กรมการขนส่งทางบก ยกระดับการให้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ ย้ายจุดจอดรถตู้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับปริมาณผู้โดยสาร ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2561 รถตู้โดยสารทุกคันที่จอดให้บริการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ใช้จุดจอดแห่งใหม่เพียงแห่งเดียว ณ สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจักร) บริเวณพื้นที่ใต้ทางด่วน ถนนกำแพงเพชรเท่านั้น
สนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่คณะทำงานเพื่อพิจารณาปัญหาจากการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ประกอบด้วยผู้แทนจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์, กรมการขนส่งทางบก, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, บริษัท ขนส่ง จำกัด, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ, สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร, การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และการรถไฟแห่งประเทศไทย กำหนดให้มีโครงการก่อสร้างสถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจักร) บริเวณพื้นที่ใต้ทางด่วน ถนนกำแพงเพชร ตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ จตุจักร เป็นจุดจอดที่ให้บริการเฉพาะสำหรับรถตู้โดยสารและรถโดยสารขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานที่นำมาวิ่งทดแทนรถตู้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป ประชาชนที่ประสงค์ใช้บริการรถตู้โดยสาร เพื่อการเดินทางในเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร สามารถเข้าใช้บริการ “สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจักร)” แห่งใหม่บริเวณพื้นที่ใต้ทางด่วนถนนกำแพงเพชร ตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ จตุจักร โดยจะย้ายจากจุดจอดชานชาลาเดิมมายังสถานีเดินรถแห่งใหม่ทั้งหมด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องจำหน่ายตั๋ว ห้องพักคอยผู้โดยสาร ร้านค้า ห้องน้ำ และที่จอดรถซึ่งสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารถึง 1,500-2,000 คน ภายในประกอบด้วย 4 อาคาร ได้แก่ อาคาร A เพื่อการรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ, อาคาร B รองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปภาคกลาง, อาคาร C รองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปภาคตะวันออก และอาคาร D รองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปภาคใต้
กรมการขนส่งทางบกให้ความสำคัญกับการรองรับปริมาณผู้โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัย ที่ผ่านมาคณะทำงานเพื่อพิจารณาปัญหาจากการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ได้จัดให้มีจุดจอดชานเมือง อาทิ จุดจอดบางหว้า, รังสิต, พระราม 2, บางนา สำหรับประชาชนที่ไม่สะดวกเดินทางไปยังสถานีหลัก สามารถขึ้นรถได้ที่จุดจอดชานเมืองตามจุดที่กำหนด
นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการกำหนดให้ใช้รถโดยสารขนาดเล็กที่ได้มาตรฐานทดแทนรถตู้ โดยให้นำรถโดยสารขนาดเล็กมาตรฐาน 2 (จ) จำนวนที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง (ที่ไม่ใช่ลักษณะรถตู้) และหรือรถโดยสารมาตรฐาน 2 (ค) จำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21-30 ที่นั่ง ที่มีระบบเบรคแบบ ABS (Anti-lock Brake System) หรือระบบห้ามล้อแบบอื่นที่มีมาตรฐานเท่ากันหรือสูงกว่าพร้อมติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์แสดงผลความเร็ว (Speed Monitor) ตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยเริ่มนำมาเปลี่ยนทดแทนรถตู้โดยสารที่ครบอายุการใช้งาน 10 ปี กรณีรถตู้หมวด 2 กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดทุกเส้นทาง และหมวด 3 ระหว่างจังหวัดกับจังหวัด เฉพาะเส้นทางที่มีจุดจอดรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างทาง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ส่วนเส้นทางหมวด 1 และหมวด 4 ที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และในภูมิภาค รวมถึงเส้นทางหมวด 3 วิ่งระหว่างจังหวัดกับจังหวัด ที่ไม่มีจุดจอดรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างทาง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป เพื่อการยกระดับการให้บริการรถโดยสารสาธารณะให้มีมาตรฐานความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกประชาชนให้เชื่อมต่อการเดินทางอย่างเป็นระบบ สามารถเข้าถึงชุมชนได้อย่างทั่วถึง
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