ธุรกิจ
MG สนับสนุนพลังงานสะอาด
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายรถยนต์ MG (เอมจี) ในประเทศไทย ในฐานะผู้บุกเบิกรถยนต์พลังงานทางเลือก (NEV) ในประเทศไทยอย่างจริงจัง ร่วมผลักดันประเทศไทยเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ตามแนวทางของรัฐที่มุ่งเดินหน้าวางรากฐานการใช้งานรถยนต์พลังงานทางเลือกอย่างยั่งยืน เพื่อกระตุ้นคนไทยให้เห็นความสำคัญ และผลลัพธ์ของการใช้พลังงานสะอาด เผยปีหน้าเตรียมเปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือกสู่ตลาดเมืองไทยอีกอย่างน้อย 3 รุ่น พร้อมเดินหน้าแผนการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สะท้อนความมุ่งมั่น และความเอาจริงเอาจังในการสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งในประเทศไทย เผยทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชา ชนต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการหยุดยั้งวิกฤตโลกร้อนร่วมกับประชาคมโลก
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยล่าสุดในการประชุม COP26 ประเทศไทยได้มีการวางเป้าหมายหลักในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยแกสคาร์บอนสุทธิเป็น 0 (Carbon Neutrality) ภายในปี พศ. 2593 และปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็น 0 (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในหรือก่อนปี พศ. 2608
MG ในฐานะผู้ริเริ่มการสร้างสังคมรถยนต์พลังงานทางเลือก (NEV) และครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดกว่า 90 % ของกลุ่มรถ ยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % ได้สะท้อนแนวทางร่วมผลักดันประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) โดยให้ความสำคัญ เอาจริงเอาจังด้วยการสนับสนุนให้คนไทยรู้จัก และเข้าใจในประโยชน์ระยะยาวของการใช้พลังงานสะอาด เพื่อเป็นการช่วยลดการปล่อยแกสเรือนกระจก (Carbon Footprint) ได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % หรือรถยน ต์พลังงานไฟฟ้าแบบพลัก-อิน ไฮบริด ที่ปัจจุบัน MG มีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น คือ MG ZS EV (เอมจี เซดเอส อีวี), MG HS PHEV (เอมจี เอชเอส พีเอชอีวี) และ MG EP (เอมจี อีพี) โดยนอกจากจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์แล้ว MG ได้ดำเนินการกำหนดมาตรฐานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และสถานีชาร์จไฟฟ้า รวมถึงมีแผนที่ชัดเจนในการขยายสถานีชาร์จ เพื่อเพิ่มความพร้อม และผลักดันให้เกิดผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานทางเลือกเพิ่มมากขึ้น
พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า รถยนต์พลังงานทางเลือก หรือ NEV ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งระดับประเทศ และระดับโลก MG ในฐานะผู้นำในตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกในประเทศไทย เราได้ให้ความสำคัญ และเดินหน้าผลักดันการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกอย่างจริง จังมาโดยตลอด ทั้งการแนะนำรถยนต์พลังงานทางเลือกรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และทำ ให้ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมทั้งลงทุนขยายสถานีชาร์จให้ครอบคลุมทั่วประเทศทำให้วันนี้แบรนด์ MG มีความพร้อมทุกด้านในการรองรับ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในประเทศไทยอย่างเต็มประสิทธิภาพ จะเป็นกำลังหลักในการยกระดับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า และทำให้สังคมยานยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นจริงในประเทศ ไทย อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของสังคมยานยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะความชัดเจนของภาครัฐที่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยขับเคลื่อนสู่เป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ MG ถือเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานทางเลือกที่ได้รับความนิยมในสหราชอาณาจักร รวมถึงประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคยุโรปด้วยยอดขายกว่า 20,000 คัน ในช่วงครึ่งปีแรกของ ปี พศ. 2564 สำหรับประเทศไทย เรามีแผนจะแนะนำรถยนต์พลังงานทางเลือกสู่ตลาดอีกอย่างน้อย 3 รุ่น ภายในปีหน้า
