

 

รุ่น 350 4MATIC

ข้อมูลของรถทดสอบจากผู้ผลิต
• กำลังสูงสุด 292 แรงม้า
• แรงบิดสูงสุด 53.0 กก.-ม.

แบทเตอรี
• ลิเธียม-ไอออน ความจุ 66.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง

รองรับการชาร์จ
• กระแสสลับ 11 กิโลวัตต์/กระแสตรง 100 กิโลวัตต์

ระบบส่งกำลัง
• ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
• เกียร์แบบอัตราทดคงที่

สมรรถนะ
• ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.2 วินาที
• อัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า 5.5 กม./กิโลวัตต์ชั่วโมง
• ระยะทำการสูงสุด 419 กม.

มิติ และน้ำหนัก
• ระยะฐานล้อ 2,820 มม.
• ความยาว 4,680 มม. กว้าง 1,830 มม. สูง 1,690 มม.
• น้ำหนักโดยรวม 2,580 กก.

ราคา
• 60,870 ยูโร (ประมาณ 2,120,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)