กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือ 12 ค่ายรถยนต์ ปรับรถยนต์ใหม่ทุกคันเป็น ยูโร 5 ภายในปี 2564

กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือค่ายรถยนต์ 12 บแรนด์ รวมพลังแสดงเจตจำนงยกระดับมาตรฐาน ยูโร 5 สำหรับรถยนต์ทุกคันภายในปี 2564 ลดการปล่อยฝุ่นพิษร้อยละ 80 และเตรียมยกระดับเป็น Euro 6 ภายในปี 2565 หวังแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว     ดร. สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ได้กลายเป็นปัญหามลพิษทางอากาศที่วิกฤต และคณะรัฐมนตรีมีมติยกระดับการกำจัดฝุ่นละอองให้เป็นวาระแห่งชาติ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะไอเสียจากรถยนต์ที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. เร่งดำเนินการปรับมาตรฐานการระบายสารพิษจากเครื่องยนต์ให้เทียบเท่า ยูโร 5 ภายในปี 2564 และยูโร 6 ภายในปี 2565 เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในอนาคต รวมทั้งขอขอบคุณบริษัทผู้ผลิตและผู้นำเข้ารถยนต์ทั้ง 12 บแรนด์ แทนประชาชนคนไทย และลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ทุกคน ที่บริษัทมุ่งมั่นตั้งใจร่วมผนึกกำลังทุกภาคส่วนในการร่วมกันคืนอากาศ และสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับสาธารณชน ณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า มีบริษัทผู้ผลิตและผู้นำเข้ารถยนต์ 12 บแรนด์ ได้แก่ เอาดี บีเอมดับเบิลยู  อีซูซุ มาซดา เมร์เซเดส-เบนซ์ มิตซูบิชิ มีนี เอมจี นิสสัน ซูซูกิ โตโยตา และโวลโว ที่ตั้งใจร่วมแสดงเจตจำนงและผนึกกำลังในการยกระดับมาตรฐาน เพื่อคืนอากาศสะอาดให้กับประชาชนไทย รวมถึงเป็นการรับผิดชอบต่อลูกค้าและสังคม นอกจากนี้ค่ายรถยนต์จะเร่งรณรงค์ให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์มาตรฐาน ยูโร 4 เติมน้ำมันที่ได้มาตรฐาน ยูโร 5 ที่มีจำหน่ายตามสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศแล้ว ซึ่งจะช่วยลดมลพิษโดยเฉพาะฝุ่นละออง PM ได้กว่าร้อยละ 20-25 ปัจจุบันมีผู้ใช้น้ำมัน ยูโร 5 ในประเทศเพียง 70 ล้านลิตร/เดือน ทั้งนี้ภาคการผลิตมีกำลังการผลิตเต็มศักยภาพ ในปัจจุบันสูงถึง 500 ล้านลิตร/เดือน วันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้มีการบังคับใช้มาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์เทียบเท่า ยูโร 4 ในปี 2555 ในขณะที่กลุ่มสหภาพยุโรป ได้มีการบังคับใช้มาตรฐาน ยูโร 4 ตั้งแต่ปี 2548 และในปัจจุบันสหภาพยุโรปมีการบังคับใช้มาตรฐาน ยูโร 6 แล้ว เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ อาทิ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย รวมถึงจีน และอินเดีย ที่จะเริ่มบังคับใช้มาตรฐาน ยูโร 6 ในปี 2563 เปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ จะเห็นได้ว่าประเทศไทยยังคงใช้มาตรฐาน ยูโร 4 ซึ่งล่าช้ากว่าประเทศที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลกค่อนข้างมาก ทั้งนี้ สมอ. ได้รับข้อสั่งการให้เร่งดำเนินการปรับมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์ให้เทียบเท่า ยูโร 5 ภายในปี 2564 ดังนั้น สมอ. จะเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการ เพื่อจัดทำ มอก. การระบายสารมลพิษไอเสียจากเครื่องยนต์ให้แล้วเสร็จ และให้มีผลบังคับใช้ภายในปี 2564 รวมทั้งจะเร่งดำเนินการปรับมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์ให้เทียบเท่า ยูโร 6 ภายในปี 2565 ต่อไป