MG กับการเป็นผู้นำ และบุกเบิกตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกในไทย พาคนไทยเข้าใกล้ทเรนด์โลก ส่ง EV บุกตลาดอย่างจริงจัง รั้งตำแหน่งผู้นำรถ EV ในไทย
ย้อนกลับไปในยุคที่คนไทยยังไม่คุ้นเคยกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า MG ได้จุดประกายความนิยมรถยนต์พลังงานไฟ ฟ้าขึ้นในประเทศด้วยการนำรถยนต์ต้นแบบ MG E-Motion (เอมจี อี-โมชัน) มาจัดแสดงเป็นครั้งแรก ในงานมหกรรมยานยนต์ ปี พศ. 2561 เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย ก่อนจะเปิดตัว MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของ MG ในปี พศ. 2562 ด้วยแนวคิด “Easy” เพื่อให้การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นเรื่อง “ง่าย” สำหรับคนไทย ทั้งในด้านของการใช้งาน การดูแล การชาร์จพลังงาน และการเป็นเจ้าของ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และทำให้ตลาดรถยนต์พลังงานไฟ ฟ้าในประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด
หลังจากนั้นในปี พศ. 2563 ได้เพิ่มทางเลือกให้แก่คนไทยให้ได้สัมผัสกับรถยนต์พลังงานทางเลือกด้วยการแนะนำ MG HS PHEV ที่โดดเด่นด้วยระบบพลัก-อิน ไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ที่มีระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้า หรือ EV Range สูงถึง 67 กม. รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ก่อนที่จะเปิดตัว MG EP รถยนต์สเตชันแวกอนพลังงานไฟฟ้า ที่มาพร้อมแนวคิด “Everyone” ในการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของทุกคน โดยสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน ทั้งในเรื่องของระยะทางการขับขี่ ความประหยัด สมรรถนะ ฟังค์ชัน พื้นที่ใช้สอย รวมไปถึงราคาที่คุ้มค่า ในราคา 988,000 บาท ถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าราคาไม่ถึง 1,000,000 บาท ที่มีทุกอย่างครบที่สุดในตลาด และเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยที่จะต้องมีองค์ประกอบพื้นฐาน 4 เรื่องหลัก คือ มิติตัวถัง พื้นที่การใช้งาน, ความสะดวกสบาย ระบบความปลอดภัย, สมรรถนะของ EV และให้ความประหยัด
มากกว่าแค่นำเสนอรถ แต่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ “รถ EV” แจ้งเกิด และเป็นที่นิยมในไทย ปัจจุบัน MG เป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 90 % และมีผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ MG ร่วม 3,000 คัน แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้บริโภค และการเปิดใจรับการใช้งานรถยนต์พลังงานทางเลือกที่มากขึ้น โดยนอกจากที่ MG มีการพัฒนา และนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคแล้ว MG ยังให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานของสังคมยานยนต์ไฟฟ้า โดยมุ่งสร้างความแข็งแกร่ง และเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ให้สมบูรณ์แบบ สามารถรองรับการเติบโตของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการลงนามความร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาห กิจ อาทิ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อยกระดับระบบการรับรอง และมาตรฐานของสถานีอัดประจุไฟฟ้าในประเทศไทย นอกจากนี้ MG ยังได้สร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า MG Super Charge ที่ให้บริการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charge) โดยตั้งเป้าให้มีสถานีชาร์จในทุกๆ 150 กม. โดยได้ติดตั้งที่โชว์รูม และศูนย์บริการของ MG แล้วกว่า 115 แห่ง รวมไปถึงการลงนามความร่วมมือกับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า MG Super Charge (เอมจี ซูเพอร์ชาร์จ) ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ครอบ คลุมทั้งในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น 50 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานของผู้บริโภค
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/388978